26 สิงหาคม 2548 20:39 น.
วฤก
๏ พรายก่องผ่องแก้วแวววับ
ระยับรวงย้อยสร้อยศรี
สวมศอกอหญ้าวารี
มณีน้ำค้างกลางไพร
ครั้นกูณฑ์สูรย์แกล้งแรงแผด
เพลิงแดดดับแก้วแววใส
ระเหยเผยเนื้อเจือไคล
เคลือบใบบอบช้ำคล้ำตฤณ
คราบชลบนปรางนางเปื้อน
สะเทือนอุระถวิล
น้อยฤๅฤดีพี่ภินท์
เศร้าจินต์จะเศร้าเท่ากัน
เพราะวายพรายเพชรเก็จรุ้ง
ในทุ่งน้ำค้างสร้างสรรค์
สิ้นแสงแรงละคละควัน
มืดพลันพี่หม่นมนมัว
เจ้าแย้มแช่มชื่นฟื้นสุข
สร่างทุกข์ทุระสลัว
เรียมใคร่ไขว่ไว้ใกล้ตัว
ด้วยหัวใจรักภักดี ๚ะ
๒๖ สิงหาคม ๒๕๔๘
24 สิงหาคม 2548 09:49 น.
วฤก
๏ ทะมึนมัวสลัวคล้ายสยายผ้า
ผืนหม่นคาค้างโพยมกระโจมฝน
ตะคุ่มคลุ้มคลุมพร่าธราดล
ทลายป่นเปื่อยล้มใต้ตมธาร
ชะล้างหล้าวหาแห่กระแสซัด
ชลสะบัดสะบั้นฝั่งสุดยั้งผลาญ
คระโครมโครมกระโหมถั่งกระทั่งลาญ
ทะลักซ่านสายนรกอุทกภัย
อุปมาจารีตประณีตเนื้อ
ถูกถากเถือทำบิพ้นนิสัย
โลกวิวัฒน์วิบัติแบบแย้งแยบไทย
ย่ำยีให้เหือดหาคร่ำคร่าคลอง
ทะมึนมัวสลัวหนวิกลกรอบ
สยายครอบคลุมคนกมลหมอง
เห็นฟุ้งเฟ้อเฟะฟะฟ่ามคะนอง
ว่าน่าปองนั่นเป็นหมายเช่นทาง
กระแสบ่าบ้าสินสิ้นศีลสัตย์
กระแสพัดพาชอบระบอบขวาง
กระแสธรรมนำจิตจึงปลิดวาง
กระแสกว้างก่อนรกอุทกกรรม ๚ะ
๒๔ สิงหาคม ๒๕๔๘
9 สิงหาคม 2548 08:15 น.
วฤก
๏ ละมุนไออุ่นเอื้อ.............อุรส
นมแต่ละหยาดหยด..........ย่อมรู้
เสมอใดเท่าไหนทด.........แทนหนึ่ง........หยดนา
เสนอค่าสุวรรณสู้..............ส่งท้นเทียมไฉน ฯ
๏ เรือดไรฤๅไต่ต้อง..........แตะตน
มือท่านทานทุกข์ทน..........เที่ยงแท้
ขยันไกวไล่ไรผล..............ไรพ่าย
ไรเผ่นเรือดราแพ้............ไล่พ้นรานผิว ฯ
๏ ทนหิวทำอิ่มให้...............อาหาร
เหลือแบ่งลูกรับประทาน....ท่วมท้อง
ถึงคอยค่อยขอดจาน..........คลุกแจ่ว
จนใหญ่ยังถามร้อง............เร่งข้าวคราวหิว ฯ
๏ เผยทิวพจน์ท่วมพ้น.......ผืนโพยม
ขานค่านมประโคม.............ข่าวแจ้ง
นานถึงหมื่นธาตุโกรม........กัลป์ผ่าน
เทียมหนึ่งหยดนมแย้ง.......เยี่ยงเสี้ยวเศษเกษียร ๚ะ
๘ สิงหาคม ๒๕๔๘