4 ธันวาคม 2549 08:48 น.
ศรรกรา
ชายหนุ่มเอาไปรษณีย์มาแนบไว้ที่อกโดยที่ไม่รู้ตัว เขารู้สึกใจหายเหมือนกันที่จะไม่ได้รับไปรษณีย์นั้นอีกแล้ว ทำอะไรคะฝุ่น ชายหนุ่มตื่นจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงปานชนก ไม่มีอะไรหรอก แล้วแผลเป็นยังไงมั่ง หญิงสาวพลิกมือมองดูแผลของตัวเอง ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ โชคดีที่ไม่เป็นแผลเป็น หญิงสาวยิ้ม ชายหนุ่มยอมรับเลยว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ในวันนั้น ชายหนุ่มต้องคอยดูแลหญิงสาวมากยิ่งขึ้น เพราะเขารู้ว่ากอไผ่ไม่ชอบในตัวหญิงสาวอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีความรู้สึกกับหญิงสาวเหมือนแต่ก่อน แต่เขาก็ไม่อยากให้หญิงสาวได้รับอันตรายอะไร เพราะอย่างน้อยหล่อนก็เป็นเพื่อนของเขาคนหนึ่ง
ตั้งแต่วันนั้นข้าวยังไม่เห็นน้องไผ่เลย สงสัยคงเสียใจที่ถูกดุแบบนั้น จู่ ๆ หล่อนก็พูดถึงเด็กสาวขึ้น เนี้ยละมั่งที่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของปานชนก เพราะหล่อนจะมีนิสัยไม่ถือโทษโกรธใครง่าย ๆ ทำให้หล่อนเป็นที่รักกับคนทั่วไป ซึ่งก็รวมถึงเขาด้วยเช่นกัน เดี๋ยวก็หาย ขานั้นโกรธแป๊ปเดียว... ยังไม่ทันสิ้นเสียงชายหนุ่ม กอไผ่ก็โผล่หน้ามา เห็นมั้ยยังไม่ทันไรมาละ สวัสดีค่ะพี่ฝุ่น พี่ข้าว คือว่าไผ่จะมาขอโทษที่ทำไม่ดีวันนั้น เออ...ที่ไผ่หายไปนาน คือไผ่ถักผ้าพันคอมาชดเชยความผิด ไม่รู้ว่าพี่ชอบหรือเปล่า เด็กสาวพูดพร้อมกับยื่นผ้าพันคอสีชมพูอ่อนให้หญิงสาว ปานชนกรับมาดูด้วยความชื่นชน น้องไผ่นี่ก็เก่งนะถักผ้าพันคอสวยและประณีตดี ขอบคุณนะพี่ชอบมากเลย หญิงสาวพับผ้าพันคอ เดี๋ยวพี่ขอเอาไปเก็บก่อนนะ ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวไผ่ไปเก็บให้ดีกว่า พี่ข้าวอยู่คุยกับพี่ฝุ่นก่อนละกัน เด็กสาวฉวยผ้าพันคอมาจากหญิงสาวและเดินเข้าไปในห้องนอนของหล่อนโดยไม่รอฟังคำตอบรับอะไร ชายหนุ่มมองตามหลังเด็กสาวด้วยความไม่ไว้วางใจ
