9 เมษายน 2545 21:50 น.
วฤก
๑
๏ ชลใสไหลเอ่อล้น..........................หล่นโปรย
เสียงสะอึกสะอื้นโหย........................ห่มไห้
เจ็บแสบดั่งแส้โบย...........................สะบัดบั่น
บาดลึกสุดรอนได้.............................ดับล้างเลือนหาย ๚
๒
๏ ลูกชายหมายพึ่งครั้ง......................คราวชรา
สิ้นจิตปลิดชีวา.................................วอดแล้ว
แพ้พยาธิฆาตบีฑา...........................โถมถั่ง
ท่วมทับดับแววแก้ว..........................ก่องฟ้าเฟือนสลัว ๚
๓
๏ เพราะมัวกลั้วก่ายข้อง....................คาวกาม
หวังสนุกสุขชั่วยาม............................ยั่วเย้า
โรคภัยไม่ครั่นขาม............................ขลาดเข็ด
พลั้งพลาดภัยร้ายเร้า..........................โรคกลุ้มกุมผลาญ ๚
๔
๏ ปลงปราณปานแม่สิ้น.....................เสียตน
ใจเร่าเผาทุรน.................................ทุระร้อน
ต่อไปไม่มีคน...................................คอยช่วย.........แม่นอ
ไร้เรี่ยวแรงใครช้อน..........................ช่วยยั้งยืนไฉน ๚
๕ - วัวพันหลัก -
๏ ชลใสไหลเอ่อล้น..........................หล่นนอง
นองเนตรที่มัวหมอง........................หม่นไหม้
ไหม้ใจดั่งไฟครอง...........................ครอบร่าง
ร่างสั่นซบเข่าไห้..............................หักสะอื้นสะอึกโหย ๚ ๛
5 เมษายน 2545 20:38 น.
วฤก
๏ กระเพื่อมเพชรเก็จแก้วแพรวประภาส
กระเซ็นสาดสายชลบนทรายใส
กระแสเสียงเพียงจะพร่ำรำพันใด
กระซิบใครเล่าคลื่นสะอื้นครวญ
เพลงพระพายชายพัดสะบัดผัน
เพียงสนั่นเสนอเพลงประเลงหวน
ประสมศัพท์สดับดังคลั่งรัญจวน
เร้าใจป่วนปั่นจิตพาคิดตรอง
ฤๅว่าชลวนกรอกกระฉอกฉาด
กรุ่นเกรี้ยวกราดกระไรใจขุ่นหมอง
คลื่นสาดซัดสะบัดปลายสยายฟอง
ฤๅจะถองถมฝั่งพังทลาย
ดังสาธกอุทกไว้ให้ประจักษ์
สิ่งเดียวมักมองเห็นเป็นหลากหลาย
แล้วแต่จิตจะคิดแยกให้แผกกลาย
แปลงความหมาย ของภาพคลื่น ...... ผืนทะเล ๚ ๛