14 พฤษภาคม 2551 20:06 น.

ลิเก หลงโรง

วิจิตรวาทะลักษณ์

          อันภาษิต  ไก่งามได้  เพราะใส่ขน
เสมือนคน  จะงามได้  เพราะใส่สี
ย่อมเป็นจริง  ถ้าแต่งต่อ  พอดูดี
แต่งเติมสี  สวยหล่อ  แต่พอดู

	          แต่ต้องมอง  ดูกาละ  และเทศะ
ไปที่ไหน  ควรจะ  แต่งให้หรู
จะไปเรียน  ไปทำงาน  หมั่นคิดดู
อย่าให้คน  ที่มองอยู่   ว่าเกินไป

	          มิใช่ว่า  ไปเรียน  แล้วเขียนปาก
สีแดงลาก  แก้มขัด  ปัดสีใส่
ลงแป้งหน้า   จนวอกขาว  ราวอะไร
มีกี่สี  ลงใส่  ใต้เปลือกตา

	          ชั้นอุดม  พอเหมาะ  เพราะโตแล้ว
แต่หน่อแนว  มัธยม  แทบก้มหน้า
เล่นลงแป้ง  แสงสี  หลากลีลา
ไม่เหลือเค้า  โครงหน้า  มัธยม

	          ดูดูไป  เหมือนลิเก  มาเร่เล่น
บางคนเห็น  เป็นงิ้วนั่น  มันขื่นขม
นี่ห้องเรียน  เขียนอ่าน  การอบรม
หรือโรงงิ้ว  เปิดให้ชม  ยังขมใจ

	          หน้าวัยเด็ก  สวยใส  ตามวัยเจ้า
ไฉนเอา  ฝุ่นสี  มาตีใส่
แค่แป้งฝุ่น  ลิปมัน  นั่นเป็นไร
ก็สวยใส  ตามประสา  หน้าของตน

	          คนจะงาม  งามที่ใจ  ใช่เติมสี
จงหมั่นเติม  ความดี  จึ่งมีผล
งามภายนอก  หรือจีรัง  ประทังตน
งามจิตใจ  จึ่งอยู่ทน  แม้ตนตาย
				
9 พฤษภาคม 2551 19:40 น.

สิบมือที่ทำลาย ขอเพียงหนึ่งใจที่คิดทดแทน

วิจิตรวาทะลักษณ์

          เมื่อสิบมือ  ล่วงล้ำ  ธรรมชาติ
วางอำนาจ  ถือสิทธิ์  คิดล้างผลาญ
ต่างตักตวง  ช่วงชิง  สิ่งต้องการ
จนป่าไม้  กลายเป็นลาน  สะท้านใจ

	          จากสิบมือ  สิบต้น  ที่ตนตัด
แพร่สะพัด  เป็นร้อยพัน  ฉันตัดได้
จากสิบต้น  ตัดตอ  มิก่อใบ
เป็นพันต้น  ล้านใบ  ในทันที

	          ภูเขาเขียว  พืชพันธ์  เคยหว่านล้อม
วันนี้ยอม  โล่งเตียน  ดั่งเขียนสี
อันทิวทัศน์  ยอดเรียว  เขียวขจี
ถูกใส่สี  น้ำตาลแดง  แสลงใจ

	          เมื่อสิบมือ  ล่วงล้ำ  ธรรมชาติ
ขอหนึ่งมือ  ใสสะอาด  วาดทางใหม่
ที่ร่วมปลูก  ไม้ต้น  คืนบนไพร
เขาตัดไป  เราลุก  ปลูกคืนดิน

	          แม้หนึ่งมือ  หรือจะสู้  ผู้ล้มล้าง
แต่ดีกว่า  ปล่อยว่าง  แล้วห่างสิ้น
ตัดสิบต้น  ปลูกหนึ่งต้น    บนแผ่นดิน
ก็ย่อมดี  กว่าลืมถิ่น  ไม่ปลูกเลย