กอไผ่ นำผ้าพันคอมาวางไว้ในตู้เสื้อผ้า และล้วงงูปลอมที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมา เธอเปิดลิ้นชักเพื่อจะเอางูไปใส่ไว้ข้างใน พลันสายตาของเด็กสาวก็เหลือบเห็นซองยา และซองจดหมาย เด็กสาวตกใจมากเมื่อรู้ว่าซองยาที่ว่านั่นคือ ยาบำรุงครรภ์ ทำให้เธออยากรู้ว่าในซองจดหมายต้องมีข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับปานชนกที่ทำให้หล่อนต้องมาอาศัยอยู่กับไต้ฝุ่นถึงที่นี่ ว่าแล้วเด็กสาวก็ถือวิสาสะเปิดซองจดหมายออกมา และสิ่งที่ทำให้เธอตกใจยิ่งกว่าเมื่อมีรูปถ่ายของหญิงชายคู่หนึ่ง ซึ่งแน่นอนหญิงสาวในภาพก็คือปานชนก แต่อีกรูปหนึ่งก็คือ เกริกก้อง พี่ชายของเธอเอง เด็กสาวคลี่จดหมายออกมาอ่านด้วยมือที่สั่นเทา
สวัสดีข้าว
ผมต้องขอโทษที่ไม่สามารถที่จะรับผิดชอบลูกในท้องของข้าวได้ เพราะผมไม่พร้อมที่จะมีครอบครัวได้ในตอนนี้ ผมรู้ว่าข้าวคงจะผิดหวัง และเสียใจไม่น้อยที่ผมทำแบบนี้ แต่ผมยังต้องทำงานหาเงินสร้างฐานะอยู่ ผมได้นำเงินจำนวนหนึ่งสอดมาพร้อมกับจดหมายฉบับนี้ ซึ่งสามารถเป็นค่าใช้จ่ายในการเอาเด็กคนนี้ออกได้ ผมหวังว่าข้าวคงไม่โกรธผม และมีความสุขกับความรักครั้งใหม่ ส่วนผมข้าวก็คิดว่าเป็นอดีตก็แล้วกัน
เกริกก้อง
4 ธันวาคม 2549 08:33 น.
ศรรกรา
ในระหว่างการเดินซื้อของเด็กสาวพยายามไม่ให้คนทั้งคู่เดินเคียงกัน เธอจะเดินแทรกระหว่างชายหนุ่มกับหญิงสาวโดยทำทีไม่รู้ไม่ชี้ พี่ฝุ่นจ้า ...ไปเลือกหนังสือเป็นเพื่อนไผ่หน่อยสิจ๊ะ...เออ...พี่ข้าวไม่ต้องเข้าไปก็ได้นะไผ่เลือกหนังสือนาน หนูกลัวพี่เบื่อ เด็กสาวกล่าวโดยไม่ให้โอกาสให้หญิงสาวได้พูดอะไร ก่อนที่จะฉุดแขนชายหนุ่มเข้าไปในร้านขายหนังสือ เด็กสาวแกล้งเลือกหาหนังสือนู้นหนังสือนี้นานจนกระทั่งชายหนุ่มต้องพูดขึ้น ไผ่..อยากได้หนังสืออะไรบอกพี่เถอะ เดี๋ยวพี่หาให้ คือเราอยู่ในนี้นานแล้วนะ พี่เกรงใจข้าว ป่านนี้คงอยากจะกลับบ้านแล้วล่ะ เด็กสาวเห็นว่านานพอสมควรแล้วจึงไปที่เคาน์เตอร์เพื่อจ่ายค่าหนังสือ และก็เดินออกไป เด็กสาวสะใจที่เห็นหญิงสาวยืนกระสับกระส่าย และบีบนวดขาตัวเองด้วยความปวดเมื่อย ที่จอดรถก็ไกลจากร้านขายหนังสือมากโข ของที่หญิงสาวซื้อมาก็มากทั้งที่ชายหนุ่มช่วยถือให้ก็ยังพะรุงพะรังพอดู เด็กสาวไม่ได้ช่วยถือของโดยอ้างว่าตนเองก็ถือหนังสือที่เพิ่งซื้อมาเหมือนกัน ทั้งที่ความจริงก็สามารถช่วยถือให้ได้แต่เด็กสาวก็เพียงต้องการแกล้งหญิงสาวเท่านั้น กว่าจะขึ้นรถได้ก็ทำเอาทั้งสามคนเหนื่อยพอดู แต่เด็กสาวก็สะใจมาก
