26 มิถุนายน 2549 13:02 น.
สติแตก
คงไม่มีคืนไหนในชีวา
ปรารถนาได้เพียงเคียงจอมขวัญ
เพราะว่าในค่ำนี้เรามีกัน
สานสัมพันสายใยให้ยั่งยืน
ในอ้อมกอดอิงแอบอยู่แนบชิด
แต่ดวงจิตฟั่นเฟือนเหมือนขัดขืน
กายกอดฉันใช่ไหมในค่ำคืน
กอดคนอื่นใช่ไหมหัวใจเธอ
7 มิถุนายน 2549 19:03 น.
สติแตก
จันทร์เอ๋ยจันทร์ข้างแรมแต่งแต้มฟ้า
ดวงเอ๋ยดวงดาราเจิดจ้าแสง
ลมเอ๋ยลมกลับพัดสะบัดแรง
เมฆเอ๋ยเมฆเหมือนแกล้งไม่ให้มอง
ดาวเอ๋ยดาวเคยกระจ่างกลางเวหน
จันทร์เอ๋ยจันทร์เคยยลกลับหม่นหมอง
น้ำเอ๋ยน้ำน้ำฝนกลับหล่นนอง
ท่วมเอ๋ยท่วมฝั่งคลองทั้งสองตา
อกเอ๋ยอกเคยพิงอิงไออุ่น
ตักเอ๋ยตักเคยหนุนละมุนหา
พรากเอ๋ยพรากพลัดไปไม่หวนมา
รักเอ๋ยรักร้างลาพาระทม
ฝนเอ๋ยฝนหวนมาในครานี้
โศกเอ๋ยโศกฤดีพี่ขื่นขม
น้ำเอ๋ยน้ำเถิดนะช่วยประพรม
ตรมเอ๋ยตรมจางใจไปเสียที
ขอเอ๋ยขอเมฆฝนที่บนฟ้า
ลับเอ๋ยลับเวหาถ้าหลีกหนี
มองเอ๋ยมองฟากฟ้ายามราตรี
มีเอ๋ยมีเพียงเพื่อคือเดือนดาว
24 พฤษภาคม 2549 22:15 น.
สติแตก
จากหัวใจดวงนี้ที่เหงาหงอย
มันเลื่อนลอยเลอะเลือนเหมือนคนบ้า
มันคร่ำครวญพร่ำเพ้อเสมอมา
จนน้ำตาตกผลึกลึกกลางใจ
กี่วันแล้ววันเล่าคอยเฝ้าห่วง
แม่พุ่มพวงโฉมตรูเจ้าอยู่ไหน
อยู่กับความเงียบงันหวั่นฤทัย
จนถึงวัยเลี่ยมทองของชีวิต
เหมือนดั่งไม้ลอยน้ำตามกระแส
ไม่มีแม้ความรู้สึกสำนึกคิด
ปล่อยไปตามโชคชะตาฟ้าลิขิต
จึงรู้ฤทธิ์พิษเหงาเศร้ายิ่งนัก
ต้องอยู่อย่างท้อแท้ถึงแก่เฒ่า
คงเปลี่ยวเปล่าเดียวดายไร้คนรัก
เหมือนหัวใจไม่เลยเคยรู้จัก
มิพบพักตร์รักหวานให้ซ่านซึ้ง
จนวาระสุดท้ายในชีวิต
พรหมลิขิตขีดขั้นให้ฝันถึง
ลากสังขารบนล้อห้อตะบึง
พบที่พึ่งกับพระเพลิงเชิงตะกอน
4 พฤษภาคม 2549 22:24 น.
สติแตก
เรื่องอะไรไม่รู้ตูละเบื่อ
ไม่อยากเชื่อตัวเองเซ็งจริงหนอ
แค่กับเรื่องของตัวก็มั่วพอ
มันบ้าบอร้าวรวดปวดกะบาล
ยามคนนั้นเริ่มรักกับคนนี้
ก็เห็นมีความสุขสนุกสนาน
พอเริ่มรั่วเริ่มช้ำเริ่มรำคาญ
ความชื่นบานหมดหวังเริ่มนั่งปลง
จำต้องเป็นศิราณีที่ปรึกษา
พึ่งคนบ้าคงรื่นรมย์สมประสงค์
จะได้พากันวุ่นทำงุนงง
ไม่แคล้วคงบ้าบอพอพอกัน
เพราะว่าน้ำท่วมปากไม่อยากโบ้ย
อยากจะโกยอ้าวหนีสักปีฉัน
ให้พวกเขาวุ่นวายให้หายคัน
ใครจะปั่นหัวใครไม่อยากฟัง
ใครก็ได้คนดีมีน้ำจิต
จะเป็นมิตรหรือไม่ก็ไม่หวัง
หากว่ามีฉันนี้ดีใจจัง
ส่งไปนั่งเอ๋อที่ศรีธัญญา
20 เมษายน 2549 21:20 น.
สติแตก
แม้นว่าเธอหม่นหมองต้องราคะ
ถูกใครผละหนีไปใจปวดร้าว
โศกสะอื้นโศกาน้ำตาพราว
นอนเหน็บหนาวกลืนกล้ำเพียงลำพัง
อยากขอให้ระลึกนึกถึงฉัน
ในคืนวันรันทดหมดสิ้นหวัง
ทั้งร่างกายหัวใจไร้กำลัง
น้ำตาหลั่งจะรอรับซับน้ำตา
ถึงไม่ได้ดีเด่นดังเช่นเขา
มิเทียบเท่าที่เธอละเมอหา
เป็นแค่ชายจนจนคนธรรมดา
อาจดูบ้าสติแตกอย่าแปลกใจ
เหมือนกับหมานั่งเฝ้ารอเจ้าของ
คอยเหม่อมองแลหาจะมาไหม
จะรออยู่แม้ผ่านนานเท่าใด
รอด้วยใจด้วยรักด้วยภักดิ์ดี
อย่าได้อายว่าตัวนั้นมัวหม่น
เพราะเหตุผลความรักใช่ศักดิ์ศรี
แม้ใครว่าเธอเป็นโสเภณี
หัวใจนี้จะถนอมพร้อมรักเธอ