13 มกราคม 2552 14:24 น.
วิทย์ ศิริ
ชีวิต คือ....ของขวัญอันล้ำค่าที่สุด
จากเริ่มต้นสู่บั้นปลาย....จุดสุดท้ายของการเดินทาง ชีวิตผู้คนมากมาย
ถามหา....จะอีกกี่ไมล์....หนึ่งหรือร้อยไมล์หรือสุดปลายฟ้า..บนเส้นทางสายนี้
ระหว่างทางในป่าธรรมชาติเราได้พบ....ฟ้าสดใสกว้างไกล
...ทุ่งหญ้าเขียวขจี...เห็นป่าทึบ...หุบเขาอยู่ข้างหน้า...แวะก้มดู
เงามืดในเหวลึก (เพราะอยากรู้ว่าลึกมากเท่าไรกันแน่และ
หยั่งลึกสู้ใจคงไม่ได้ เท่าที่คิด)...แล้วเดินต่อไป...มุดผ่านถ้ำ...
ดูเป็นอุโมงค์ทางยาว....รู้สึกเย็นๆชื้นๆ...ตลอดทาง...มืดสลัวๆ
หลังจากที่ได้ปรับสายตาในความมืด...(แปลกจริงๆใจนี้...ไม่รู้สึกกลัว
และกังวลใจมากเท่าไร)
จนกระทั่ง...แลเห็นจุดสว่างเล็กๆเหมือนปลายเข็มไกลออกไป
..ที่ปลายอุโมงค์...เร่งสาวเท้าเร็วขึ้น...ใกล้ขึ้น...จากจุดเล็กๆขยายใหญ่
ขึ้นเป็นช่องขนาดเท่าครึ่งตัวคน....เราสามารถบีบตัวเองให้เล็ดลอด
ออกไปได้...เห็นลำแสงแรกของภายนอก...ยิ้มรับตะวันยอแสงของ
วันใหม่หรือนี่...ล้มตัวลงพักเอาแรงและลุกขึ้นใหม่พร้อมลมหายใจที่สดชื่น
...หาผลไม้จากพรรณไม้ที่รายล้อมและวักน้ำใสๆจากลำธารสายน้อย
ที่อยู่ข้างๆที่ไหลมาจากหน่าผาสูง...เพื่อประทังชีวิต สร้างกำลังใจให้กับตัวเอง
แล้วก้าวเดินต่อไป...ก้าวเร็วขึ้น...เดินข้ามเนินเขาสูงและแล้วก็เข้าสู่
แนวป่าคอนกรีต
ระหว่างทางในป่าคอนกรีตเราได้พบ...ป้ายต่างๆบอกทิศทาง
เริ่มจากป้ายแรกที่เห็น...ป้ายทางตรง...เลี้ยวขวา...เลี้ยวซ้าย...มีป้าย
(หวังดี)บอกให้ระวัง...ทางขึ้นเนิน...ทางขรุขระ...ทางคดเคี้ยว...มีป้าย
ระวังรถสวน...และแล้วก็ เจอป้ายบอกทางตัน...และใกล้เคียงนั่นเอง
...เป็นป้ายกลับรถ
ใจเราถาม...นี่หมายถึงอะไร...ตลอดเส้นทางไม่ว่าจะเป็นป่าธรรมชาติหรือ
ป่าคอนกรีตก็ประสพพบอารมณ์ตัวเองต่างๆ ทั้งรัก..ทั้งชัง..ทั้งหวาน..และขมขื่น
(เหมือนดั่งกับเพลงเพราะที่ก้องอยู่ในโสตประสาทเลย) ทั้งยังต้องอดทน...
ต่อสู้เพื่อชีวิตอยู่รอดปลอดภัยตลอดมาของตังเองและคนที่เรารัก...
ต้องหันหลังกลับไปทางเดิมหรือเช่นไร เพื่อกลับไปสัมผัสกับอารมณ์
หลากหลายที่ผ่านมาอีกครั้งหรือ...เอะ ! เราใช้เครื่องย้อนเวลาไม่ดีกว่าหรือ
(นึกขำในใจ) ทันใดนั้น...ก็แลเห็น..ป้ายบอกทางขนาดใหญ่ข้างหน้า...
ตัวอักษรสีแดงตัวไม้ในกรอบแปดเหลี่ยมสีแดงพื้นขาว ขัดเจนแต่ไกล
...เป็นคำสั่งเตือน "หยุด" ...สั่งใครว่ะ ความคิดหนึ่งผุดขึ้นทันทีแบบไม่สบอารมณ์...หยุดทำไม...แล้วก็...หยุดเพื่ออะไร...หยุดรอใคร...หยุดดู
สิ่งไรอีก...หรือหยุดคิดหรือไง
เมื่อเราเดินเข้าใกล้...ใกล้ถึงที่สุด...จนสัมผัสได้และได้ยินกระทั่ง
...ลมหายใจ...บางเบายิ่งกว่าขนนกที่ล่องลอยในอากาศ..ถึงได้เข้าใจ
...ถึงความเงียบสงบในจิตใจ
จากนั้น...ความรู้สึกตื่นขึ้น...จากความเงียบนั้น...ความคิดเปิดเปลือกตา
....ชีวิตในภพนี้ ไฉนจบลงด้วยความว่างเปล่า...ไม่น่าเชื่อ...ทั้งที่แต่แรกที่เดิน
...รู้สึกอบอุ่น...มีคนคอยห่วงใยดูแล...มีคนรัก...มีคนรู้ใจ...สารพัดคน
รวมทั้งคนที่ชังเราด้วย (ก็มีบ้าง เป็นธรรมดาน่า...แต่ช่างเขาเถิด)...