ไต้ฝุ่นสังเกตว่ากอไผ่มีพฤติกรรมที่แปลกไปหลังจากที่ปานชนกมาขออาศัยอยู่กับเขา เด็กสาวขลุกอยู่กับเขาทั้งวันต่างจากเมื่อก่อน บางทีเด็กสาวก็เอาสำรับอาหารของตนมากินร่วมด้วยกับเขา ชายหนุ่มสังเกตว่ากอไผ่จะไม่ค่อยชอบปานชนกเท่าที่ควรเพราะเธอมักจะพูดขัดคอหญิงสาวอยู่เสมอ พี่ข้าว พี่มาอยู่ที่นี่ตั้งนานที่บ้านพี่ไม่ห่วงพี่บ้างเหรอคะ ไม่หรอกจ๊ะ พี่บอกทางบ้านไว้แล้วว่าพี่จะอยู่ที่นี่สักพักนะ แต่พี่เป็นผู้หญิงมันจะดีเหรอที่อยู่กับ... เด็กสาวหันไปมองที่ชายหนุ่ม ทางบ้านพี่ไม่รู้หรอก แต่พี่กับพี่ฝุ่นไม่มีอะไรหรอกรับรองได้ หญิงสาวพูดแก้ต่างให้ตัวเองเสร็จ เออ..พี่ฝุ่นวันนี้เรามาทำอะไรกินที่บ้านพี่ดีกว่า เดี๋ยวไผ่จะไปบอกแม่ว่าไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวไผ่จะลงมือเป็นแม่ครัวเองวันนี้ เด็กสาวอาสา ก็ดี..เพราะครัวที่นี่ไม่ได้ทำอาหารมานานแล้ว เดี๋ยวเราไปจ่ายตลาดกัน ข้าวไปด้วยเปล่า ชายหนุ่มชวน คงไม่ต้องหรอกพี่ข้าว ตลาดไม่มีอะไรน่าไป และเราต้องเลือกซื้อของนาน ไผ่กลัวพี่ข้าวเมื่อยเมื่อคราวนั้นอีก และอีกอย่างเราก็คงไม่ได้ซื้ออะไรเยอะด้วย ไผ่ไปกับพี่ฝุ่นสองคนก็คงพอ พี่ข้าวก็อยู่เฝ้าบ้านละกัน เด็กสาวชิงกล่าวสรุปเหมือนเช่นเคย ทำให้หญิงสาวจำต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง กว่าทั้งคู่จะกลับมาถึงก็นานหลายชั่วโมงทีเดียว ทั้งสามลงมือเข้าครัวโดยมีกอไผ่เป็นแม่ครัวตามที่อาสาไว้ พี่ข้าวลองชิมแกงจืดหน่อยสิค่ะว่ายังขาดอะไร ว่าแล้วเธอก็ตักแกงจืดยื่นให้หญิงสาว ในขณะนั้นเองเด็กสาวก็แสร้งทำแกงจืดหกลวกใส่มือหญิงสาว โอ้ย! หญิงสาวร้องพร้อมกับสบัดมือด้วยความเจ็บปวด อุ้ย! ไผ่ขอโทษเด็กสาวทำหน้าสลด แต่แอบซ่อนรอยยิ้มที่สะใจและชายหนุ่มก็ชำเลืองเห็นรอยยิ้มนั้นด้วย ทำให้ชายหนุ่มเกิดความไม่พอใจเด็กสาวอย่างมากจนทนไม่ไหว นี่ไผ่..พี่รู้นะว่าเราแกล้ง ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย คะ...คือว่า เด็กสาวพยายามพูดแก้ต่างให้ตนเอง พี่รู้นะ ว่าเราไม่ชอบพี่ข้าวเค้า แต่เราก็ไม่ควรจะทำอะไรรุนแรงแบบนี้ เขาต่อว่า พร้อมกับฉวยแขนหญิงสาวไปทำแผล เด็กสาวได้แต่น้ำตาคลอ ฝุ่น...