17 กันยายน 2551 04:13 น.

อินเตอร์เน็ต...ลวง (Internet deceive)

ศ. ศรา

อินเตอร์เน็ต...ลวง เรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับชีวิตเด็กหนุ่มคนหนึ่งซึ่งยังหลงละเลิงในความสมารถของคำว่า " อินเตอร์เน็ต" 

               " เฮ้ย! นายไปห้องเน็ตกับเราไหม?" นายนามสมุติ เพื่อนที่เรียนอยู่ห้อห้องเดียวกันร้องตระโกนถามหลังจากเลิกเรียนวิชาสุดท้าย ของวันนั้น ด้วยความที่เราเป็นเด็กบ้านนอกและยังไม่เคยได้ลิ้มรสชาติความสามารถของอินเตอร์เน็ตอย่างมากที่เคยเล่นก็แค่เว็บไซต์ชื่อดังของไทยที่หลายคนคุ้นหู เปิดแล้วก็ปิดอยู่อย่างนั้นไม่กล้าเล่นอะไรมากเพราะด้วยควาไม่รู้ด้วยแหละ  "เอาวะ" ไปกับมันกับมันไม่เห็นมีอะไรเสียหายตรงไหน และแล้วก็ตัดสินใจตอบตกลง เดินตามหลังเพื่อนร่วมห้องมายังห้องที่อยู่ท้ายสุดของตึกคณะ ที่วิทยาลัยแห่งหนึ่ง ผมมองเข้าไปด้วยความตื่นเต้น เห็นคนมากมาย ทั้งชายและหญิง นั่งเรียงกันเครื่องใครเครื่องมัน บ้างก็จับกลุ่มกันบ้าง 
               ผมเดินตามแทนเข้าไปทันทีที่มันเปิดประตูห้องนั้น แล้วเสียงเรียกจากผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างหน้านั้น "ลงชื่อ และเวลาเข้าด้วยน่ะค่ะ" ร้องบอก ผมทำตามที่แทนมันทำ ลงชื่อ เวลาเข้า เสร็จสรรพแล้วก็เลือกเครื่องนั่ง ผมนั่งลงด้วยแววตาที่เหลือบซ้ายที ขวาที แล้วนั่งลงที่เก้าตรงข้ามกับหน้าจอเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่วางอยู่ตั้งหน้านั้น แล้วเปิดเว็บไซต์เล่นธรรมดาตามที่ตนเองรู้จัก 
               " โอ้! แม่เจ้า" ผมเห็นผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างผมนั้นเขากำลังนั่งพิมพ์ข้อความที่แป้นพิมพ์โดยไม่มองที่แป้นพิมพ์ ทั้งพิมพ์ทั้งยิ้ม ผมนี่งงเลยเขายิ้มกับใครแล้วยิ้ยิ้มให้ใคร  ในขณะนั้นเองผมมองไปเห็นที่หน้าจอของเขามีความข้อความที่เลื่อนขึ้นลง แล้วเขาพิมพ์ตอบ ทีนี้ผมเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างแล้วละ ถ้าผมคิดไม่ผิดนะ ผมว่าเขาต้องสนทนากับคนอื่นที่ไม่เห็นหน้าอยู่แน่ (ฉลาดซักที) 
              เป็นไงเป็นกันผมตัดสินใจถามเขา " โทษนะครับ กำลังเล่นอะไรอยู่ครับ น่าสนใจจัง" ผู้หญิงคนนั้นหันมาตอบ " แชท" ผมงงใหญ่เลย สักสนใจแล้วสิ กลัวเสียฟอร์มถ้าจะบอกว่า "สอนผมหน่อยได้ไหม" แต่ก็มาถึงขนาดนี้แล้วเป็นไงเป็นกันวะ " เล่นยังไง สอนผมหน่อยได้ไหมครับ" คำถามที่สองที่ผมพูดออกไปแล้วเขามองหน้าแล้วก็หันมายิ้มให้  "ได้สิคะ" นั้นคือคำตอบ 
