31 สิงหาคม 2550 18:40 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
นามสกุล ใหญ่โต จึงโอ้อวด
กล้าประกวด เบ่งกล้าม หยามศักดิ์ศรี
ยกว่าตน ชนสูงกว่า ตราผู้ดี
เงินทองมี มหาศาล ตระการตรา
เมื่อรถเมล์ เชี่ยวชน จนรถข่วน
มันสมควร ได้รับโทษ โกรธแทบบ้า
จึงลงรถ ด่าประจาน ไอ้ด้านชา
ตามด้วยหิน ตบหน้า ให้สาใจ
ไม่หายแค้น แล่นรถ ขึ้นบดร่าง
คนอยู่ข้าง ทางเท้า วิ่งเข้าใส่
เหยียบเอาคน บนทาง อย่างตั้งใจ
จนคนหนึ่ง สิ้นใจ ไปทันที
คนโดนเหยียบ ร้องโอย จนโรยหล้า
แต่คนเหยียบ ทำท่า อยู่กับที่
เกิดอาการ ทรงเจ้า เข้าทันที
สั่นงันงก ชกตี เหมือนผีอำ
เรียกให้ลง จากรถ จนหมดเสียง
ยังสั่นเอียง เสียงหาย กายสั่นย้ำ
จนคนต้อง ทุบกระจก ยกล้อลำ
เพื่อจะนำ คนบ้า ออกมาดู
จะเข้าทรง ผีเข้า หรือเขาบ้า
จึงสั่นหน้า ตาขวาง ตั้งชันหู
แค่เฉี่ยวกัน มันแค้นนัก อยากถามดู
ถึงได้กรู ขับรถ บดทับคน
แล้วบอกว่า ลูกตน คนไม่ผิด
เพราะว่าจิต ผิดปกติ มีสับสน
ต้องให้แพทย์ รักษา เยียวยาตน
จึงรอดพ้น เจตนา ฆ่าคนตาย
คนทำผิด แต่ทำไม กลับไม่ผิด
อภิสิทธิ์ นามสกุล หนุนไม่หาย
ก็ใส่ซิ เป็นคนจน คนที่ตาย
ชนชั้นนาย ทำผิด ไม่ติดตะราง
วิจิตรวาทะลักษณ์(นฤมิตรเทวากร)
วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม 2550
28 สิงหาคม 2550 20:51 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
สารานุกรม เสรี มีบัญญัติ
กล่าวไว้ชัด ถึงความหมาย ในพระสงฆ์
ว่าหมายถึง สาวก พระพุทธองค์
ที่ได้ทรง ฟังธรรม จำชีวิน
แล้วเลื่อมใส ศรัทธา พระพุทธเจ้า
สละแล้ว เรือนเหย้า เข้าถือศีล
แล้วออกบวช ห่มเหลือง เรืองชีวิน
ไม่ลืมสิ้น ปฏิบัติตาม พระธรรมวินัย
นับถือศีล ไม่ด่างพร้อย สองร้อยยี่สิบเจ็ด
ดั่งพลอยเพชร ประดับงาม ตามวิสัย
สง่างาม ครองวัตร ปฏิบัติไป
ตามพระธรรม วินัย พระศาสดา
สยามประเทศ ได้ขึ้นชื่อ คือเมืองพุทธ
ประเสริฐสุด พุธศาสน์ พิลาสหล้า
ศาสนาพุธ ประดิษฐาน แต่นานมา
จนเลื่องลือ คือพุทธา มหานคร
แต่เดี๋ยวนี้ พระสงฆ์ ผู้ทรงศีล
เริ่มสูญสิ้น พระธรรม และคำสอน
พระพุทธองค์ พระธรรมวิชัย ไม่อาวรณ์
ไม่ครองวัตร เหมือนแต่ก่อน ตอนโบราณ
ไปปลุกเสก วัตถุมงคล บ่นคาถา
บ้างเสริมส่ง ดวงชะตา ช่างว่าขาน
บ้างสะเดาะ เคราะห์ราย หลายตำนาน
บ้างก็พาล สักยันต์ กระพันคง
บ้างก็ขาย ยาบ้า หาเงินใช้
บ้างสังวาส หญิงได้ ให้สารสง
บ้างอวดอ้าง อิทธิฤทธิ์ คิดเข้าทรง
บ้างก็ลง หน้าทอง ลองวิชา
พจนา นุกรม ฉบับไหน
ที่เขาให้ ความหมาย คล้ายที่ว่า
พระนอกรีต จึงไปจำ คำเขามา
แล้วสร้างความ ต่ำช้า ตราแผ่นดิน
วิจิตรวาทะลักษณ์(นฤมิตรเทวากร)
วันอังคารที่ 28 สิงหาคม 2550
26 สิงหาคม 2550 14:23 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
เป็นอีสานแล้วทำไม
พูดอีสาน แล้วไง ใช่มันขำ
คำก็ลาว สองคำก็ลาว ดูเขาทำ
เหมือนตอกย้ำ หยามเหยียด รังเกียจเรา
กินปลาร้าแล้วทำไม
ก็แค่หมัก ปลาไว้ ทำไมเล่า
มันเหม็นนัก หรือไง ใครว่าเรา
ที่กินเข้า ทุกวัน หรือมันไม่มี
ดั้งหักแล้วทำไม
ดูถูกกัน เข้าไป ให้ถึงที่
รูจมูก หายใจ ยังไม่มี
ดูว่าเรา แต่ละที ไม่มีชม
จนแล้วทำไม
ไม่เคยคิด ขอใคร ให้ขื่นขม
ประณามกัน ให้เพียบ เหยียบให้จม
เหยียบอีสาน เหยียบให้ล่ม จมแผ่นดิน
ทำนาแล้วทำไม
ก็ปลูกข้าว ให้ใคร ให้ดมกลิ่น
ถ้าไม่มี คนอย่างเรา ปลูกข้าวให้กิน
จะมีไหม แผ่นดิน ถิ่นอุดม
เลี้ยงควายแล้วทำไม
จึงเหยียบย่ำ หยามใจ ให้สาสม
ว่าอีสาน โง่เหมือนควาย ร้ายคารม
ที่แช่งชม ว่าเรา โง่เง่าเกิน
ไม่ได้เรียนแล้วทำไม
บอกว่าไร้ การศึกษา ไม่น่าสรรเสริญ
จบ ป.4 อย่ากล้ามา อวดเกิน
ไม่มีเงิน ก็ง่ายง่าย ไม่ได้วิชา
เป็นอีสานแล้วทำไม
รังเกียจมาก ใช่ไหม ถึงได้ว่า
คนอีสาน ก็คนไทย ใช่ผักปลา
กรุณา อย่าเหยียดหยาม ประณามกัน
วิจิตรวาทะลักษณ์(นฤมิตรเทวากร)
วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม 2550
23 สิงหาคม 2550 20:22 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
เดรัจฉาน ไร้ศีลธรรม ประจำจิต
จึงเบือนบิด เสพสม อารมณ์หมาย
แม้นแม่พ่อ พี่น้อง มิต้องอาย
วาดลวดลาย สังวาส ประกาศตน
ไม่ว่างเว้น เรื่องวัน สถานที่
เพราะผิดชอบ ชั่วดี ไม่มีผล
จะแลกคู่ ร่วมนอน ก่อนคู่ตน
หรือเปรอปรน ให้กัน มันมิรอ
จะเป็นคู่ หมู่เดี่ยว ไม่เกี่ยวชั้น
จะแบ่งบัน คู่ชม เสพสมต่อ
จะต่างสาย ชาติเชื้อ ไม่เผื่อรอ
จะเป็นแม่ เป็นพ่อ รอไปใย
แต่มนุษย์ เห็นชัด สัตว์ประเสริฐ
จะเลยเถิด เรื่องพรรค์นั้น ถึงขั้นไหน
สวิงกิ้ง ยิ่งเห็นชัด จัดกันไป
เป็นชมรม คนอยากใช้ คู่ร่วมกัน
มีสมอง ตรองไตร่ ให้สำนึก
แล้วตรองตรึก ถูกผิด คิดสร้างสรรค์
อย่ามัวเฝ้า เอากาม เข้าถามกัน
ยิ่งนับวัน มั่วสุม เป็นกลุ่มกาม
วัฒนธรรม การเป็น เช่นมนุษย์
มิอาจฉุด ขึ้นหรือไร ใจอยากถาม
หรือศาสนา ศีลธรรม ประจำนาม
มิอาจดึง ความต่ำทราม ที่หยามใจ
เดรัจฉาน เสพสังวาส มิอาจห้าม
เพราะทำตาม การสืบพันธุ์ มันใช่ไหม
แต่เดี๋ยวนี้ มนุษย์เรา เข้ากามไฟ
เพราะบันเทิง เริงใจ เพียงชั่ววาน
อย่าให้คำ จำกัด สัตว์ประเสริฐ
ถูกละเมิด ไปหาสัตว์ เดรัจฉาน
เพราะเส้นแบ่ง ความแตกต่าง ระหว่างการ
ถูกความร่าน ร่อยหรอ รอเชื่อมโยง
วิจิตรวาทะลักษณ์(นฤมิตรเทวากร)
วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม 2550
19 สิงหาคม 2550 23:42 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
หยุดร้อง หยุดร้อง จงหยุดร้อง
ไม่งั้นต้อง เอาผ้ายัด มัดปากหนา
จะแหกปาก ไปทำไม ใช่เวลา
เดี๋ยวคนเดิน ผ่านมา จะทำไง
อย่าดิ้น อย่าดิ้น จงอย่าดิ้น
เอาผ้าซิ่น มัดมือเท้า เข้ากันไว้
จะมาดิ้น หาพระแสง สำแดงใด
อยู่นิ่งนิ่ง ได้ไหม กูรำคาญ
จับโยน จับโยน ลงขยะ
ออกไปซะ ใช่จิตใจ ไม่สงสาร
แม่ไม่มี ปัญญา มาเจือจาร
หาอาหาร มาเลี้ยง ให้เพียงพอ
ยังเรียน ยังเรียน แม่เรียนอยู่
จะเลี้ยงหนู ไม่ได้ ไม่มีพ่อ
แม่ยังเด็ก เลี้ยงไม่ไหว ใช่ด่าทอ
จงไปรอ คนเขา เก็บเจ้าไป
เดินหนี เดินหนี แม่เดินหนี
อย่างเร็วรี่ กลัวคน วนมาใหม่
ทิ้งเด็กน้อย ตาดำดำ ร้องร่ำไป
เพิ่งเกิดใหม่ ในผ้า ขยะรอง
เด็กดิ้น เด็กดิ้น เด็กก็ดิ้น
ไม่ได้กิน นมแม่ แกก็ร้อง
พลิกขวาซ้าย ใต้ผ้า ขยะกอง
มดแดงจ้อง กัดขา กัดหน้าตน
เด็กร้อง เด็กร้อง เด็กก็ร้อง
ขยะกอง แดดเผา เข้าเผาขน
รอคนใด ใจบุญ เกื้อหนุนตน
เก็บเอาคน ในขยะ มาเลี้ยงดู
เด็กไทย เด็กไทย หนอเด็กไทย
เป็นอะไร ไปกัน มันอดสู
ขยะมนุษย์ เริ่มมากขึ้น เรายืนดู
ความอดสู แห่งสังคม นิยมเสรี
วิจิตรวาทะลักษณ์(นฤมิตรเทวากร)
วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม 2550