...ทุกๆคนเป็นเพื่อนร่วมทาง... คนเหล่านั้น..ไม่รู้หายไปในกันหมด
ความสงสัยถามหา....จากเริ่มต้นสู่บันปลาย...กลายเป็นเพียง
ความฝันอันรื่นรมย์...บางขณะหรือบ่อยครั้งในความรู้สึกก็เป็นเหมือน
ฝันร้ายกระมั่ง...ยังไงเสีย...การเดินทางครังใหนๆก็ย่อมมีที่สิ้นสุด...
แต่ไม่เคยหยุดสงสัยว่า...ชีวิตในมิติของเส้นทางแห่งการเรียนรู้
ความทรงจำเอ่ยขึ้น...เจ้าได้สิ่งใดจากเส้นทางที่ผ่านมา นิยามที่ว่า
"ชีวิตคือการเดินทาง......ชีวิตคือการต่อสู้......หรือชีวิตคือโอกาส"
อย่างไรก็ตาม...เจ้าก็ได้เรียนรู้คุณค่าของวันวาน...เพื่อในวันนี้
...วันพรุ่งนี้...จนวันสุดท้าย...วันที่ความรู้สึก...ความคิด..ความสงสัย
และความทรงจำได้ตระหนักถึงนิยามแห่งชีวิตที่หลอมรวมกันเป็น
หนึ่งเดียว "ชีวิต คือ....ของขวัญอันล้ำค่าที่สุด"
12 มกราคม 2552 21:09 น.
วิทย์ ศิริ
แรงแห่งไฟ.....ใจแห่งรัก
แรง..กำเนิดเกิดได้ในบันดล
แรง..ส่งผลอำนาจคาดไม่ถึง
แรง..หนุนเนืองเรืองฤทธิ์ติดตราตรึง
แรง..รำพึงรำพันวันพังภินท์
แห่ง..หนใดใช่ตำแหน่งแห่งพิภพ
แห่ง..บรรจบกระทบเสียงสำเนียงยิน
แห่ง..ลึกลับซับซ้อนก้องธานินทร์
แห่ง..วารินทร์ไหลเฉื่อยเรื่อยเรื่อยไป
ไฟ..เผาผลาญปานไฟทุ่งพุ่งพวยไกล
ไฟ..ลุกไวประหนึ่งไล่ใช่ขับไส
ไฟ..หวาดกลัวทั่วร่างหว่างหทัย
ไฟ..ระวังไหม้ใส่ใครจุดมัน
ใจ..ที่พร้อมยอมรับกับความจริง
ใจ..ประวิงไม่นิ่งยิ่งทุกข์พลัน
ใจ..ทั้งปวงดวงแดแน่สานฝัน
ใจ..ครามครั้นวันเศร้าโศกโชคฝันเฝ้า
แห่ง..หนใดใช่ที่ใหนในดวงจิต
แห่ง..ใกล้ชิดอิงแอบแนบกายเจ้า
แห่ง..เปิดเผยเคยหวั่นไหวใจเร่งเร้า
แห่ง..ทุกข์สุขคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน
รัก..ที่แท้แน่ใจไม่แปรผัน
รัก..แบ่งปันฝันเสมอเธอกับฉัน
รัก..เข้าใจไม่สงสัยในวานวัน
รัก..ทอฝันวันชื่นมื่นคืนสุขใจ
>
7 มกราคม 2552 22:36 น.
วิทย์ ศิริ
ชีวิต........คิดอย่างไร
หนึ่งชีวิต...คิดเป้าหมายปลายทางฝัน
เป็น...ยืนยันมั่นคงยังหนหลัง
เป็น...แรงหนุนจุนเจือเอื้อพลัง
เป็น...ความหวังให้ยืนหยัดรัดเลาะมา
หนึ่งชีวิต...คิดสันโดษโทษใครกัน
เป็น...เพียงวันไม่มีใครในอุรา
เป็น...อิสระวาระกรรมคำธรรมา
เป็น...ธรรมดาเวลาพาเคลื่อนไป
สองชีวิต...ลิขิตมิตรคู่ใจ
เป็น...ปราการแห่งชัยได้ฝันใฝ่
เป็น...สัญญาว่ารักจักอภัย
เป็น...ความนัยล่วงรู้คู่เอกา
สองชีวิต...ชู้ชื่นรื่นกมล
เป็น...ทุกข์สุขระคนจนวันลา
เป็น...ครรลองจองพิกัดลักขณา
เป็น...พลับพลาสวรรค์วันที่รอ
หลายชีวิต...อลวนจนสับสน
เป็น...แห่งหนสนธยาคราร้องขอ
เป็น...ทางเลือกเปลือกนอกหลอกคนรอ
เป็น...เพียงพอขอตรองดูมองคู่ครอง
หลายชีวิต...คิดแน่แท้แก่ใจวาง
เป็น...เส้นทางลางนิมิตคิดไตร่ตรอง
เป็น...ส่วนลึกตกผลึกนึกหมายปอง
เป็น...ครรลองแห่งชีวิต...คิดอย่างไร/font>