21 มิถุนายน 2547 16:32 น.

+++ ไหว้ครู +++

วฤก

๏ ปาเจราฯ จิตรู้.................ระลึกคุณ 
ครูช่วยอวยเกื้อหนุน...........กราบน้อม 
คำนึงค่าเหนื่อยจุน-.............เจือศิษย์ 
จนเสร็จสัมฤทธิ์พร้อม..........พรั่งพร้อมศาสตร์ศิลป์ ฯ 

๏ ภินท์เขลาพังขุ่นคลุ้ม.........คลุมกมล 
เผยเหตุถูกผิดจน................กระจ่างรู้ 
จรรยาบ่งค่าคน...................ครูสั่ง........สอนเนอ 
เสมอภาควิทย์-ธรรมผู้..........ผ่านข้ามความเขลา ฯ 

๏ เอาธูปเทียนดอกไม้..........มากราบ 
น้อมจิตซึ้งคุณทราบ..............ศิษย์ไหว้ 
พระคุณจักตรึงตราบ.............ตนตก.........มฤตแล 
ขอแผ่เกียรติครูให้...............กระหึ่มก้องกระโหมกรรณ ฯ 

๏ ปัญญาวุฒิทั้ง....................ทิโนวาท 
ครูประสิทธิ์ความประสาท......ประสบนั้น 
นำพินิจวิชชากาจ.................เชี่ยวแกร่ง 
แรงปลูกมือครูปั้น................เปลี่ยนให้เป็นผล ๚ะ 

๒๑ มิถุนายน ๒๕๔๗				
13 มิถุนายน 2547 17:41 น.

+++ เขียนโคลงให้ได้ความ +++

วฤก

๏ เขียนความตามแต่ข้อ..........ความเป็น 
ความส่ายหลายประเด็น..........ประดุจเพ้อ 
พากย์สารอ่านลำเค็ญ..............เรื่องขาด 
ราวแค่นคำเพ้อเจ้อ.................เพื่อแจ้งแสดงความ ฯ 

๏ ตามระแบบท่านร่างเค้า.......รูปโครง 
สามสิบคำนำโยง.....................นิยตไว้ 
ผูกโทเอกจรรโลง....................จึงเริ่ม 
เกลาเกลี่ยความตามให้...........แต่งหั้นสรรค์ระบิล ฯ 

๏ ศิลปะประดับสร้าง...............ประดาศิลป์ 
เพียงแค่เชิงประพิณ...............ประภาษพริ้ง 
ประพันธ์ความถูกตามจินต์......ตรงเจต 
คือแก่นควรกร่อนทิ้ง...............ถอดถ้อยพล่อยไฉน ฯ 

๏ ใจความความครบข้อ..........ควรแถลง 
ครบบทโคลงแสดง.................สดับแล้ว 
ถึงควรจะพลิกแพลง...............เพื่อเล่น..........เล่ห์นา 
เลบงนั่นจึงพริ้งแพร้ว............พ่างแก้วภาษา ๚ะ 

๑๓ มิถุนายน ๒๕๔๗				
13 มิถุนายน 2547 01:23 น.

+++ กล้วยไม้ไพร +++

วฤก

๏ สุวรรณวาดฉาบไล้..............รงค์ระบาย		
ผิวผ่องลำยองฉาย..................เฉิดพริ้ง
ช่อสูงสุดเอื้อมหมาย................มือหยิบ.........ยื้อนอ
นวยเล่นในลมทิ้ง...................ทุ่มโย้โยนไกว ฯ

๏ ไม้ไพรใช่ง่ายคว้า...............ครองชม
สงวนศักดิ์สูงนิยม..................เยี่ยงแล้
คนหลงปล่อยใจจม.................เจตต่ำ
นำเปรียบกล้วยไม้แพ้............พ่างแม้ไม่สงวน ๚ะ

๑๓ มิถุนายน ๒๕๔๗				
11 มิถุนายน 2547 21:35 น.

+++ ความฝันวันเก่า+++

วฤก

๏ ความฝันวันเก่าเหลือเค้าร่าง
รอยจางเจียนเหมือนจะเลือนหาย
หวนถึงหนึ่งครั้งตั้งตะกาย
ก่อนวายว่างล้มอุดมการณ์

ความยากบากบั่นมันกั้นกรอบ
จึงชอบแต่ใช่ไร้แก่นสาร
โลกหมุนวุ่นไปใครบันดาล
คิดต้านเต้นสู้หรือกู้กล

ความฝันวันเก่าจึงเปล่าว่าง
เคว้งคว้างคล้ายกับยังสับสน
ชีวิตวุ่นไปในวังวน
เหมือนคนขาดหลักฤๅจักยัง

มีฝันมั่นใฝ่ขอไขว่คว้า
เหนื่อยล้ารึทิ้งสิ่งเคยหวัง
ปลอบตนทนสู้กู้พลัง
กระทั่งถึงสุดจุดปลายทาง ๚ะ

๑๑ มิถุนายน ๒๕๔๗				
11 มิถุนายน 2547 21:35 น.

+++ ราตรีประดับดาว +++

วฤก

๏ แสงเพ็ญโสมผ่องแจ้ง.........กระจ่างนวล
เชิญแม่มาชมสวน.................สู่ใกล้
รวยรินประทิ่นอวล................อายบุป-........ผชาติเนอ
นั้นเปรียบไหนปูนได้.............ดั่งเนื้อนวลถนอม ฯ

๏ หอมราตรีแต่งสร้าง..........ทรงไฉน
รูปบ่ชวนยวนใจ....................จับต้อง
แต่ประทิ่นประเทืองไอ..........ประทับอก
ประเทียบยกจิตงามพ้อง........ประพัทธ์คล้ายปรุงสุคันธ์ ฯ

๏ สนั่นเสียงเสนาะซ้อง.........ศัพท์ผสาน
ซอขับคลอคำขาน.................ข่าวสะท้อน
พาทย์พากย์พ่างพจน์ดาล......ดังอก...........เรียมเอย
เผยศัพท์ซอฉะอ้อน...............ออดเว้าวอนฟัง ฯ

๏ ดังหั้นกระหึ่มห้อง..........มโหรี
ร้องบอกแทนพจี.................พี่แจ้ง
เจรียงเสียงขับราตรี............ประดับ.......ดาวแม่
มาสดับเรียมฤๅแล้ง.............รักได้เพลงเฉลย ๚ะ 

๑๑ มิถุนายน ๒๕๔๗				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวฤก
Lovings  วฤก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวฤก
Lovings  วฤก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวฤก
Lovings  วฤก เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงวฤก