5 พฤษภาคม 2547 21:12 น.
วสุนทรา
เขียน.........กลอนรัก..........จากใจ..........ไปถึงเจ้า
กลอน........เบาเบา............สื่อความ.......มากความหมาย
รัก............นะ...รัก.............คุณรู้.............อยู่มิวาย
จาก..........จดหมาย..........แทนคำ.........ฉ่ำน้ำใจ
ใจ............ส่งผ่าน.............ม่านฟ้า..........ไปหาคุณ
ไป............รอลุ้น..............ว่าคุณ.............ลุ้นรักไหม
ถึง............คุณไม่.............รับรู้...............อยู่ที่ใจ
เจ้า...........ผลักไส............แต่พี่นี้...........มิไคลคลา
กลอน.......บทนี้................เขียนบอก......หยอกคนรัก
เบา..........มิหนัก..............หากปัก..........รักแน่นหนา
เบา..........แค่ซอง.............แต่ปองรัก......นักพะงา
สื่อ...........ความมา...........บอกกล่าว.......ท้าวลำนำ
ความ.......ห่วงใย..............มากล้น...........จนเกินอ้าง
มาก.........จนวาง.............ไม่ลง..............คงถลำ
ความ.......รักนั้น..............มีอยู่................คู่น้ำคำ
หมาย.......จะย้ำ...............จำจาร.............สานส์รักเอย
รัก...........ตราตรึง...........รึงรัด...............มัดไอหวาน
นะ............วันวาน.............ยังอุ่นอบ..........มิลบเอ๋ย
รัก...........วันนี้................แม้ห่างไกล......ไป่ได้เชย
คุณ..........ไม่เคย............เผยคำหวาน......เป็นทานใจ
รู้..............ทั้งรู้...............ว่าฉัน...............ปันใจรัก
อยู่............แน่นหนัก........กับเธอ.............ใช่เผลอไผล
มิ.............ราร้าง.............ห่อนคำนึง.........ถึงทรามวัย
วาย..........หทัย...............ใช่วายรัก.......ภักดิ์แปรปรวน
จาก..........วจี..................ที่ขาน...............จารลิขิต
จด...........ด้วยจิต............เปี่ยมรัก............ใช่ผกผวน
หมาย.......บอกเจ้า..........ให้รับรู้...............พี่คู่ควร
แทน........พจน์อวล..........ฝากอักขรา.........ภาษาใจ
คำ...........ทุกคำ.............ที่ร้อยเรียง..........เพียงอยากบอก
ฉ่ำ...........ระรอก............คลื่นความรัก......จักสวยใส
น้ำ...........เมตตา............อาทร................วอนห่วงใย
ใจ...........ผ่านใจ............โปรดรับไว้.........ได้ไหมคุณ.....
.............................๑๑ กุมภาพันธ์ 2546
5 พฤษภาคม 2547 20:23 น.
วสุนทรา
..เรียงจำนรรจ์กลั่นถ้อยร้อยความคิด
ร่างลิขิตมอบแด่องค์กนิษฐา
ผู้เสมือนมงกุฏไพรกลางพนา
ราชินีแห่งพฤกษาลดาวัลย์
..ณัฐนรีเอกประพันธ์วรรณศิลป์
ร้อยกวินรสกวีศรีเฉิดฉันท์
คงความงามเนืองนิจเป็นนิรันดร์
ดุจมณีแห่งสวรรค์ปันประทาน
.........ด้วยความเอ็นดูและห่วงใย
5 พฤษภาคม 2547 08:28 น.
วสุนทรา
..เสียงกระซิบแววหวานขานไพเราะ
ให้เสนาะผ่านสายลมพรมใจฉัน
คล้ายดั่งเป็นวิญญาณรักอันนิรันดร์
ราวผูกพันกว่าภพสิ้นปฐพินทร์ม้วยมรณ์
ขอเธอมารับบุญที่ฉันสร้าง
ระหว่างทางใต้ร่มถตาศร
จักบำเพ็ญส่วนกุศลอำนวยพร
มิคิดจรจากร้างหรือห่างไกล
เสียงกระซิบเว้าวอนผ่านลมว่า
เธอเคยรักปักใจฝันเพราะมีฉันอยู่ใช่ไหม
รักเพื่อคาย ..คายเพราะรักปักอาทร..ลมสะท้อนสู่จิตเป็นมิตรใจ
.................................................
.................................................
