21 เมษายน 2547 13:44 น.

ฝนใหม่

วิจิตร ภู่เงิน

ดอกไม้ส่งยิ้มให้ผีเสื้อแสนสวย
ดวงตะวันช่วยเจือจานไออุ่น
หมู่เมฆขาวส่งยิ้มละไมละมุ่น
ผืนดินผืนฟ้าเกื้อกูลกันและกัน

ธรรมชาติสมดุลด้วยพืชพันธุ์
เจ้านกน้อยลาวัลย์ฟ้อนรำร่าย
ฝูงปลาในลำน้ำใสแหวกว่าย
ทวนท้าทายกระแสน้ำเชี่ยววน

เมฆก่อตัวทะมึนเป็นเมฆฝน
ต้นกล้าร่ายมนต์เสกน้ำพรมฉ่ำ
ชาวนาเดินออกทุ่งข้าวเขียวปักดำ
เรไรร่ำร้อยเรียงเสียงพงไพร

พื้นพนาทุ่งหญ้าแสนกว้างไกล
ดอกหญ้าชูไสวผสมผสาน
มดน้อยงามรังสดใสชื่นบาน
ออกหาอาหารรอฤดูน้ำหลาก				
20 เมษายน 2547 15:17 น.

ตระกล้าตำลึง

วิจิตร ภู่เงิน

วันหนึ่งเธอมากับตระกล้าใบสวย
บอกฉันให้ช่วยซื้อหน่อยจะได้หมด
ซื้อไปกินมากมากเธอจะได้ลด
ขนมสีสวยสดนั้นเธอทำเอง

แต่ฉันก็หัวเราะและพูดอวดเบ่ง
ฉันก็เก่งทำขนมเองเหมือนกัน
ขนมครกทำด้วยทรายโน้นดูนั้น
ฉี่ฉันเมื่อตอนกลางวันเองละเธอ

เธอยิ้มและยื่นตระกล้าส่งมาให้
บอกฉันพาเธอไปตลาดที
รายการที่เธอจะซื้อของมากมี
เธอจึงให้ตัวฉันนี้มาช่วยถือของ

พอมาถึงตลาดสดที่ริมคลอง
จึงได้มองเห็นลูกตำลึงสีสุกใส
เธอเด็ดมามีเขียวแดงปนกันไป
ฉันยื่นตระกล้าส่งให้ดูเข้าที

เธอบ่นไปเก็บไปมือก็พลางชี้
ว่าตัวฉันนี้เป็นพ่อไม่เอาไหน
ปล่อยให้แม่เก็บคนเดียวอยู่ได้ไง
เดี๋ยวกลับไปไม่มีของอร่อยทาน

เธอพาฉันจับจ่ายซื้อของอยู่นาน
วันนี้กินขนมตาลแกงตำลึง
เธอบอกให้ฉันก่อไฟเธอจะนึ่ง
เสร็จแล้วจึงทำแกงตำลึงใส่ปลา

ฉันหยิบลูกตำลึงจากตระกล้า
รอเวลาที่เธอจะเรียกใช้
เมื่อเธอสั่งจะได้ยื่นให้เร็วไว
เธอดูพอใจสดใส .. ยิ้มแฉ่ง				
19 เมษายน 2547 13:13 น.

ผักกับคนน่ารัก

วิจิตร ภู่เงิน

เธอบอกวันนี้ที่บ้านจะทอดไข่
คุณแม่จึงใช้ให้มาเก็บตำลึง
แม่เธอไม่ว่างเพราะรอพลิกข้าวนึ่ง
วันนี้เธอจึงมาเก็บตำลึงแทน

บ้านฉันปลูกผักมากมายไม่แร้นแค้น
แม่ล้อฉันมีแฟนต้องชอบกินผัก
เธอเองก็ดูดีเป็นคนน่ารัก
แต่เธอชอบกินผักหรือเปล่า..นา

จะเข้าไปถามเธอก็ยังไม่กล้า
จึงได้แค่หลบสายตาแล้วแอบมอง
คิดหากเธอชอบกินผักจะจับจอง
ตอบสนองคำของแม่ให้สุขใจ

แล้ววันนี้เธอก็มาลาไป
บอกตำลึงพอกับไข่ที่จะปรุง
ตัวฉันเองก็ได้แต่ทำหน้ายุ่ง
เดินหาแม่ที่หุงข้าวในเตาไฟ

อยากให้ทุกวันที่บ้านเธอทอดไข่
และคุณแม่เธอใช้ให้มาเก็บตำลึง
จะเข้าไปถามเธอให้ได้วันหนึ่ง
เธอชอบกินผักนึ่งเหมือนฉันไหมเธอ				
9 เมษายน 2547 14:39 น.

