8 กุมภาพันธ์ 2554 09:36 น.
ศรีสมภพ
มาฆบุรณมี
เพ็ญเดือนสาม.. ยามนี้ มีอดีต
หลายพันชีวิต ไม่คิดหมาย ได้มาพบ
ล้วนอรหันต์ นั้นมี ขีณาสพ
รู้แจ้งจบ พบนิพพาน ผ่านพุทธองค์
เหล่าสาวก ทุกองค์ ทรงบวชให้
ก่อนกระจาย ไปสอนสั่ง ดังพุทธประสงค์
เก้าเดือนหลัง หยั่งตรัสรู้ ยังอยู่คง
ย้อนเดินดง ตรงสู่.. หมู่เพื่อนธรรม !
ดงไผ่บาน ลานทำเล ..เวฬุวันวิหาร
ดุจสวรรค์ จันทร์สว่าง ช่างงามล้ำ
ทรงแสดง แห่งโอวาท.. สัจจธรรม
ปาฏิโมกข์ ประโยคสาม นำใส่ใจ
หนึ่งละเว้น เห็นชั่ว มั่วในบาป
ไม่จ้วงจาบ หยาบต่ำ ถลำไถล
สองทำดี จะมีสุข ไม่ทุกข์ใจ
สามจิตต้อง ผุดผ่องใส ไร้ราคี
ครบองค์ จาตุรงคสันนิบาต
ร่วมประกาศ อัศจรรย์ ในวันนี้
เพ็ญมาฆะ ณ เดือนสาม บุรณมี
เป็นวิถี ที่บริสุทธิ์ แห่งพุทธธรรม !
8 กุมภาพันธ์ 2554 09:24 น.
ศรีสมภพ
แม่ชี..ชี้ทางธรรม
เกิดเป็นหญิง..แท้จริงยิ่งลำบาก
ฝืนใจยากกระดากอายไม่เปิดเผย
ด้วยจารีตประเพณีที่คุ้นเคย
ยากจะเอ่ย เผยใจไขออกมา
ต้องอดทนรนสู้ อยู่เบื้องต่ำ
สู่ทางธรรม ถูกหยามเหยียดเบียดกังขา
บรรลุธรรมไม่ได้ดังชายว่า
มากมายาสาไถย ไม่ถึงธรรม
ศันสนีย์ แม่ชี.. ชี้ให้เห็น
หญิงเฉกเช่น ชาติชายได้ดื่มด่ำ
เพศใช่วัดตัดหนทางหวังถึงธรรม
หนทางนำ กรรมดีที่สำคัญ !
เสถียรธรรมสถาน..บ้านของแม่
อ้อมอกแผ่ ให้แก่ลูกปลุกจากฝัน
สู่ความจริง ปฏิบัติจริงทุกสิ่งอัน
เส้นทางนั้นต้องปั้นแต่งด้วยแรงตน
ทั้งหญิงชาย.. เข้าไปให้แม่สอน
ดับความร้อน กิเลสด้วยเหตุผล
บวชชีน้อย..ค่อยๆฝึกสำนึกตน
เติบโตจนเป็นคนดี มีคุณธรรม
เกิดเป็นหญิง..แท้จริง ยิ่งชายชาติ
หากฝึกหัด ดัดใจไม่ถลำ
ได้ดวงตา..แม่ชีชี้ทางธรรม !
ก็งดงาม ในเบื้องปลาย..เกินชายชาญ
8 กุมภาพันธ์ 2554 09:09 น.
ศรีสมภพ
เส้นฝ้าย ยิ่งใหญ่นัก !
ปุยขาว.. บนราวฟ้า ประกายจ้า อ่าอำไพ
ลอยเด่น เป็นเมฆใหญ่ เหมือนปุยฝ้าย ดูคล้ายฝัน
ปุยเมฆ ก้อนเล็กใหญ่ เลื่อนลอยไป ในฟ้านั้น
ลับหาย อีกไม่นาน คงผ่านผัน พ้นผ่านไป
ปุยฝ้าย..ในไร่กว้าง ขาวสะพรั่ง กลางป่าใหญ่
ปุยขาว ของชาวไร่ ให้ชีวา เลี้ยงชีวัน
ต้นกล้า กว่าเติบใหญ่ ผลิดอกใบให้ผลนั้น
ชูช่อ รอตะวัน อวดดอกบานก้านกิ่งงาม
สาวใย ฝั้นฝ้ายเกลียว มือชาญเชี่ยว เกี่ยวเกาะกำ
ถักทอ ต่อเติมซ้ำ เป็นผ้างาม ..อร่ามตา
ผลพวงยวงใยฝ้าย จากดินกลาย เกาะก่ายฟ้า
ดอกขาว ในราวป่า กลับเป็นผ้า ..เลิศค่าล้ำ
เส้นใย ไหวบางตา เกาะเกลียวหนา น่าเกรงขาม
ร้อยรัด มัดแก่นกล้าม เป็นเชือกล่าม น่าคร้ามกลัว
อยากเป็น เช่นฝ้ายเหนียว ปั่นเป็นเกลียว เกี่ยวพันพัว
ร้อยรัด มัดถ้วนทั่ว ไม่ขลาดกลัว ..ไม่ขาดกลาง
ยิ่งใหญ่ จากฝ้ายนิด ! ถักทอติด คิดสรรค์สร้าง
ทอทบสบใจหวัง เป็นผ้าบาง ช่างงามตา
ปุยขาว ราวฟ้าไกล ค่อยลับหาย ไปจากฟ้า
อ่อนแรง ไม่แกร่งกล้า ทอดทิ้งฟ้า อยู่อาจินต์
เส้นใย จากฝ้ายนั้น คุณอนันต์ ทุกฐานถิ่น
ห่อกาย หนาวหายสิ้น ห่มชีวิน ..สิ้นชั่วกาล
เส้นฝ้าย ที่ไหวบาง ปั่นเปลี่ยนร่างอย่างสร้างสรรค์
เพชรแท้แห่งแพรพรรณ จะผลิบาน..นิรันดร
6 กุมภาพันธ์ 2554 03:11 น.
ศรีสมภพ
คมคน.. คมน้ำ
คมน้ำ ! สุดคมถล่มล้าง
ทั่วทิศทางทะลุทะลวงทุกท่วงท่า
ใดใดกั้นกีดขวางทางลงมา
เหมือนทายท้าความคมถล่มทะลวง
ทิศทางธรรมชาติถูกปัดเปลี่ยน
มนุษย์เขียน ขีดเส้นน่าเป็นห่วง
ไม่คำนึงถึงความจริงสิ่งทั้งปวง
จึงก้าวล่วงบ่วงสัจธรรมนำภัยมา
ตัดไม้ ทำลายป่าน่าอนาถ
ล่วงล้ำ.. ธรรมชาติหวาดผวา
ขุดถมขวาง ทางน้ำไม่นำพา
เหมือนทายท้าธรรมชาติวิบัติภัย
แล้ววันหนึ่ง.. ก็ถึงซึ่งความสัจจ์
โลกข้องขัดอัดอั้นมิทานได้
ต้องสั่งสอนมนุษย์บ้างช่างเป็นไร
ให้รู้ไว้ใครรุกเข้า..โลกเอาคืน !
ฝนกระหน่ำน้ำท่วม อ่วมจมมิด
ทุกชีวิต ต่างหนีน้ำช้ำสุดฝืน
ไร้ผืนดินถิ่นฐานบ้านเหยียบยืน
สุดขัดขืนฝืนสู้ ..ผู้แค้นเคือง
ฟ้าคำรามน้ำไหลทลายถล่ม
บ้านเรือนล้มล่มแหลกแตกลอยเฟื่อง
โกลาหลบ่นลั่นกันทั้งเมือง
บ้างแค้นเคืองด่าฟ้าดินสิ้นยางอาย
มนุษย์เอ๋ย ! เคยไหมได้สำนึก
และรู้สึกตรึกตรองมองเห็นได้
มีชีวิตเป็นอยู่ แค่ผู้อาศัย
ทำตัวใหญ่ไม้รู้ดี ขี้บนหลังคา !
เจ้าของบ้าน สุดทานทนจึงบ่นบอก
คืบลามศอกบอกให้อย่าได้ช้า
รีบกลับตัวกลับใจ ใส่นำพา
โลกอ่อนล้าร้อนรน..เพราะคนทำ
คมน้ำ.. แม้สุดคมถล่มล้าง
แต่ก็ยัง แพ้คมคน บนผืนน้ำ
คมกิเลส.. ทะลวงใจให้กระทำ
ทะลุน้ำถล่มพื้น.. เกินฟื้นฟู !
6 กุมภาพันธ์ 2554 03:04 น.
ศรีสมภพ
เพลงไผ่
.. ลมแรงไล่ ไผ่เอน เล่นลมลู่
ไผ่ใคร่อยู่จึงลู่ลม ล้มให้ผ่าน
โอนอ่อนน้อมถ่อมตนอยู่ทนทาน
ลมร้ายนั้นรานแค่ปลาย..ไผ่อยู่ยัง
พุ่มไสวใบหนาท้าแดดเผา
ใต้ร่มเงาเนานับกับความหลัง
กอไผ่เบียด เสียดสีมีเสียงดัง
เสนาะจังฟังเพลงบรรเลงพา
ใต้ต้นตอ หน่อโผล่พ้นดินผาก
เป็นผลฝากจากแม่แพร่พันธุ์กล้า
ไผ่ตงหวาน ฝานต้มแกงแจงจัดมา
ไผ่รวกหนา สานฝากั้น บ้านโบราณ
แสนสุขจัง นั่งห้างสร้างด้วยไผ่
บนต้นไม้ไพรพงดงสถาน
กอไผ่อยู่ คู่เคียงคนจนชั่วกาล
แตกลูกหลานกันใหญ่มากมายจริง
ไผ่บงบางไผ่ซางหนา น่าพันผูก
ไผ่สีสุก ปลูกในบ้านแตกก้านกิ่ง
มงคลไม้ ให้ซื่อตรง คงพึ่งพิง
ระยับยิ่ง กิ่งไผ่ทอง งามต้องใจ
.. ลมลู่ใบ ไหวเพลิน ไผ่เงินพริ้ว
ขลุ่ยไผ่ผิว หวิวหวีด ชีวิตไผ่
เกิดจนตาย ให้ผลพูน คุณต้นใบ
แสนยิ่งใหญ่ ไผ่พันธุ์.. นิรันดร !