	          จากหนึ่งมือ  ผู้ทดแทน  แดนป่าไม้
เป็นร้อยพัน  หมื่นไป  อย่าได้เฉย
ย่อมดีกว่า  เห็นเขาตัด  เราปัดเลย
ไฉนเลย  ป่าจะยัง  เป็นบังใบ

	          จะเป็นหนึ่ง  ในสิบมือ  ถือเลื่อยสับ
หรือหนึ่งมือ  ปลูกกลับ  จับแก้ไข
จะเป็นผู้  ทำลายล้าง  หรือสร้างใส่
จงเลือกให้  สมค่า  ปัญญาชน
				
4 เมษายน 2551 21:40 น.

คุณค่าของคน ใช่อยู่ที่ผลของเพศ

วิจิตรวาทะลักษณ์

          ใครหนอใคร  ตั้งกฎ  กำหนดเพศ
ว่าขอบเขต  มีแต่  แค่ชายหญิง
ว่าฟ้าสร้าง  ทั้งสอง  ครองความจริง
ว่าให้หญิง  คู่ชาย  หมายสืบพันธ์

	          แล้วตราหน้า  หญิงชาย  ที่กลายเพศ
ว่าทุเรศ  รังเกียจ  แล้วเดียดฉัน
บ้างว่าฝืน  ธรรมชาติ  อนาถพลัน
แล้วเหยียดหยาม  ประณามกัน  ว่าจัญไร

	          อคติ  ตราตั้ง  บังความคิด
ใครผิดเพศ  ฉันว่าผิด  จิตฝักใฝ่
ฉันชายจริง  หญิงแท้  แน่กว่าใคร
ไม่อยากให้  เธอเขา  เข้าร่วมวง

	          เกิดเป็นชาย  ภูมิใจ  ในรูปลักษณ์
เกิดเป็นหญิง  ก็พริ้มพักตร์  จักประสงค์
หญิงรักหญิง  ชายรักชาย  ใช่เจาะจง
เขายังคง  ภูมิใจ  ไม่เปลี่ยนแปร

	          ไม่มีใคร  ถือกำเนิด  เลือกเกิดได้
แล้วตั้งใจ  เป็นชายหญิง  สิ่งแน่วแน่
เมื่อเกิดมา  กายกับใจ  ได้ผันแปร
จึงพ่ายแพ้  แก่ใจ  ให้ประณาม

	          ถึงเลือกเกิด  ไม่ได้  ใจยังมั่น
จึงฝ่าฝัน  สู้ทน  แม้คนหยาม
ถึงผิดเพศ  ไม่ผิดที่  ด้วยดีงาม
พร้อมยังความ  คุณค่า  ตราแผ่นดิน

	          ทุกวันนี้  โลกกว้าง  ทุกทางท่อง
อย่ามัวมอง  ปิดใจ  ให้ดับดิ้น
จะเพศไหน  คนไหน  ในแดนดิน
หากไม่สิ้น  ความดี  ย่อมดีตาม

	          เพราะคุณค่า  ของคน  บนโลกนี้
ใช่อยู่ที่  เป็นเพศใด  ให้มองข้าม
หากนำน้อม  พร้อมทำดี  ย่อมดีงาม
ก็สมความ  สมคำ  คำว่าคน
				
1 เมษายน 2551 20:01 น.

ชีวิตคือการลงทุน

วิจิตรวาทะลักษณ์

          ตั้งแต่ครรภ์  ยังหุ้ม  คุ้มกายอยู่
ก็ฝากหมอ  ช่วยดู  อยู่ไม่หาย
อันต้มแกง  ทอดย่าง  อยู่ข้างกาย
ไม่เคยชาย  สายตา  มาลองทาน

	          ก่อนจะคลอด  ฝากครรภ์  กับท่านหมอ
เขายื่นข้อ  ขอเสนอ  เธอก็ขาน
เป็นเพคเก็ต  การคลอด  ตลอดงาน
ใครจ่ายผ่าน  จะเทคแคร์  ดูแลดี