.....เหมือนเสียงทิพย์กระซิบปลุก
ยื่นความสุขด้วยรอยยิ้มอิ่มที่เห็น
เหมือนละอองอานุภาพอาบใสเย็น
เหมือนดั่งเป็นรางวัลใจได้มาเยือน
....มองดูหยดน้ำฝนหยดน้อยหยาดย้อยแต้มอยู่ปลายใบพฤกษา...ร้อยรำพัน...ฝั้นคำนึงไปหานางพญาแห่งป่าอันไกลโพ้น.เจ้าหญิงแห่งป่าในความฝัน..คล้ายยลยินเสียงบุหรงร่ายร้อง..ลำตัวอ่อนฟ้อนอ้อนเริงรำงามงอน
..กลิ่นเอื้องป่า โชยมาแต่ไกล...หอมนัก....หอมจนใจรู้สึกสะอาด..สงบเย็น...ปานว่า ได้พบกับ...จอมนารี เทพีแห่งพฤกษ์ไพร ..ยากหาผู้ใดเสมอเหมือน.....
......รักนี้ช่างไร้ทุกข์ ..เหนือโศก....เพียงอาทร...ไร้ซึ่งความรุ่มร้อนรอนราญ...นิรันดร์รักถอทัก..รักไว้ตราบนานเท่านาน.....หัวใจดวงนี้ไม่ได้เป็นของผู้ใด. ....หากมอบให้เพียงดอกฟ้าตถาศร.....ความรักหากมี...จักเอื้อยต่อมวลนรากร...แม้นภพจักนิราศจากจร... ฤา..กลับกลายปณิธาน
.
....รักนี้มิใช่รัก...เพียงสลักในน้ำใจการุญ...แด่ผู้เป็นมวลมิตรใจ ไม่ว่าอยู่แห่งหนไหนขอให้บุญเกื้อหนุน...ร้างโศก..ร้างทุกข์....ห่างใจตรอมตรม....ขอประทานสุนทรพรพิพัฒน์พรม.ชโลมใจ.....
....พรหมจรรย์แห่งรักเรา...จะคงอยู่นานเนาว์....กว่ากายนี้ดับสิ้น..ดินถม..ล้มลงสู่พื้นปฐพีเอย....
.รักเพราะรัก......รักเพื่อให้....รักเพื่อไร้สิ่งใดตอบแทน....รักนี้ไม่หวงแหน...ไร้ขอบเขตแดน...แด่พิภพจบไตรภูมิ
4 พฤษภาคม 2547 10:53 น.
วสุนทรา
จะรับไหมถ้าคิดจะรักเจ้า
ให้นานเนาด้วยใยรักที่ถักสาน
เป็นรักแท้ไม่แปรผันนิรันดร์กาล
น้อมประทานแด่แก้วกัลยา
เมื่อไอรักก่อเกิดเจิดในจิต
ไตร่ตรองคิดทำเช่นใดจักรักษา
ดวงหทัยที่เคยด้นดำเนินมา
ฤา..จักเปลี่ยนชะตา..ฟ้าเบื้องบน
พรหมลิขิตขีดชีวิตให้ชิดนาฏ
จนมิอาจลานิราศดั่งล่องหน
ทุกอณูแห่งมนัสประพัทธ์จน
เอ่อท่วมท้นด้วยเมตตาทยาธร
แม้นมิใช่รักหมายปองข้องรูปนุช
เพียงบริสุทธิ์ตามธรรมคำสั่งสอน
รักเพราะรักเพียงเพื่อให้แด่บังอร
จะขอวอนหากรักด้วย...พรหมจรรย์
ทุกท่าบาทที่ย่างเยื้องเบื้องพิภพ
น้อมธรรมสบดวงฤดีศรีเฉิดฉัน
หากจะยุดฉุดเจ้าไว้ไปด้วยกัน
บนธารธรรม์ นำชีวิตพินิจธรรม
ประกอบกิจ ประกบใจให้แน่นแฟ้น
มิคลอนแคลนปณิธานศานติขำ
ยินดีอยู่เคียงคู่เจ้าเพื่อน้อมนำ
สร้างบุญกรรมแห่งความดีรุจีพร
สุขสล้างกระจ่างใจมอบให้เจ้า
ยุพเยาว์ด้วยสัมพันธ์ประภัสสร
จะรักษาให้คงมั่นนิรันดร
มิคิดจรแม้นกายดับลับวิญญาณ
ถึงกาลใดคืนสู่ทิพย์พิมานเมฆ
คงเมียงเรขชายาดั่ง...พิษฐาน
เฝ้าปกปักเวียนพิทักษ์เจ้านงคราญ
ให้สำราญเริงฤดีลี้ห่างภัย
คงอยู่รอรับพริ้มเพราเยาวเรศ
ทิพย์เนตรคอยสาดส่องดวงแขไข
ถึงวันนั้นจะกุมหัตถ์อรไท
เฝ้าสาไหว้พระโสภาคย์ศากย์มุนี
ก่อนจักพาท่องสวนมวลมาลย์ทิพย์
สุวรรณขลิบรัตนาสาดรัศมี
กรพินธุ์เจ็ดประการชวาลมณี
ซับสุรภีหมื่นมาลีบุษบัน
เยือนแดนสรวงถ้วนทั่วทุกรวงฟ้า
แล้วกราบองค์มัฆวากระยาหงัน
ณ..บัณฑุกัมพลฯอเนกอนันต์
ก่อนจรัลสู่พรหมามหานคร
นำนวลพบองค์ผกากัมลาศ
แทบเบื้องบาทสหัมบดีอดิสร
ขอพระองค์ทรงประทานพาทสุนทร
ประสาธน์พรให้อนงค์องค์ปรียา
จึงเข้าสู่ธาณีนิรทุกข์
วันทาประมุชปฐมนาถศาสน์ตถา
พุทธสิขีทศพลล้นเมตตา
ก่อนกราบลาสู่สถานพิมานแมน
4 พฤษภาคม 2547 07:52 น.
วสุนทรา
อดีต...
มเหยงค์คงตระหง่านบนผืนภพ
ซากศิลามิอาจลบเรื่องหนหลัง
อโยธเยศล่มสลายทลายพัง
น้ำตาหลั่ง เลือดรินสู่ พสุธา
เพรงอดีตโหยหวนชวนสลด
ท่าวรันทดซากกายตายถมหล้า
สรรพาวุธ..ทิ่มแทงลงกายา
ธารโลหิตอาบธราเนืองนาคร
ยามนี้..
ยลเจดีย์ยอดหัก ณ เบื้องหน้า
อนิจจาตรงถ้อยพระธรรมสอน
ไตรลักษณ์นั้นมิยั่งยืนไร้แน่นอน
จะร้าวรอนเหตุใด ณ ใจตน
รัก โลภ โกรธ หลง มิสุดสิ้น
ไยผันผินสู่ทางห่างหลุดพ้น
เห็นไหมละครชีวิตในหมู่ชน
จงเตือนตนด้วยตนนะคนดี
ทุกอณูแห่งอากาศพิลาสพิไล
หากทำใจรับไอพุทธพิศุทธ์ศรี
จะหมองไหม้เหตุใดทำไมมี
ทุกๆที่หากปรับใจหวานไอธรรม
....ละครชีวิตบนโลกมีมากมาย ที่ทำให้คนเราเห็นทุกข์ รู้จักทุกข์ ....โดยเฉพาะ ละครชีวิตของแต่ละคน
ทุกคนเกิดมาต้องเจอกับความทุกข์ ไม่มีใครที่ทุกข์มากกว่าเรา ทุกข์น้อยกว่าเรา เพราะทุกคนต้องทุกข์
ด้วยความเกิด ทุกข์ด้วยความแก่ ทุกข์ด้วยความตาย ทุกข์ด้วยการพลัดพรากจากของรักของชอบ.ทุกข์จากหน้าที่การงาน ทุกข์จากอารมณ์ที่เข้ามากระทบกระทั่ง
..มีเพียงยาวิเศษขนานเอก ที่จะรักษาเยียวยาทุกข์นี้ได้อย่างถาวร นั่นคือ คำสอนของพระพุทธองค์
แม้นสักเล็กน้อยที่หยิบยาขนานนี้ขึ้นมารับประทาน อาการของโรคก็จะบรรเทาเบาบางลง..กว่าการใช้ยาขนานอื่น...
ขอเพื่อนมนุษย์ของเราจงอย่าท้อแท้กับความทุกข์ที่เจอ.....ขอให้ต่อสู่กับทางที่ต้องเดินต่อไป ด้วยใจที่เข้มแข็ง และมีธรรมนำทาง.....ขอให้อยู่อย่างใจเป็นสุขบนทุกข์แห่งโลกใบนี้นะเพื่อนรัก