              เขาชี้บอกโปรแกรมที่ใช้เล่น พร้อมวิธีการลงทะเบียนและวิธีการเล่นอย่างเสร็จสรรพ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่แชทมือใหม่รู้จักกันดี มีคนเข้าไม่ตำกว่า 10000 คนต่อวัน ผมรู้สึกตื่นเต้นและดีใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้เล่นคำว่า "แชท" ซึ่งในตอนนั้นมีผู้คนให้เลือกคุยมากมาย มีทั้งเด็ก หนุ่มสาว เกย์ ทอม ดี้ คนแก่ หลากหลายจังหวัดหลากหลายอาชีพ 
              จากวันนั้นผมไปที่สถานที่แห่งนั้นโดยไม่การเชิญจากนาย หรือใครทั้งสิ้น ไปด้วยความสมัครไปและใจจดใจจ่ออยู่อย่างนั้น คุยหลายวัน คุยหลายคน ทั้งชายและหญิงได้เบอร์โทรบ้าง ซึ่งจดใส่เศษกระดาษที่ฉีกจากสมุดเรียนนั้นเอง เพราะว่าตอนนั้นผมยังไม่มีโทรศัพท์หรอกครับ เด็กบ้านนอกต้องเข้าใจ 
              พอมาถึงห้องซึ่งเป็นที่หอพักที่อยู่ตรงข้ามกับวิทยาลัยติดถนนใหญ่เลย ซึ่งพักอยู่กับเพื่อน 2 คน ซึ่งอยู่คนละอำเภอคนละจังหวัด นานวันเข้าจนทำให้เราสนิทกันมากขึ้น ผมยืมโทรศัพท์เพื่อนโทรไปหาเบอร์ที่ได้มาว่าคนไหนคุยถูกคอและถูกใจบ้าง โทรไปหลายเบอร์คุยแล้วหลายคนก็งั้น ๆ จนผมคุยกับคน ๆ หนึ่งซึ่งอายุแก่กว่าผมประมาณ 2 ปีเห็นจะได้ เขาพูดดีมากจนผมคุยถูกคอมากคุยกันหลาย ๆ เรื่อง  จนทำให้เราสนิทกัน ติดกันเป็นปี่เป็นครุยถึงแม้จะเห็นหน้ากันแค่รูป  ที่เราแลกกันเท่านั้น 
            หลังจากนั้นเขาโทรหาผมผ่านมือถือสื่อสารเครื่องผมตลอดเวลาแม้กระทั้งกลางดึก " นาย อาทิตย์หน้าจะกลับบ้านต่างจังหวัดมาเล่นกับเขาหน่อยน่ะ" บ้านเขาจังหวัดใกล้เคียงกับผม แต่เขาไปเรียนกรุงเทพฯ " แล้วจะให้เขาไปหาที่ไหนล่ะ" ผมถาม "มารับเราที่ขนส่งบ้านเราอยู่ใกล้ขนส่งเลย" นี่คือคำตอบจากเขา  หลังจากนั้นตัวผมเองที่ได้คุยโทรศัพท์กับเขาคืนนั้น ก็นั่งคิด นอนคิดว่ากูจะไปดีไหมโดยที่ไม่เล่าให้ใครฟังเลยแม้แต่น้อย ใจหนึ่งก็คิดว่าจะคิดกับเราแบบไหนหนหนอ? แบบเพื่อนหรือมากกว่านั้น แต่สำหรับผมแล้วไม่มีอะไรมากกว่าคำว่า มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน ผมตอบตกลงหลังจากได้คิดทบทวนอย่างดีแล้ว 
           เมื่อวันเสาร์ที่นัดไว้ก็มาถึงผมเตรียมเก็บกระเป๋าใบหนึ่งพร้อมเสื้อ 2 ชุด ไปขึ้นรถประจำทางที่ขนส่งในตัวเมือง ระหว่างทางทั้งกลัว ๆ กล้า ๆ จะเกิดอะไรขึ้นกับกูวะ? เจอเขากูจะทำอย่างไรก่อนดี? ตอนนั้นบอกจริงทำตัวไม่ถูกเลย พอรถจอดที่ขนส่งของตัวเมืองอีกจังหวัดหนึ่ง ผมลงรถเดินไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะ แล้วหยอดเหรียญกดเบอร์โทรที่ตัวเองจำได้แม่นโทรหาเขา "อยู่ไหนครับ" คำถามจากผม "อ้อ..รอตรงที่นั่งรอรถฝั่งซ้ายมือ มาตรงแล้วกัน" นี่คือคำพูดสุดท้ายของก่อนที่ผมจะได้เจอเขา 