ข้าวว่าฝุ่นว่าน้องเค้าแรงเกินไปหรือเปล่า น้องเค้าอาจไม่ได้ตั้งใจ มันคงเป็นอุบัติเหตุ หญิงสาวไม่สบายใจ หลังจากที่ชายหนุ่มทำแผลให้หล่อนเรียบร้อยแล้ว ผมก็ขอโทษยัยไผ่ด้วย เค้ายังเด็ก เราไปทำอาหารกันต่อเถอะ ป่านนี้น้องไผ่คงจะรอเราอยู่ หญิงสาวชวน แต่เมื่อเข้าไปไหนครัวก็ไม่เจอเด็กสาวซะแล้ว บนโต๊ะอาหารมีกับข้าวที่ทำเสร็จตั้งวางอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว
สวัสดีค่ะพี่ฝุ่น....ไปรษณีย์แผ่นนี้ก็คงจะเป็นแผ่นสุดท้ายแล้วที่กันย์จะเขียน เพราะกันย์คงไม่มีเวลาเขียนถึงพี่เหมือนแต่ก่อน เพราะระยะนี้กันย์ต้องเรียนหนักขึ้น และกันย์ก็คิดว่าพี่ก็เข้มแข็งขึ้นกว่าแต่ก่อน คงไม่ต้องให้น้องคนนี้เขียนให้กำลังใจแล้วมั้ง ถึงแม้ไปรษณีย์แผ่นนี้จะเป็นแผ่นสุดท้ายที่กันย์ได้เขียนถึงพี่ แต่กันย์ก็ยังรักและเป็นห่วงพี่เหมือนเดิม และยังให้กำลังใจพี่อยู่เสมอ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เขียนถึงพี่ก็ตาม และหวังว่าพี่ชายก็คงไม่ลืมน้องสาวคนนี้นะคะ กันย์ก็ไม่รู้จะเขียนอะไรอีก เพราะระยะสองปีที่กันย์เขียนไปรษณีย์มันก็คงเพียงพอที่จะบอกอะไรได้หลายอย่าง กันย์ขอขอบคุณที่พี่อ่านไปรษณีย์ของกันย์มาโดยตลอด ขอขอบคุณมาก ๆ นะคะ
รักและเป็นห่วงพี่ฝุ่นเสมอ
กันย์
2 ธันวาคม 2549 16:20 น.
ศรรกรา
ชายหนุ่มหย่อนไปรษณีย์ลงในกล่องที่บรรจุไปรษณีย์อีกจำนวนหลายใบ ก่อนที่ยกไปใส่ในลิ้นชัก ชายหนุ่มได้รับไปรษณีย์ของเด็กสาวที่มีชื่อว่า กันย์ ตั้งแต่เขาเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ได้เพียงไม่กี่วัน โดยที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าเจ้าของไปรษณีย์เหล่านี้เป็นใคร ซึ่งก็ช่างดูน่าขบขันมาก เขาเคยเขียนจดหมายตอบกลับไปยังเด็กสาวตามที่อยู่ที่เธอได้เขียนไว้แต่กลับถูกตีกลับเพราะแจ้งว่าไม่มีที่อยู่ที่นั่นจริง ทำให้เขายิ่งแปลกใจเป็นอย่างมาก การที่เขาย้ายมาอยู่ที่นี่ก็มีเพียงพ่อและแม่ของเขาที่รู้ และคิดว่าข้าวก็คงรู้เรื่องนี่จากท่าน ทำให้ตามหาเขาได้ถูก ฝุ่นเคยพาข้าวมาไหว้คุณตาของเขา และมาเที่ยวเล่นในสมัยที่ยังคบหากันบ่อย ชายหนุ่มไม่คิดเลยว่าผลสุดท้ายเขาก็ต้องมาอาศัยที่นี่เป็นหลักแหล่งโดยมีสาเหตุมาจากหญิงสาวนั่นเอง ตอนที่เขาย้ายมาอยู่ที่นี่ใหม่ ๆ เขาอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่พอควร หากนับตั้งแต่ตอนนี้เขาจะดูเข้มแข็งขึ้น โดยที่เขาสังเกตว่าเขาอนุญาตให้ข้าวมาอาศัยอยู่กับเขาโดยดี และไม่มีความรู้สึกอะไรนอกจากตกใจเล็กน้อย ก็คงอาจเป็นเพราะไปรษณีย์เหล่านี้ก็เป็นได้ ถึงแม้เขาจะไม่รู้เหตุผลของเจ้าของไปรษณีย์แต่เขาก็ยินดีที่จะอ่านไปรษณีย์เหล่านี้ต่อไป
ว้าย ! ทำไมข้าวผัดของข้าวเค็มอย่างเนี้ย หญิงสาวอุทานหลังจากตักข้าวใส่ปากไปหนึ่งคำและคายออก ของข้าวเค็มเหรอ แล้วทำไมของผมไม่เห็นจะเค็มตรงไหนเลย ข้าวเติมน้ำปลามากไปเหรอเปล่า ชายหนุ่มตักอาหารใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อย ไม่นะ ข้าวยังไม่ทันปรุงอะไรเลยด้วยซ้ำ หญิงสาวพูดพร้อมกับยื่นจานข้าวของตนให้ชายหนุ่มชิม เอ๊ะ ! แปลกจริง ปกติน้าจันทร์แกทำกับข้าวไม่เคยเค็มแบบนี้นี่ งั้นข้าวกินของผมก่อนเดี๋ยวผมจะไปเอาใหม่ที่บ้านน้าจันทร์ ชายหนุ่มพูดและลุกขึ้นออกไป น้าจันทร์ฮะ ขอข้าวผัดเพิ่มอีกที่นึง อ้าว..แล้วไม่พอเหรอจ๊ะฝุ่น เปล่าเหรอฮะ แต่ทานไม่ได้เลย คือของคุณข้าวมันเค็มนะ
หญิงชราแปลกใจมันจะเค็มไปได้ยังไงในเมื่อข้าวทั้งสองจานผัดมาพร้อมกัน และเพิ่งมาแยกกันตอนแบ่งใส่จานนะแหละ แต่นางก็ตักอาหารใส่จานส่งให้ชายหนุ่ม หญิงชราเดินไปหาบุตรสาวตรงหลังบ้าน ฝีมือไผ่ใช่ไหมลูก ทำไมต้องทำแบบนี้ นางต่อว่าเด็กสาว และทำไมแม่ถึงเชื่อว่าเป็นหนู ก็เราเป็นคนส่งข้าวให้เขา และปกติไผ่ก็จะอยู่คุยเป็นเพื่อนพี่เค้าจนกินเสร็จ แต่วันนี้แปลกรีบกลับมาก่อน ก็พี่ฝุ่นมีแขก หนูก็เลยไม่อยากอยู่ขัดหูขัดตาแค่นั้นแหละ น้าจันทร์สังเกตเห็นกอไผ่หลังจากส่งอาหารให้ไต้ฝุ่นกับปานชนกในมื้อเที่ยง แม่รู้นะว่าเราไม่ชอบคุณข้าว ทำไม นางนั่งข้างบุตรสาว หนูคิดว่าเค้าสองคนเป็นแฟนกัน เด็กสาวกล่าว เราก็เลยไม่ชอบเค้า ไร้สาระ นางตำหนิ ถึงเขาจะเป็นแฟนกันหรือไม่ก็ไม่ใช่เรื่องของเรา วันหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะลูกมันไม่ดี นางเตือนแต่เด็กสาวจะรับฟังและทำตามหรือเปล่ามันก็อีกเรื่องหนึ่ง เพราะนางก็รู้นิสัยของบุตรสาวดีว่าจะเป็นคนที่ดื้อเงียบ การที่ไม่โต้แย้งก็ใช่ว่าเด็กสาวจะทำตามเสมอไป นางถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน
ทำไมเธอถึงไม่ชอบปานชนกนั้นเหรอ ก็เพราะหล่อนนั่นแหละที่ทำให้ไต้ฝุ่นต้องหนีความเจ็บช้ำมาอยู่ที่นี่ ครั้งแรกที่เธอเห็นชายหนุ่ม เธอมีความรู้สึกสงสารและอยากให้กำลังใจ แต่การที่จะให้กำลังใจซึ่ง ๆ หน้าเธอก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเธอให้กำลังใจใครด้วยการพูดไม่เป็น นอกจากการกระทำเท่านั้นที่เธอสามารถทำได้ ทุกครั้งที่ส่งอาหารให้เธอก็จะนั่งอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าจะกินเสร็จ แต่การที่จะขลุกอยู่กับชายหนุ่มทั้งวันก็เป็นไปไม่ได้เพราะเขาก็ต้องมีงานที่ต้องรับผิดชอบ ซึ่งถ้าเธออยู่ด้วยก็ไม่สะดวก การที่เธอใส่น้ำปลาลงในจานอาหารของปานชนกเธอก็ทำเพื่อความสะใจเท่านั้น แต่เธอก็ต้องหาวิธีแกล้งวิธีอื่นที่ไม่ทำความเดือดร้อนแก่มารดา เด็กสาวเหลียวหลังตามเสียงแตรรถ รถจิ๊ปคันกลางเก่ากลางใหม่แต่เจ้าของดูแลอย่างดี ชายหนุ่มที่นั่งประจำคนขับยิ้มทักเธอ น้องไผ่ไปตัวเมืองกับพี่ไหม ไปซื้อของให้พี่ข้าวนะ ชายหนุ่มชวน เด็กสาวเพิ่งสังเกตว่ามีหญิงสาวนั่งประจำข้างคนขับด้วย จ๊ะ เด็กสาวตอบรับ เธอจะพยายามไม่ให้หญิงสาวไปไหนมาไหนกับชายหนุ่มตามลำพัง เธอวางแผนว่าจะทำอย่างไรให้หญิงสาวอยู่ห่างชายหนุ่ม
2 ธันวาคม 2549 15:28 น.
ศรรกรา
พี่ฝุ่นจ๋า...ไผ่มาส่งข้าวแล้วจ้า เสียงเด็กสาวตะโกนจากหน้าบ้าน ชายหนุ่มเปิดประตูเพื่อให้เด็กสาวเข้ามาข้างใน แม่บอกว่าพี่มีแขกมาพักด้วยหรือจ๊ะ แล้วนี่เขาอยู่ไหน เด็กสาวสอดส่ายสายตามองด้วยความอยากรู้ เขากำลังจัดของเดี๋ยวก็มา เด็กสาวจัดสำรับอาหารโดยมีชายหนุ่มเข้ามาช่วย กลิ่นอะไรเอ่ย หอมจังเลยฝุ่น เสียงหวานแว่วมาพร้อมกับร่างบางที่สะอาดสะอ้านจากการชำระล้างร่างกาย หญิงสาวหยุดชะงักเมื่อรู้ว่าไม่ได้อยู่กับชายหนุ่มตามลำพัง ไผ่......นี่พี่ข้าวเพื่อนของพี่ ข้าวนี่น้องไผ่เค้าจะส่งข้าวให้เราทุกวันจ๊ะ เด็กสาวมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความประหลาดใจก่อนที่ที่จะไหว้
ข้าว เด็กสาวมีความรู้สึกว่าคุ้นหน้าและชื่อนี้มาจากไหน แต่เพียงสักพักเธอก็จำได้ว่า ข้าวเคยเป็นแฟนสาวของไต้ฝุ่นที่หล่อนได้ทิ้งเขาไปเมื่อประมาณเกือบสองปีที่แล้ว เพราะชายหนุ่มเคยพาหญิงสาวมาเที่ยวที่นี่มาก่อน สวัสดีจ๊ะ พี่คงต้องรบกวนน้องไผ่สักระยะหนึ่งนะ หญิงสาวยิ้ม เออ..ไม่เป็นไรค่ะ ก่อนที่เด็กสาวจะเดินออกไปพร้อมกับความคับข้องใจว่าหญิงสาวที่ชื่อว่าข้าวทำไมต้องมาอยู่กับไต้ฝุ่น การที่หญิงสาวกลับมาอยู่กับชายหนุ่มเพียงลำพังย่อมต้องมีสาเหตุใดอย่างแน่นอน หรือว่าหล่อนกลับมาเพื่อต้องการคืนดี เมื่อเด็กสาวคิดได้อย่างนั้น ความไม่พอใจในตัวหญิงสาวก็เกิดขึ้น หล่อนยังกล้าที่จะกลับมาเพื่อขอคืนดีทั้งที่ก่อนหน้าที่หล่อนทำให้ชายหนุ่มเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจมาเป็นแรมปี จนต้องระเห็จมาอาศัยที่นี่ แต่จะทำยังไงในเมื่อเธอก็ไม่มีอำนาจที่จะห้ามให้หล่อนนอนพักบ้านชายหนุ่มในเมื่อเขาอนุญาตและเธอก็แค่เด็กส่งอาหารเท่านั้น
สวัสดีค่ะพี่ฝุ่น นี่เป็นไปรษณีย์แผ่นที่เท่าไหร่กันย์ก็นับไม่ไหวแล้วล่ะ เพราะส่งมาบ่อยเหลือเกินไม่รู้ว่าพี่จะเบื่อหรือยัง (หัวเราะ) ช่วงนี้อากาศเย็นระวังสุขภาพด้วยนะคะ (เตือนคนอื่นตัวเองก็ยังเป็นหวัดอยู่เลย) พี่มาอยู่ที่นี่มาก็เกือบสองปีแล้ว คิดดูมันก็ช่างรวดเร็วเสียเหลือเกิน กันย์คิดว่าพี่คงเข้มแข็งขึ้นนะคะ (รวมทั้งจิตใจด้วยแหละ) น้องยังเอาใจช่วยพี่ชายอยู่ตลอดนะคะ ปีหน้ากันย์ก็จะสอบเข้ามหาลัยแล้วหวังว่าพี่ก็ส่งแรงใจให้กับน้องคนนี้ด้วยนะคะ ตอนนี้กันย์ก็ขอรบกวนคุณพี่ชายเพียงเท่านี้ละกัน ต้องอ่านหนังสือก่อน คราวหน้ากันย์จะเขียนไปรษณีย์มาใหม่นะคะ สวัสดีค่ะ
รักและเป็นห่วงพี่ฝุ่นเสมอ
กันย์
2 ธันวาคม 2549 13:14 น.
ศรรกรา
สวัสดีจ้า...ฝุ่น เจ้าของเสียงมองเจ้าของชื่อด้วยสายตาล้อเลียน หลังจากที่เห็นว่าเขาทำสีหน้าตกใจ เนี้ย จะไม่เชิญข้าวเข้าไปข้างในก่อนเหรอจ๊ะ หล่อนพูดต่อหลังจากเห็นว่าเขาไม่มีทีท่าว่าจะเชื้อเชิญ ทำให้ชายหนุ่มที่ตกอยู่ในภวังค์ต้องเบนตัวเพื่อให้หญิงสาวเข้ามาข้างใน
ปานชนกล้มตัวนั่งบนเก้าอี้ที่ใกล้ที่สุดเหมือนกับว่าเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางมามากมาย และสอดส่ายสายตาสำรวจบริเวณบ้าน ข้าวไม่นึกเลยว่าจะได้เจอฝุ่นที่นี่ ที่นี่ยังเหมือนเดิมนะ หล่อนพูดต่อ หลังจากเห็นว่าเขายังคงเงียบ
ไต้ฝุ่นมีอาการตกใจ และอึดอัดใจมาก เขาไม่ได้พบปานชนกเลย หลังจากที่เธอหนีหน้าเขาโดยที่เขาก็ไม่รู้สาเหตุ เขายอมรับว่าเขาเสียใจมากกับเหตุการณ์ในวันนั้น เฮ้ย! ไอ้ฝุ่น ข้าเห็นยัยข้าวไปเที่ยวดูหนังกับไอ้โต้งจริงๆนะเฟ้ย ข้าไม่ได้ตาฝาดแน่ ๆ ไต้ฝุ่นเชื่อว่าเรื่องที่ไอ้กลิ้งมันเล่าก่อนที่เธอจะหายไปน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่ง แต่เขากลับไม่เชื่อ เพราะมันไปน่าจะเป็นไปได้ในเมื่อปานชนกยังคบเขาเอยู่
คุณยังไม่ตอบข้าวเลย ว่าคุณมาทำอะไรที่นี่ เสียงหล่อนทำลายความเงียบอีกครั้ง ตั้งแต่ข้าวเข้ามา ข้าวยังไม่ได้ยินเสียงคุณพูดสักคำเลย หรือว่าไม่อยากเจอข้าวคะ หล่อนทำเสียงน้อยใจ ผมขอโทษ เอ่อ....แล้วข้าวมาทำอะไรที่นี่ฮะ แทนที่จะตอบเขากลับเป็นฝ่ายถามกลับ คะ...คะ..คือว่าข้าวจะขอรบกวนฝุ่นพักที่นี่สักระยะหนึ่ง ได้สิ คำตอบของฝุ่นทำให้ข้าวแปลกใจ เพราะหล่อนมั่นใจว่าจะได้รับคำปฏิเสธอย่างแน่นอน
แม่ เดี๋ยวไผ่จะเข้าไปในเมือง แม่จะฝากไผ่ซื้ออะไรรึปล่าวคะ เด็กสาวตะโกนเรียกแม่ พลันเดินไปที่มอเตอร์ไซค์คันเก่าที่จอดอยู่ เอ็งจะไปทำไมกันนักกันหนาว่ะกะอีแค่ไปส่งไปรษณีย์แค่นี้ เออน่าแม่...เดี๋ยวหนูก็มาเด็กสาวพูดตัดบทก่อนที่จะขับรถออกไป นางจันทร์ก็ไม่รู้ว่าทำไมบุตรสาวถึงต้องเขียนไปรษณีย์ไปส่งที่ตัวเมืองแทบทุกวัน ทั้ง ๆที่ไม่ต้องลำบากไปไกลถึงขนาดนั้น และไปรษณีย์ที่เธอเขียนก็เขียนถึงไต้ฝุ่นที่เธอก็พบเจอเขาทุกวัน เด็กสาวมักบอกปัดทุกครั้งที่นางเคยซักถามเหตุผล นางคลี่จดหมายที่บุตรชายส่งมาให้ ซึ่งนางออกมาอ่านซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง และทุกครั้งนางก็ต้องร้องไห้ทุกที นี่ก็เกือบจะห้าปีแล้วที่ไอ้โต้งไม่ได้ส่งจดหมายมาอีกเลย ตั้งแต่มันสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพได้ ล่าสุดที่นางได้ทราบข่าวบุตรชายก็คือ เขาได้ทำงานเป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ นางบรรจงพับจดหมายเก็บเข้าซองเหมือนเดิมเมื่อถึงเวลาทำอาหารเย็น ซึ่งนางต้องทำอาหารส่งไปที่บ้านของฝุ่นด้วย น้าจันทร์ตั้งแต่วันนี้น้าคงต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นหน่อยน่ะ....เพราะผมมีแขกมาพักคนนึงน่ะ ฝุ่นได้สั่งนางไว้หลังจากที่นางไปส่งอาหารให้ในมื้อเช้า ถึงแม้ว่ามันจะเหน็ดเหนื่อยเพิ่มขึ้น แต่นางก็ยินดีทำเพราะมันก็เท่ากับนางได้รายได้เพิ่มขึ้นด้วย