10 มีนาคม 2554 02:27 น.
ศรีสมภพ
ตาลปัตร..วิบัติแห่งโลก
โลกวิปริต ผิดแผก จวนแตกดับ
แผ่นดินใกล้ โถมทับ สรรพสิ่ง
น้ำท่วมล้น คนล้มหาย ไร้พักพิง
บอกความจริง ทุกสิ่งเน่า โลกเอาคืน !
ค่าเงินล้า ค่าแรงถูก ทุกหย่อมหญ้า
มนุษย์บ้า กล้าห้ำหั่น กันสุดฝืน
คนดีแพ้.. แต่คนชั่ว ยังหยัดยืน
ยากพลิกฟื้น ฝืนยุติธรรม สุดนำพา
ทุกสิ่งสรรพ สลับกัน มันน่าคิด
น้ำเต้ากลม ถอยจมมิด ปริศนา
กระเบื้องแบน แล่นลอยฟู ดูทายท้า
สุดกังขา กลับตาลปัตร วิบัติภัย
เศรษฐกิจ ตกสะเก็ด เจ็ดชั่วโคตร
เหมือนโจรโหด กดหน้าคว่ำ ร่ำโหยไห้
ข้าวไม่ได้กล้ำ น้ำน้อยกลืน ฝืนข่มใจ
แบ่งฝักฝ่าย.. ไล่ฆ่าฟัน สนั่นปฐพี !
9 มีนาคม 2554 02:36 น.
ศรีสมภพ
ยายไฮ ขันจันทา
มหาบัณฑิตสิทธิมนุษยชน
เสียงหมอลำ..สำเนียงเสียงพื้นบ้าน
หญิงอีสานขานขับกับผืนน้ำ
ความตัดพ้อต่อว่าข้ามีกรรม
ถูกเหยียบย่ำจำยอมไม่พร้อมใจ
สร้างอ่างใหญ่ใกล้ที่นาของข้านี้
น้ำท่วมปรี่จมผืนฝืนไฉน ?
นาเคยทำน้ำพอดีมีที่ไป
หมดทางไหลไม่มีนาหาทำกิน
ข้าขอสู้..สู่เป็นธรรมรัฐล้ำสิทธิ
ใช่จักคิดดื้อด้านต้านหมดสิ้น
หมดหนทาง หมดที่ไม่มีกิน
สู้เพื่อถิ่น ตราบสิ้นใจได้สิทธิคืน
สามสิบสองปี..ที่อดทนและทนอด
ไม่เคยทดท้อแรงแข็งข้อขืน
ใช้สันติวิธีที่ยาวยืน
รัฐจึงยื่น คืนผืนนาตีค่าเงิน
สมัชชาคนจน ยังผลให้
ถือยายไฮ เยี่ยงผู้กล้าน่าสรรเสริญ
สู้เพื่อสิทธิถูกลิดรอน สอนเผชิญ
ระหกระเหินเนิ่นนาน..บ่ย่านเกรง
เสียงหมอลำ..มหาบัณฑิตสัมฤทธิ์ผล
ยอดคนจน จำทนสู้ผู้ข่มเหง
อุปสรรค หนักสุดกู่ สู้เอาเอง
คือบทเพลง บรรเลงก้อง..ของยายไฮ !
มหาวิทยาลัยรามคำแหง มอบปริญญารัฐศาสตร์
มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ให้ "ยายไฮ ขันจันทา"
ยกย่องเป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนมายาวนานร่วม 32 ปี
เมื่อ ๙ มี.ค.๕๓
9 มีนาคม 2554 01:17 น.
ศรีสมภพ
มอดไม้..ปลายด้ามขวาน
ด้ามขวาน..มือกร้านจับ
ฟันฉับๆ สับท่อนไม้
ผ่าแล่งเพื่อแบ่งให้
นำไปใช้ได้หลายงาน
ไฟฟืนทำคืนอุ่น
คือค่าคุณดุ้นฝืนนั้น
ด้ามถือคือหนึ่งงาน
ร่วมตัวขวานสานสับฟืน
บัดนี้..มีมอดไม้
กัดกินก่ายให้แข็งขืน
อาจหาญผลาญด้วยปืน
หวังกัดพื้นผืนปลายด้าม
ขวานใหญ่..หากท้ายกุด
ขยายจุดมอดมุดขย้ำ
ท้ายหดหมดที่กำ
มือจับด้ามทำไม่ได้ !