             ทันทีที่ผมเจอผมก็ยกมือไหว้เขาแล้วเขาก็ไหว้ตอบ ผมเห็นเขาในชุดธรรมดา กางเกงขาสั้น เสื้อยึดสีขาว คงมาถึงตั้งแต่เมื่อคืนมั่ง แล้วเราสองคนก็เดินตามถนนคอนกรีตเพื่อเข้าไปในบ้านเขา "นี่บ้านยายผม เป็นบ้านเก่าที่ยายไม่อยู่แล้ว ให้ลูกบุญธรรมอยู่" เขาบรรยายให้ฟัง แล้วเขาก็แนะนำคนแก่หลังค่อมซึ่งเขาเรียกว่าลุง ซึ่งเป็นลูกบุญธรรมของยายเขาให้ผมรู้จัก พอผมนั่งคุยกับเขาต่าง ๆ นานานา กับเขาเรียบร้อยได้เวลาประมาณ 10.00 น. เขาถามว่า "กินข้าวมาหรือยัง"  "ยังครับ" ผมตอบเขา "งั้นเราไปกินข้าวกัน ที่บ้านป้า" เขาบอกผมอย่างนั้น  แล้วผมก็เดินตามเขาไปที่บ้านป้า เขาแนะนำให้รู้จักป้าเขาเรียบร้อย ป้าเขาต้อนรับผมอย่างเป็นมิตรดีมาก แถมว่าผมเป็นคนนิสัยดี น่ารักอีกด้วย เขาชมไม่เข้าตัวเองหรอก หลังจากทานข้าวเช้าเราก็นอนดู ทีวี คุยกันตามประสาคนรู้จักกันตอนแรก    จนเวลาใกล้ค่ำแล้ว 
           " ป้าไปอาบแล้วนะ" เขาร้องบอกป้า แล้วเราก็กลับมาอาบน้ำที่บ้านยายหลังเก่าเขาอีกครั้ง เพราะเราพักกันที่นี่ ผมอาบน้ำพร้อมกับเขาที่บ่อหลังบ้าน ซึ่งเป็นบ่อน้ำที่ต้องใช้คุถังเอาเชือกผูกที่หูถังแล้วตักน้ำขึ้นมาอาบแบบโบราณมาก เราสองคนอาบน้ำกันอย่างสนุกสนาน อาบน้ำเสร็จก็เข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าในบ้าน ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น ข้างล่างเป็นปูน ชั้นบนเป็นไม้ซึ่งไม่มีใครอยู่ แล้วเราอยู่ข้างล่างกัน  ผมนอนกับเขาทั้งที่ไม่มีเตียงนอน มีแค่เสื่อผื่นเดียวกับหมอนคนละใบ พร้อมกับมุ้งที่ลุงคนนั้นเตียมไว้ให้ 
           " นาย พี่รักนายนะ" เสียงออกจากปากของเขาเบา ๆ แล้วหันมองมาที่ผม ด้วยแววตาที่จริงใจมาก ทำให้ผมอึงไปหมดในขณะซึ่งเป็นครั้งที่มีคนมาบอกรักมั่ง  "พี่วีรักผมแบบไหนครับ" คำถามหลุดจากปากผม เผื่อความแน่ใจ "รักแบบอยากอยู่ด้วยมีอะไรด้วยกันอย่างมีความสุข นายไม่รู้หรอกหรอ" พี่วีบอก "แต่เราเป้เป็น...ผุ้ชายด้วยกันน่ะครับพี่" ผมบอก "ไม่เห็นแปลกตรงไหนเลย ในเมื่อพี่รักนาย  แล้วนายก็รักพี่ เราอยู่ด้วยกันได้"  ด้วยคำพูดที่ออดอ้อนแล้วแววที่จริงใจอขงพี่นายที่มีให้ผมมันทำให้ผมใจอ่อน "นี่เราเป็นเกย์หรอ?" ผมรำพึงในใจ 
            ณ ตอนนั้นผมทำตัวไม่ถูก จริง ๆ อะไรจะเกิดขึ้นกับเด็กหนุ่มไร้เดียงสาคนนี้ ในเมื่อตกอยู่ในถ้ำเสือเช่นนี้...โปรดติดตามตอนต่อไป				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศ. ศรา
Lovings  ศ. ศรา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศ. ศรา
Lovings  ศ. ศรา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศ. ศรา
Lovings  ศ. ศรา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงศ. ศรา