17 กันยายน 2554 12:31 น.
ศรีสมภพ
เห็นโลงศพ บนศาลา
คนต่างมานั่งท่าไหว้
มือพนมก้มน้อมกาย
พึมพำไปใครไม่รู้
พระสวดจบ ตลบหลัง
หลายมุมฝั่งนั่งล้อมหมู่
ทั้งนั่งยืน ยื่นหน้าดู
เสียงดังอู้ ..สู้ไฮโล !
ดื่มและเล่นนั้นเป็นบาป
แต่เจ้าภาพกลับแกล้งโง่
พระประธานนั่งทนโท่
ยังฉาวโฉ่ โชว์รายเรียง
ดอกไม้สด งดงามชื่น
ไม่กลมกลืนฝืนความเที่ยง
มรณาคู่คาเคียง
กล่อมด้วยเสียง มโหรี..
ก่อนจะเผาเข้าเตาจุด
ต่างมุงมุดมองร่างผี
ปิดจมูกกันทุกที
เบือนหน้าหนีเหม็นผีตาย
ลงจากเมรุ เห็นเจ้าภาพ
ยืนลำดับรับซองไหว้
ของชำร่วยช่วยรับไป
แล้วแยกหาย ไปเร็วพลัน
โลงศพใหม่ในศาลา
วนเข้ามา ณ ที่นั้น
กลบเกลื่อนไป คงคล้ายกัน
สำนึกนั้น ..มันยังไร้
จะกี่โลง คงไม่หวัง
น้ำตายังไม่หลั่งไหล
รอถึงตัว คงกลัวตาย
มันคงไหล..ไม่รู้ตัว !
16 กันยายน 2554 10:27 น.
ศรีสมภพ
น้ำท่วมไหม ? คำทักทายในวันนี้
ทั่วทุกที่มีปัญหาสาหัสหนัก
สวัสดี ไม่มีใครใช้ทายทัก
ต่างจมปลัก อุทกภัยสุดใหญ่หลวง
ขึ้นมากไหม? ในทุกเช้าที่เฝ้าถาม
ระดับน้ำ สูงขึ้นตามด้วยความห่วง
นอนไม่หลับกระสับกระส่าย ให้คืนล่วง
น้ำไม่หลับ ขยับช่วงล่วงหน้าคน
นึกก่อนนั้น กั้นที่นาคิดว่าไหว
ถูกท่วมหายในวันรุ่งมุ่งถนน
กระสอบทรายทบหลายชั้นมันยังล้น
โถมบ้านคน อลหม่านบานตะไท
เร่งก่ออิฐฉาบปูน หนุนของขึ้น
ขยับยื่น พื้นบ้านเพิ่มชั้นใหม่
ฝนเจ้ากรรมพรำทั้งวันมันช้ำใจ
น้ำเจิ่งนองนั่งร้องไห้ ใต้ฟ้าดำ
คำทำนายน้ำท่วมโลก..อกเริ่มสั่น
หรือถึงวันอันตรายภัยกระหน่ำ
เครียดคิดหนักอยากปลง คงสิ้นกรรม
ฟ้ามืดดำฝนพรำต่อ..อยู่รอใคร
จะรอดไหม? ถามใจในคืนนี้
หลังคามิดปิดทางหนีไปที่ไหน
เหลือเพียงเราเท่านี้หรือ ? ยื้อความตาย
คำสุดท้าย..ที่เฝ้าถามก่อนน้ำกลืน !
ฟ้าทะมึน ผีนน้ำเรีบบเป็นแนวราบ
ทุกสิ่งดับลับหายนอนใต้พื้น
คำทำนายที่ยิ่งใหญ่ใจยังตื่น
มันหยิบยื่นความตาย ใช่ไหมหนอ ?
" น้ำท่วมไหม? " ทายทักไม่อยากเทียบ
กับคำเรียบ " สวัสดี " ทีเคยจ้อ
ไม่อยากฟังคำใหม่ใจมันท้อ
สวัสดี ! ที่อยากขอจ้อคำเดิม...
14 กันยายน 2554 11:50 น.
