18 พฤศจิกายน 2547 15:58 น.
วิจิตร ภู่เงิน
แม่เฒ่าร่ายมนตร์เสกวิเวกเวทย์
ชายหญิงเพศพันธุ์เชื้อมาสิงสม
มันผิดฮีต*เสื่อมศรัทธาจะพาจม
ธรรมอาคมลบลู่มิรู้ครอง
ให้มันรู้กูจะสิงชั่วลูกหลาน
หากสันดานมันเสื่อมสัตย์คำของ
ธรรมวิชาอาคมมิจำจอง
ให้มันร้องโอดครวญจวนวางวาย
กูรู้เห็นเป็นเช่นกรรมมึงจำไว้
ตามมึงไปในถิ่นที่ทั้งหลาย
หากมึงผิดคำแก่เก่าเหล่าผีร้าย
จะรำร่ายสิงลงทรงร่างมึง
ให้มึงตายหมอบลงตรงตีนกู
รอผีปู่ผีย่าท่านมาถึง
ให้ท่านเหยียบลงซ้ำกรรมของมึง
อย่ารำพึงหากมึงทำกรรมคะนอง
ผืนไร่นาปู่ย่ากูถากถาง
ให้มึงวางตีนเหยียบอย่าผยอง
กูจะเสกส่งมึงลงไปกอง
ในก้นหนองห้วยกรรมจำให้ดี
*ฮีต หมายถึง จารีต ประเพณี
14 พฤศจิกายน 2547 14:30 น.
วิจิตร ภู่เงิน
แด่:อิทธิ พลางกูร แสงตะวันที่ลาลับขอบฟ้าในเพลาค่ำวัน
เก็บตะวันที่เคยส่องฟ้า
เก็บเอามาเก็บไว้ในใจ
เก็บพลังเก็บแรงแห่งแสง,ยิ่งใหญ่
มั่นคงไว้ดั่งเช่นตะวัน
เก็บตะวันดวงนั้นที่ส่องฟ้า
เก็บเอามาเก็บไว้ในใจฉัน
อยู่เป็นแรงเติมแต่งในคืนวัน
ให้ฝ่าฟันถึงฝั่งฝันอันแสนไกล
เก็บพลังเก็บแรงเก็บแสงเสียง
เก็บสำเนียงเก็บตะวันอันสุกใส
เอามาเติมให้เต็มในหัวใจ
แล้วออกไปเก็บฝันในวันคืน
หากตะวันยังอยู่คู่ฟ้ากว้าง
จะมัวห่วงสิ่งใดให้ตื่นฝืน
ออกตามฝันให้ถึงวันที่ยั่งยืน
กี่วันคืนไปให้ถึงซึ่งวันชัย
ยามท้อถอยคอยแสงแห่งตะวัน
มาแบ่งปันไออุ่นอันสุกใส
เติมจนเต็มทั่วห้องของหัวใจ
เริ่มวันใหม่ด้วยแรงแห่งตะวัน
เก็บตะวันดวงนั้นที่ส่องฟ้า
เก็บเอามาเก็บไว้ในใจฉัน
อยู่เป็นแรงเติมแต่งในคืนวัน
ให้ฝ่าฟันถึงฝั่งฝันอันแสนไกล
14 พฤศจิกายน 2547 14:21 น.
วิจิตร ภู่เงิน
คิดถึงอย่าแรงไม่ได้แกล้งเพ้อ
มีแต่เธอในใจไม่ตอแหล
ใจมันหวงห่วงมากอยากดูแล
ไม่ตอแหลพูดไปจากใจจริง
ก็คนมันคิดถึงจึงได้เพ้อ
ทุกวันเหม่อเจอใครไม่สุงสิง
ก็คิดถึงถึงมากมายจริงจริง
แล้วเธอนิ่งอยู่ใยช่างใจดำ
คิดถึงอย่างแรงถึงแรงมากมาก
พูดออกจากใจจริงอย่าได้ขำ
แม้ยามฝันยังเจอเธอประจำ
อย่าได้ทำเมินเฉยเลยคนดี
เก็บเอาความคิดถึงฉันไว้บ้าง
อย่าเมินหมางพาใจให้ห่างหนี
แม้จะห่างกันไกลไปทุกที
แต่ฉันนี้จะคิดถึงเธอแรงแรง
4 พฤศจิกายน 2547 12:36 น.