ทั้งด้าม และตัวขวาน
ผสมประสานสร้างงานใหญ่
จะจับฝืนผ่าฟืนอย่างไร ?
หากมือไม้ไร้ด้ามกำ !
จงหยุด..จุดมอดเกิด
ก่อนเตลิดเกิดเพลี่ยงพล้ำ
ร่วมจิตคิดและทำ
รักษ์ปลายด้าม..จะทำอย่างไร ? !
8 มีนาคม 2554 11:52 น.
ศรีสมภพ
วีระบุรุษบันนังสตา
สมเพียร พากเพียรพยายาม
เติบโตตามวิถีที่ขัดสน
จากจ่าเพียร..ไต่เต้าได้เป็นนายคน
สู้ทานทนสร้างผลงานรู้กันดี
สี่สิบปี..พิทักษ์รักษาชาติ
กล้าฉกาจบาดเจ็บกายไม่เคยหนี
ก่อนเกษียณหวังไว้ได้ความดี
พักชีวีที่ตรากตรำนำครอบครัว
ชายแดนใต้ลำเค็ญไร้เส้นสาย
รายชื่อหาย..ใครหนอทำช่างต่ำชั่ว
รับราชการผ่านความตายไม่เคยกลัว
หวังย้ายตัวครอบครัวหนุนอบอุ่นใจ
อนิจจา ! หมดเวลาผู้กล้าแกร่ง
ระเบิดแรงแซงมาพรากจากไฉน ?
เหลือเพียงร่างสร้างความดีที่ลือไกล
ต้องมาตาย..ไร้ความดีที่ตอบแทน
จงไปดี.. วีระบุรุษบันนังสตา
ขอผู้กล้าอย่าห่วงถิ่นหวงแหน
มากพอแล้วกตัญญูสู้ทดแทน
เพื่อดินแดนแผ่นดินจนสิ้นใจ
เอกสมญา สมฉายากล้าฉกาจ
พิทักษ์ชาติพิทักษ์ราษฎร์..จนสุดท้าย
สมญานามแห่งความดีที่ยิ่งใหญ่
จารึกไว้ในแผ่นดิน..สิ้นชั่วกาล !
รำลึก ๑ ปี พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา
วีระบุรุษบันนังสตา และนักสู้แห่งเทือกเขาบูโด ! ผู้จากไป
8 มีนาคม 2554 11:43 น.
ศรีสมภพ
พญาอินทรีย์.. กวีดิบ
มวลอักษร..ร่อนรำ ระบำร่า
เพลงอักษราหวิวหวีดกรีดก้องฝัน
บรรณภพสยบพร้อมยอมทั่วกัน
งานรังสรรค์ "รงค์"เรืองเปรื่องปรัชญา
ปักปากกากล้าแกร่งแห่งปัจเจก
ร่ายสรรเสกเอกลักษณ์นักเขียนกล้า
กวัดแกว่งคมเคี่ยวคั้นกลั่นออกมา
โลดแล่นร่าท้าทายให้สะท้อน
ศิลปินแกร่ง แห่งชาติ ประกาศชื่อ
นามระบือลือลั่นสรรค์อักษร
พญาอินทรีย์ กวีครวญสำนวนร้อน
เอาอักษร ดิบดิบ หยิบเต้นรำ !
เปล่งปรากฏบทตนคนน้ำหมึก
คารมคม โน้มนึก สุดลึกล้ำ
ฉีกออกแถว แนวเฉพาะไม่เกาะกำ
ปล่อยอักษร ร่อนรำ เป็นตำนาน
อักษรา.. คงท่ารำ เต้นรำต่อ
สัจจังหนอ ! ก่อร่างสร้างนักฝัน
โลกความจริง ทิ้งร่าง"รงค์" ปลงนิรันดร์
เหลือโลกฝัน บรรณภพ..สยบโลกา !
รำลึก ๒ ปี..พญาอินทรีย์/รงค์ วงษ์สวรรค์
ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2538 ..ผู้จากไป