ศรีสมภพ
น้ำฟ้า.. เป็นห่าฝน
ถล่มล้นบนแผ่นพื้น
เจิ่งนองต้องกล้ำกลืน
ทั่วทั้งผืนแผ่นดินไทย
๒๕ ลุ่มสายน้ำ
คือที่ต่ำน้ำหลากไหล
โถมถั่งตามทางไป
สุดขวางไว้ไร้ต้านทาน
ทั่วทิศวิกฤติกล้า
ท่วมทั่วหน้าหลังคาบ้าน
ล้มหายเจ็บตายกัน
ภัยมหันต์.. มันโถมมา
ครวญคร่ำ น้ำตาหมด
ใส้ก็หด สลดล้า
เห็นหนี้ท่วมที่นา
หมดน้ำตา ..หมดน้ำทน
น้ำปาด ..ปาดน้ำตา
กระแทกป่าปะทะล้น
ถมหมู่บ้าน ผลาญหมู่คน
หายบัดดล..จนบัดนี้ !
น้ำปิง..นิ่งน้ำเหนือ
ท่วมทุกเมื่อไม่เหลือที่
น้ำวัง ..คลั่งเหลือดี
โถมท่วมปรี่ รี่ไหลล่อง
น้ำยม ..ขย่มไม่ยั้ง
ท่วมทุกครั้งทั้งฝั่งสอง
น้ำน่าน ..ถลันนอง
ท่วมถิ่นผองร้องครางครวญ..
เจ้าพระยา.. อ้าอกกว้าง
สี่สายหลั่ง คลั่งกำสรวล
นครสวรรค์ สุดปั่นป่วน
รับน้ำมวลเมืองจวนพัง
เมืองอุทัยและชัยนาท
ก็ท่วมกวาดสุดปัดยั้ง
สิงห์บุรี มิดหมดหลัง
ลึกสุดหยั่ง เมืองอ่างทอง
บางบาล.. ท่วมนานมาก
ก่อนไหลหลากหนักขาล่อง
อยุธยา น้ำตานอง
ล้มคันป้องเก็บของวุ่น
ประทุมฯ เมืองลุ่มสุด
อุตลุดสุดหัวหมุน
กรุงเทพ เซฟอย่าสูญ
ทะเลหนุน..ยากจุนเจือ
เหนือ อีสาน ตก ตะวันออก
ใต้ข่าวบอกไม่มีเหลือ
ทิ้งรถมาถ่อเรือ
หมดข้าวเกลือไม่เหลือกิน
ในทีวี..ก็มีท่วม
สองฝ่ายร่วมสวมบทหิน
กัดกันน้ำลายริน
เรื่องทักษิณ ลิ้นลื่นไหล
เมืองถล่ม จมน้ำอ่วม
น้ำลายท่วมร่วมสาดใส่
ราษฎร์หนอ..รอวันตาย
จมน้ำลาย ..ไล่ฟัดกัน !
เธอสุขสันต์ ..ฉันสุดทน !
ท่านสุขสันต์ แต่ชาวบ้านนั้นสุดทน ! (ขอบอก)
13 กันยายน 2554 12:37 น.
ศรีสมภพ
บทกลอนสอนให้ได้คิด
เรื่องศิษย์กับครูคู่นี้
ว่าครูคือใครกันนี่ ?
ใคร่ชี้ครูศิษย์ผิดด้วย
แม่พิมพ์บิดเบี้ยวเกลียวผิด
ปั๊มศิษย์ผิดแบบแสบห่วย
จมปลักนักเลงนักมวย
ร่วมด้วยช่วยเสริมเติมกัน
ตำรวจ,ปกครอง หมองหวัง
เกียร์ว่าง ต่างผลักลักลั่น
แพ้เด็ก เกกเกเพพาล
วันวัน ผ่านไปไม่จริงจัง
วิชาหน้าที่-ศีลธรรม
เคยพร่ำคำสอนก่อนหวัง
ล้มเลิกแบบเรียนเปลี่ยนมั่ง
เด็กพัง ต่างเตลิดเปิดเสรี
แก้เหตุเปรตน้อย อย่าถอยท้อ
แก้พ่อแก้แม่ อย่าแชหนี
แก้ครูแก้ไข ในวันนี้
เด็กดี มีแบบอย่างวางโมเดล !
ไม่สาย.. ใคร่ชี้ มีแบบผิด
ก้มมองตรองคิด ผิดที่เห็น
แก้แบบแก้ที่ตัว ทั่วประเด็น
ให้เขาเห็นให้เขาเป็น..เช่นแบบดี
แบบเลว เด็กเลว มันเกี่ยวกัน..
11 กันยายน 2554 23:07 น.
ศรีสมภพ
ตะวันกล้า.. ส่องแสงทุกแหล่งชั้น
นับอนันต์ในความแรงแห่งแสงฉาย
รังสีแผ่ รังสรรค์สร้างอย่างมากมาย
ด้วยอุ่นไอความดี ..ที่กล้าแกร่ง
ดุสิต.. คิดการใหญ่ ด้วยใจมั่น
จะต่อต้านพาลภัยให้หน่ายแหนง
การโกงกินกัดกร่อนซ่อนระแวง
ที่แอบแฝง แบ่งชิ้นเกาะกินนาน
เขาสั่งสม อุดมการณ์อันสูงส่ง
เป็นบอสใหญ่ ที่ยิ่งยงดำรงมั่น
เป็นประธานหอการค้ามาช้านาน
กอรปการงาน ยิ่งใหญ่ไทยยิ่งยง
ยุทธศาสตร์ ชัดเจนประเด็นต้าน
คอรัปชั่น บั่นชาติปัดให้โปร่ง
ด้วยสำนึก แห่งความดีที่ยังคง
เปิดหน่วยงานต้านการโกง ให้งงงัน !
เขากล้าหาญ จะผลาญชั่วที่กลั้วกล้ำ
ใครไม่ทำ เขาจะทำนำทางมั่น
ตอบแทนคุณหนุนแผ่นดินถิ่นราชันย์
คอรัปชั่น..มันกัดกร่อนบิดรแดน
ตะวันกล้า..ต้องคล้อยจากก่อนฝากไว้
ถึงดวงลับดับไปให้ยึดแน่น
ต้านคนโกง คงคนดีอย่างมีแผน
เป็นตัวแทนดุสิต ..พิชิตมาร !
ประเมิณทรัพย์ นับแสนล้านผ่านออกเข้า
ตุงกระเป๋าเหล่าฉ้อราษฎร์ฉลาดผลาญ
แอบบังหวงลวงบัญชีมีจัดการ
กินเบอะบาน ชาติบรรลัย ..จัญไรจริง !
ร่วมไว้อาลัยแด่ ..ตะวันกล้า ฝ่าวิกฤติ
..ดุสิต นนทะนาคร
๖ ก.ย.๕๔
@@@@@@@@@@@@@@@@@@
นายดุสิต นนทะนาคร ประธานสภาหอการค้า
แห่งประเทศไทย และประธานหอการค้าไทย
ได้เสียชีวิตลงในวัย 64 ปี ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ
เมื่อเวลา 20.00 น.ของวันที่ 6 กันยายน 2554
หลังเข้ารับการรักษาอาการป่วยด้วยโรคมะเร็ง
เม็ดเลือดขาว มาได้ระยะหนึ่ง
การเข้าดำรงตำแหน่งของนายดุสิต ในหอการค้า
รวมระยะเวลา 2 ปี 6 เดือน ทำให้องค์กรแห่งนี้
เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะการทำงาน
ในเชิงรุกหลายด้าน ส่งผลให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วม
ในกิจกรรมต่างๆ มากขึ้นสำหรับการดำเนินงานใน
ช่วงท้ายก่อนเสียชีวิต นายดุสิต ได้ให้ความสำคัญกับการ
สร้างความปรองดองภายในชาติ เพื่อให้ประเทศชาติขับเคลื่อน
ต่อไปได้ มิฉะนั้นจะสร้างความเสียหายทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม
และการเมืองอย่างรุนแรง รวมถึงความพยายามลดปัญหาการทุจริต
คอร์รัปชั่น เพราะเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกมานาน และมีแนวโน้ม
เพิ่มมากขึ้น จนอาจทำให้ประเทศล่มสลายได้