คนกินดิน

วิจิตร ภู่เงิน

เป็นเรื่องราวเล่าขานมานมนาน
ว่าผืนดินอีสานแห้งแล้งเหลือหลาย
ผู้คนต้องกัดกินดินกันตาย
คนมากมายได้เล่าขานและล่ำลือ

ฉันเคยถามยายเกี่ยวกับเรื่องนี้
ยายตอบฉันทันทีว่าไม่เกี่ยว
ที่กินดินไม่ใช่อดอยากซีดเซียว
แต่ต้องการที่จะเคี้ยวเสริมอาหาร

ยายเล่าว่าสมัยก่อนนี้ผู้คน
เขาขุดค้นหาดินใต้บ่อสีอ่อน
หากได้กินมีวิตามินแน่นอน
ครั้งเมื่อตอนก่อนนั้นยายก็กิน

เคยกินดินกินกลอยกินมันป่า
กินแกงปลาช้อนตัวโตในห้วยหนอง
เก็บผักอ่อนที่ขึ้นริมคูคลอง
มากินกับแจ่วบองคำโตโต

ยายเล่าต่อว่าของกินเมื่อก่อนนั้น
เดินหาตามคันนาก็พอได้อยู่
ไม่ว่าจะเป็นกุ้งหอยและปลาปู
เดินลงคูประเดี๋ยวเดียวก็ได้มา

ครั้งถึงหน้าแล้งของกินก็พอมี
แมงกุดจี่ในขี้ควายก็อร่อย
แมงจีนูนแมงอีและแมงจีนอย
ตอนยายเป็นเด็กตัวน้อยแม่หามา

ยายบอกของกินอีสานอุดมอยู่
คนเขาไม่รู้จึงได้เล่าขาน
ลือว่าคนอีสานกินดินมานาน
ยายจึงขอค้าน ณ ที่นี้ด้วยเอย
				
8 เมษายน 2547 11:31 น.

อารมณ์ไก่

วิจิตร ภู่เงิน

รุ่งเช้าของทุกวันไก่ขันไล่เสียง
ประสานประสมสำเนียงเจื้อยแจ้ว
บอกเวลาปลุกคนว่าเช้าแล้ว
ให้รีบแจวจากที่นอนเก็บหมอนมุ่ง

ลุกขึ้นหุงหาข้าวปลาอาหาร
พร้อมที่จะรับประทานในวันใหม่
กินเสร็จแล้วจึงแยกย้ายกันไป
ทำงานที่ใครทำประจำวัน

เป็นอย่างนี้มาชั่วปีดีดัก
ผู้คนจะตื่นนอนเมื่อไก่ขัน
เผชิญภาระในแต่ละวัน
จึงผูกพันธ์เสียงไก่กับผู้คน

มาวันนี้ไก่ไม่ขันเหมือนก่อน
คนจึงนอนหลับใหลเลยเวลา
ลืมกิจหน้าที่หุงหาข้าวปลา
งานประจำวันช้าไม่ทันการ

ไก่เจ้าเป็นอะไรถึงไม่ขัน
หรือเจ้านั้นอารมณ์ไม่สบขำ
จึงลืมกิจวัตรที่เคยทำ
ไม่ร้องคำเจื้อยแจ้วแล้วไก่เอย
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิจิตร ภู่เงิน
Lovings  วิจิตร ภู่เงิน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิจิตร ภู่เงิน
Lovings  วิจิตร ภู่เงิน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิจิตร ภู่เงิน
Lovings  วิจิตร ภู่เงิน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงวิจิตร ภู่เงิน