29 ธันวาคม 2551 19:46 น.
วิทย์ ศิริ
รัก......เมื่อวันวาน
หากลิขิตได้........
อยาก....ให้ทั้งกายใจแบ่งเป็นสอง
อยาก....ได้ครองสองคำนึงซึ้งหทัย
อยาก....ให้ความรักไร้กังวลใจ
อยาก....ได้ความห่วงใยใจผูกพัน
เพียง....เข้าใจความหวังดีที่มอบให้
เพียง....หยิบยื่นความจริงใจให้แก่กัน
เพียง....ล่วงรู้ความนัยจากใจฉัน
เพียง....แค่นั้นคงหวังได้จากใจเธอ
หากความจริงได้.........
ปรากฏกายแลเห็นเป็นชีวิต
ไม่อาจเลี่ยงลิขิตคิดเสมอ
ทั้งที่ทำหมายดั่งใจใคร่เสนอ
ใจกลับเผลอติดบ่วงห่วงเสน่หา
ทั้งที่รู้ความจริงสิ่งปรากฏ
สรรพสิ่งกำหนดเป็นครั้งครา
ไม่ยืนหยัดไม่จีรังไม่นำพา
ปริศนาว่างเปล่าเป็นเช่นเคย
27 ธันวาคม 2551 23:32 น.
วิทย์ ศิริ
โชค......โชคชะตา
โชค กล่าวขานวานบอกหลอกคนรอ
โชค ที่ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์อิทธิฤทธิ์
โชค รางวัลขันต่อขอพิชิต
โขค เป็นมิตรชิดคนเพียรเรียนใช่ย่อย
โชค ช่วยคนกล้าหาญองอาจยิ่ง
โชค ช่วยคนวิ่งสู้ฟัดกัดไม่ปล่อย
โชค ช่วยคนปลุกปั่นขยันต่อย
โชค ช่วยคนลาภลอยปล่อยอัตตา
โชค อาจช่วยคนเถลิงเริงอำนาจ
โชค ไม่ช่วยวาสนาถ้านำพา
โชค อาจช่วยร่ำรวยค้วยเงินตรา
โชค ไม่ช่วยปัญญาถ้าเกิดมี
โชค ดีหรือโชคร้ายคลายสงสัย
โชค เกิดได้ไม่สำคัญวันสักขี
โชค ไม่เคยเอ่ยก่อนนอนวอนปลุกที
โชค ไม่ดีที่บังเอิญเผชิญกรรม
โชค คนเราแม้แต่เงาเฝ้ารำพัน
โชค ใครกันฝันดลผลกระทำ
โชค ติดตามความเป็นไปในบ่วงกรรม
โชค หนุนนำคำในโลก "โชคชะตา"
โชค ชะตาว่าไปไร้ขอบเขต
โชค มายาว่าฤทธิ์เดชเวทย์คาถา
โชค ลิขิตจิตไซร้ในมรรคา
โชค ชีวาว่าสุดท้ายพ่าย"ชะตา"
24 ธันวาคม 2551 23:25 น.
วิทย์ ศิริ
วาตะวจี สุกขีพิลาส
จินตนุภาพ วาดปรารถนา
สุดฝันรัญจวน ป่วนมวลผกา
แช่มชื่นอุรา วายุใจหาย
พัดโหมโรมรัน พรั่นหวั่นอาลัย
ฤทัยยาใจ ใคร่ให้สลาย
หนาวเหน็บเจ็บลึก ผนึกใจกาย
จงลับดับวาย พระพายใคร่ครวญ
วลีเหมันต์ สร้างสรรค์อัศจรรย์
รักนั้นหฤหรรษ์ สุขสันต์พลันป่วน
รันทดรัญจวน สารพันผันผวน
ลังเลเรรวน ขวนให้หวลหา
ฝันถึงเมฆา ทึมฟ้าครึ้มคลั่ง
ไล่ตามความหลัง ความหลังสั่งลา
สุดท้ายปลายฟ้า กล้าแรงแสวงหา
ไล่ฝ่าธารา ค้นหาสัจจธรรม วาตะขจี วลีเหมันต์
มนต์ขลังหวังฝัน วันนั้นจดจำ
ยึดมั่นนั่นคุก สุขทุกข์ระกำ
ระลึกถ้อยคำ พระธรรมนำพา
วาตะ : ลม
21 ธันวาคม 2551 11:23 น.
วิทย์ ศิริ
ห้วง...ใจ...มั่น...คง
ห้วง คำนึงไม่สิ้นจางหาย
ห้วง อารมณ์ไม่คลายคิดถึง
ห้วง ความคิดไม่หวั่นพรั่นพรึง
ห้วง ความรักประหนึ่งวนเวียน
ใจ ไม่สิ้นเยื่อใยรักใคร่
ใจ ไม่วายคลายคิดขึดเขียน
ใจ ไม่เชื่อเมื่อก่อนบทเรียน
ใจ ไม่เปลี่ยนเวียนหมุนกลับกลาย
มั่น หมายใจกำหนดบทบาท
มั่น ประหลาดขลาดเขลามิวางวาย
มั่น เสมอเธอนั้นมิเสื่อมคลาย
มั่น สุดท้ายสลายต้องปล่อยวาง
คง ความหวังพิสุทธิ์ดุจน้ำค้าง
คง เหือดแห้งเลือนร้างยามรุ่งสาง
คง ความงามดำเนินเดินสายกลาง
คง เจือดจางบางเบาเงาแห่งกาล
20 ธันวาคม 2551 14:06 น.
วิทย์ ศิริ
ผืนผ้าบุ ต่างสีสัน ช่างสรรหา
สีหลากตา หลากเนื้อผ้า น่าสัมผัส
บ้างสวยสด หยดแต้ม แฉล้มจัด
บ้างสวยเรียบ เฉียบชัด มัดใจอนงค์
ร่วมร้อยเรียง เมียงมอง ปองทุกพับ
ขยิบขยับ จับแปร แลประสงค์
คิดใช้กรุ บุสารพัด วัดบรรจง
คิดแล้วปลง คงมากมาย หลายวลี
ดูเนื้อผ้า สีฟ้าใส ใยสังเคราะห์
ดูให้เหมาะ ลินินเท่ห์ เสน่ห์มี
ผ้าคอนตอน เรยอนปน ยลดูดี
ผ้าโพลี เหลือบลาย สายรุ้งทอ
ทั้งผ้าไหม ใยฝ้าย ลายน้ำเงิน
สวยล้ำเกิน เดินดิ้น ปิ่นลออ
หลากสีสัน เกินฝันใฝ่ ใจเยินยอ
น่าหลงใหล ไม่เพียงพอ ขอเปรียบเปรย
ครั้นได้ดู ได้ยล จนพอใจ
มั่นหทัย กว่าทุกครั้ง หวังคุ้นเคย
นานวันเข้า เว้าใจซื่อ บื่อเฉยเฉย
เหมือนไม่เคย เชยชม ผ้าเนื้อมนต์
หลากอารมณ์ เช่นเส้นสาย ลายอาภรณ์
อลงกรณ์ งามยิ่ง นิ่งฉงน
ดูสวยสด งดงาม ยามเฝ้ายล
ดูเวียนวน คนนั้นไซร้ ไร้กฎเกณฑ์
สิ่งที่เห็น สิ่งที่เป็น เด่นทุกครา
เย้ายวนตา พากิเลส เล่ห์กรรมเวร
เป็นเปลือกนอก หลอกล่อ บ่อปักเลน
ทั้งเบี่ยงเบน เนื้อใน ใจเคล้าคลอ
หมายจับจ้อง ปองรัก หักอาวรณ์
หมายริดรอน วอนให้ได้ ตามใจขอ
ได้ยลผล สำเร็จ เสร็จกิจรอ
ไม่เพียงพอ วนเวียน เปลี่ยนผันไป