27 กรกฎาคม 2547 11:08 น.
วฤก
กาพย์ขับไม้ห่อโคลง
๏ ค่าง.....เหนี่ยวมือเกี่ยวคว้า............กิ่งคาง
หลบ........กิ่งหักดีดผาง......................เผ่นพ้น
คบ..........สั่นหวั่นใจวาง.....................ว่าอยู่.........ยงฤๅ
คาง.........เปราะค่างเสาะค้น...............คบไม้ใหม่หมาย ฯ
๏ ค่างหลบคบคาง...........คบเปราะเผาะผาง............เพียงเกี่ยวเหนี่ยวกร
กิ่งนี้ที่เกาะ.....................กริ่งใจไม่เหมาะ...............อาจเปราะเลาะถอน
ถ้าเหนี่ยวเสียวตอน.......หักหล่นตนมรณ์...............ต้องหมายใหม่แทน ฯ
๏ ถลาหาหลัก.................หาแหล่งแห่งพัก...............คว้าควักไขว่แขวน
เข้าพะประชัน.................ชิงแย่งแข่งขัน.................ครองกั้นกันแดน
ได้กิ่งก็แสน....................สุดห้ามหวงแหน..............หากใครใคร่ปัน ฯ
๏ คว้าเปล่าคล้ายเป็น......กลายหายก็เห็น...............ให้คิดเห็นครัน
แก่นสารกลายสูญ............ทำนองทำนูล....................แท้ให้เธอหัน
ไหนทรงแน่สรรค์............พังท่าวเผยธรรม์ ..............อนิจจังอนิจจา ฯ
๏ ค่างไขว่ไม้ครอง...........ได้ดั่งใจปอง.....................ยังต้องละลา
เพราะคางช่างเปราะ........ไม่เหมาะเกาะเผาะ...........เพียงเคาะพฤกษา
พังขาดพลาดมา...............สู่พสุธา..............................ดังว่านิทาน ฯ
โตเล่นหาง
๏ คน.......ต่างจากค่างอ้าง........................อายใจ
ย้าย.........พรรคขวักไขว่ไป.....................เปลี่ยนพ้อง
กลาย.......เพี้ยนเปลี่ยนใจไย..................ยกว่า.......ประชาเฮย
พรรค......ใหม่ใคร่จองจ้อง.......................จกคว้าคะแนน ๚ะ
๒๗ กรกฎาคม ๒๕๔๗
9 กรกฎาคม 2547 09:22 น.
วฤก
๏ เห็นทรงสิ่งซับซ้อน................ซ่อนกล
เขียนศัพท์นิยามผล..................ภาพนั้น
รำพันหนึ่งพันยล......................พันอย่าง
พรรณต่างตามแต่งปั้น..............แปลกเพี้ยนแปรผัน ฯ
๏ ภาพเขียนเขาวาดไว้.............วางแสดง
เสมอดั่งพันพจน์แจง................กระจ่างได้
ผู้พิศหนึ่งภาพแปลง.................เป็นต่าง
เพียงห่างวางไกลใกล้...............ก่อให้กลายเห็น ฯ
๏ เขียนกานท์ประกอบพร้อม.....พจนา
ไพสิฐศัพท์สรรหา.....................เห่ร้อง
เจรียงเสียงสื่อภาษา..................เพลินโสต
ภาพสฤษฏ์เพียงเสียงพ้อง.........พจน์นั้นแน่ไฉน ฯ
๏ วรรณศิลป์วาดภาพไว้............หว่างภวังค์
สิ้นศัพท์เสียงขับยัง....................อยู่พร้อม
ไร้รูปแต่รอยฝัง.........................ลึกฝาก
ลงจิตรู้จินต์ย้อม.........................หยั่งรู้รสสาร ๚ะ
๘ กรกฎาคม ๒๕๔๗
9 กรกฎาคม 2547 09:13 น.
วฤก
๏ ในโลกนี้มีไหนที่ไม่ต่าง
ถ้วนทุกอย่างยังเห็นเป็นหลักฐาน
ต่างกิจจาภาระต่างประการ
แต่ประสานสอดคล้องประคองกัน
เหมือนดวงตาหน้าที่มีไว้จ้อง
หูก็ต้องไว้ฟังอย่างรังสรรค์
ปากไว้เอ่ยเผยคำพูดจำนรรจ์
หอมสุคันธ์นาสิกนั่นสิดม
หญิงต่างชายหมายว่าต่างหน้าที่
ต่างผู้มีต่างงานประสานสม
ชายเป็นหญิงหญิงกลายชายนิยม
โลกคงล่มเลือนเลอะเปื้อนเปรอะปน
ฮีตสิบสองคองสิบสี่ที่กำหนด
นั่นคือบทบอกแจ้งแสดงหน
เห็นภาระหน้าที่รู้ทีตน
ประกอบผลเพื่อเมืองรุ่งเรืองธรรม ๚
๗ กรกฎาคม ๒๕๔๗
6 กรกฎาคม 2547 11:06 น.
วฤก
๏ แต่ย่าปู่ชูค่าคือจารีต
เป็นขอบขีดควรเหมาะจำเพาะผล
จึงกำหนดกฎไว้ในบ้านตน
ทั้งชุมชนชอบนับน้อมรับมา
ธาตุเจดีย์มีเขตสังเกตห้าม
มิควรข้ามคร่อมครือท่านถือสา
ส่อเสนียดเดียดฉันท์กัลยา
ถือเป็นกาลกิณีไม่มีชม
ผุดจากขุมมุมไหนอ้างในสิทธิ
เอาลิขิตเข้าจับเพื่อทับถม
ทำฮีตคองของบ้านแหลกลาญจม
เพียงนิยมสิทธิสตรีตะบี้ตะบัน
คงย่าปู่ดูต่ำคนคร่ำคร่า
ไม่ชูหน้าแหนงชังเลิกสังสรรค์
จึงขุดรากถากเถาแปลงเผ่าพันธุ์
ฤๅคนทันสมัยให้ลืมตีน ๚ะ
๖ กรกฎาคม ๒๕๔๗
2 กรกฎาคม 2547 22:32 น.
วฤก
๏ ภาพถันสั่นสะท้าน.............สะเทือนภพ
อื้อเอิกเกริกกลบ..................กล่าวถ้อย
เปิดแว้บปิดเว็บจบ...............จริงดั่ง...........จินต์ฤๅ
สั่งเป่าสากเสียงจ้อย..............จักสิ้นซาไฉน ฯ
๏ เห็นใดใจนั่นแท้...............ที่ปรุง
เห็นหื่นหื่นจรุง.....................จริตร้อน
เห็นปลงอสุภพยุง..................พยัตเหตุ
เห็นแจ่มแจ้งสะท้อน.............สิ่งแท้หทัยหมาย ฯ
๏ หะหายให้หักห้าม...............หากเห็น
ขรมขู่คำขู่เข็ญ.......................เข่นคร้าม
ป้องปรามเปลี่ยนไปเป็น........ปกปิด
เหอะเหตุหั้นหากห้าม.............หักให้หายหือ ฯ
๏ หากถือเดชเหตุอ้าง..............เอาผิด
ผ้าผ่อนไยไม่ปิด......................ปกเร้น
เปิดนมนั่งดัดจริต....................จริยศาสตร์
จริยเสื่อมจราญเค้น.................ขอดได้ใดเห็น ๚ะ
๒ กรกฎาคม ๒๕๔๗