วิจิตร ภู่เงิน
เป็นทุ่งนาแห่งความเหงา
เป็นสายลมเบาที่พัดผ่าน
เป็นความร้างลาที่เนินนาน
เป็นตำนานของผืนดินถิ่นทำเนา
เป็นภาพปลาฮุบเหยื่อที่เหลืออยู่
เป็นแค่คูคันนาที่แดดเผา
เป็นเพียงซากความหลังที่บางเบา
เป็นดั่งเสาค้ำคนให้อิ่มเอม
4 พฤศจิกายน 2547 12:02 น.
วิจิตร ภู่เงิน
เธอคือคนแปลกหน้าผู้มาเยือน
ฉันและเพื่อนเพิ่งเจอเธอวันนี้
เธอส่งยิ้มอย่างคนมีไมตรี
ในเช้าที่มีเราอยู่หลายคน
เธอเดินมาพร้อมครูผู้สอนฉัน
ครูบอกพลันนี้เพื่อนเรือนห่างหน
เธอมาจากอีกบ้านของตำบล
ขอทุกคนดูแลอย่าแชชา
เพื่อนทุกคนทักทายเธอทั่วถึง
แล้วเธอจึงนั่งลงตรงข้างฝา
ฉันแอบมองเมื่อเธอนั่งพูดจา
เธอหันมาฉันหลบกลบอาการ
ในห้องเรียนวันนั้นฉันฝันเพ้อ
ว่าพบเจอนางฟ้ามายิ้มหวาน
โปรยดอกไม้มาให้ใจชื้นบาน
ทอสะพานผ่านฟ้ามาให้ชม
ครั้นตื่นมาเวลาก็จวนเที่ยง
ได้ยินเสียงครูเตือนเรื่องตัดผม
ไม่ตัดมาระวังนั่งระทม
ก้นระบมเพราะครูผู้เฆี่ยนตี
และเที่ยงวันเธอนั้นนั่งกินข้าว
เธอบอกกล่าวกับเราเมื่อเดิมที
เพื่อนของเธอแต่ก่อนก็มากมี
ย้ายมานี้เพราะแม่มาทำงาน
บ่ายโมงแล้วจึงเข้าเล่าเรียนต่อ
คุณครูหนอขยันหมั่นให้หาร
ฉันนั่งคิดตัดตั้งอยู่ตั้งนาน
เธอเดินผ่านบอกว่าเอาห้าลง
คำตอบคือห้าสิบฉันหยิบตอบ
ลงในกรอบหัวใจไม่สัยสง
เป็นคำตอบที่ฉันนั้นบรรจง
เขียนตอบลงแล้วเธอช่วยตรวจทาน
พอส่งครูครูว่าช่างน่าอาย
ลอกเขาได้ก็แค่สูตรคูณหาร
เธอแอบยิ้มชอบใจอยู่ตั้งนาน
ฉันเดินผ่านเธอว่าอย่าน้อยใจ
ถึงเลิกเรียนเธอลาพวกเรากลับ
พรุ่งนี้รับรองว่าจะมาใหม่
แม่มารับควบห้อมอเตอร์ไชค์
ฉันต้องไปแล้วละเดี๋ยวจะเย็น
พอค่ำคืนเข้านอนฉันร้อนใจ
กลัวเธอไปไม่มาให้ฉันเห็น
เมื่อตื่นเช้าอยากเห็นเธอถึงเย็น
หวังเธอเป็นกำลังให้ตั้งใจ(เรียน)