	          เมื่อเริ่มโต  ของเล่น  เป็นพันหมื่น
ของพื้นพื้น  ม้าก้านกล้วย  ช่วยเอาหนี
ฉันจะเอา  รถแข่ง  สีแดงดี
ตุ๊กตา  บาร์บี้  ทีละพัน

	          เริ่มเข้าเรียน  โรงเรียนดัง  ครั้งแสนกว่า
สอบไม่ได้  ใช่ปัญหา  มาเลยนั่น
บริจาค  หลักแสน  แทนหลักพัน
ลูกของฉัน  ก็ได้เรียน  โรงเรียนดี

	          พอทำงาน  จ้างสอบ  ตอบคำถาม
หรือจ้างเข้า  งานงาม  ทำง่ายนี่
ราชการ  กระทรวงไหน  ได้ทันที
แม่จะรี่  เร่งจ่าย  หมายเข้าทำ

	          พอแต่งงาน  ลูกสาว  เราเรียกสูง
ลูกชายมุ่ง  เสนอน้อย  คล้อยลงต่ำ
แต่ซองแจก  หลายร้อย  คอยนับนำ
เอาทุนคืน  สมคำ  ตามลงทุน

	          เมื่อเวลา  อายุไข  หมายลับล่วง
มิอาจทวง  เงินตรา  ข้าเคยหนุน
ที่ติดตัว  ตามไป  ได้แค่ทุน
คือเศษเถ้า  ธุลีจุน  หนุนแผ่นดิน
				
30 มีนาคม 2551 16:20 น.

ฤาใครอยากทดลอง กินทองแทนข้าว

วิจิตรวาทะลักษณ์

            เมื่อทั้งโลกยึดค่าราคาของ
ตามราคาแท่งทองของควรค่า
เมื่อทองแพงน้ำมันแพงแซงราคา
ฉุดเอาค่าราคาของประคองชน

	          ประเทศไทยไม่มีทองเป็นกองเหมือง
เป็นเพียงเมืองเกษตรกรรมตามฟ้าฝน
ก็ยึดแบบต่างชาติประกาศตน
ว่าคือชนทันสมัยไม้แพ้กัน

	          เมื่อทองขึ้นน้ำมันขึ้นฝืนไม่อยู่
ข้าวของกรูขึ้นราคาช่างน่าขัน
พวกคนรวยไม่กระทบเพราะครบครัน
ชนล่างชั้นกระอักเลือดดั่งเชือดคอ

	          นโยบายรัฐเองเร่งต่างชาติ
ป่าวประกาศให้ลงทุนหนุนหนักหนอ
ดั่งกับเราเข้าขั้นอันควรพอ
สำหรับต่อเร่งรุดอุตสาหกรรม

	          ลืมไปว่าทองคำประจำถิ่น
เหนือแผ่นดินถิ่นไทยอันใหญ่ล้ำ
ก็คือข้าวสีทองผ่องอำพรรณ
ที่สำคัญกว่าทองทุกผองชน

	          ควรจะเร่งหนุนนำทองคำนี้
ให้เป็นที่รู้จักได้ในทุกหน
เพราะชีวิตการเป็นอยู่ทุกผู้คน
ใครจะทนทดลองกินทองแทน

	          มิใช่มัวเร่งรุดอุตสาหกิจ
มาก่อพิษก่อควันอันสุดแสน
ผืนนามีปลูกข้าวกินทุกดินแดน
กลับถูกแทนด้วยโรงงานประหารตน

	          อนาคตคนรวยร่ำน่าขำนัก
คงต้องหักเอาทองแท่งมาแกงป่น
เพราะที่ดินปลูกข้าวของเหล่าชน
มีแค่พอปลูกข้าวต้นให้ตนกิน
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิจิตรวาทะลักษณ์
Lovings  วิจิตรวาทะลักษณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิจิตรวาทะลักษณ์
Lovings  วิจิตรวาทะลักษณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิจิตรวาทะลักษณ์
Lovings  วิจิตรวาทะลักษณ์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงวิจิตรวาทะลักษณ์