14 กุมภาพันธ์ 2545 21:07 น.
วฤก
๏ วันไหนนะ...จะคิดใจผิดแผก
นับแต่แรกแต่เริ่มเผดิมหวาน
มิราร้างจางจืดรสชืดชาน
วันผันผ่านผันพ้นยิ่งล้นทรวง
วันไหนนะ...จะสมัครภักดิ์ผู้อื่น
ยังหมายชื่นหมายเชยเผยใจหวง
ยามจากร้างห่างไกลใจเปล่ากลวง
นับวันล่วงวันลาจะมาคืน
วันหวานล้น ... คนคิดประดิษฐ์นัก
วันหวานรัก ... เร้าใจเกินใครฝืน
วันหวานจิต ... คิดหวังอยู่ยั่งยืน
วันหวานชื่น ... ชิดชู้เชยคู่ใจ
วันไหนนะ ... จะปั้นเป็นวันรัก
วันไหนจักไหนแจ้งแถลงไข
วันไหนล่ะจะสรรเสกวันใด
ทุกวันไปวันเปี่ยมเท่าเทียมกัน ๚
11 กุมภาพันธ์ 2545 21:07 น.
วฤก
๏ ใช่เพียงถ้อยร้อยคำทำลิขิต
ใช่เพียงคิดเขียนสารจารเสนอ
ใช่เพียงฝันหวั่นไหวใจละเมอ
ใช่เพียงเพ้อพร่ำความตามอารมณ์
ใช่เพียงรักอักษรเสียงกลอนกล่อม
ใช่เพียงน้อมในนิยามว่างามสม
ใช่เพียงบทพจนาน่านิยม
ใช่เพียงชมชนชื่นก็ตื่นใจ
แต่ด้วยกลอนสะท้อนสารสะท้านจิต
ลงลิขิตลายลักษณ์อักษรไข
สื่อสิ่งคิดพินิจตามความเป็นไป
กระจ่างได้ด้วยพจน์บทพากย์กานท์
จึงไม่ใช่เพียงร้อยถ้อยวิจิตร
จึงไม่ใช่เพียงลิขิตคำขับขาน
จึงไม่ใช่เพียงลักษณ์สลักจาร
แต่เป็นสารสื่อตรงส่งจากใจ ๚
3 กุมภาพันธ์ 2545 12:00 น.
วฤก
โคลงสี่ดั้นวิวิธมาลี
๏ หลงทางกลางเถื่อนร้าง.........ลืมทาง
ลืมที่ลืมทิศลืม........................ถิ่นสิ้น
หวังใจใคร่ถากถาง................ทางกลับ
กำมีดขวานพร้าดิ้น................ดะพง ฯ
๏ ตะวันผันพลบแล้ว..............เลือนแสง
แสงอ่อนรอนแสงลง...............หลบฟ้า
เถื่อนทางช่างกระไรแฝง........เฟือนห่าง
สุดหักถางร้างล้า.....................ลัดไป ฯ
๏ เห็นแนวราบคาบหญ้า.........ยับเยิน
ยาตรด่านพาผ่านไพร............ผ่อนพ้น
ทางใครนะเดินเหิน...............เห็นนี่
ทางที่เขาดั้นด้น......................ดุ่มจร ฯ
๏ ดังถนนคนย่างก้าว.............กว้างไกล
ขรุขระเข็ญขุกตอน.................ก่อนนั้น
จนคนก่นถางไป....................ปรับเปรียบ
จนเรียบร้อยปั้นกั้น...............ก่อถนน ๚
3 กุมภาพันธ์ 2545 11:45 น.
วฤก
๑ ๏ เสกสรรสลักร้อย..................เรียงความ
เสกเรื่องรจน์งดงาม....................เงื่อนไว้
พรหมลิขิตนิยาม.........................นับอย่าง
ฤๅต่างนักเขียนได้......................ประดิษฐ์ถ้อยคำไฉน ฯ
๒ ๏ ฉะนั้นเธอเป็นประหนึ่งผู้......พรหมลิขิต
เขียนฉากของชีวิต......................วาดเส้น
สื่อความแง่ความคิด....................ความสื่อ......สารนา
สารสั่งสอนซ่อนเร้น....................รจน์ไว้ในกถา ฯ
๓ ๏ กระทงความตามเรื่องนั้น....นำชม
ชนอ่านอาจนิยม........................ยกถ้อย
ทำคติที่งามสม...........................สอนสั่ง
สอนดั่งสุภาษิตสร้อย..................สลักไว้วากย์สรรค์ ฯ
๔ ๏ เสกสรรสลักร้อย................เรียงความ
ยวนจิตชวนติดตาม...................ต่อต้อง
ตามสาส์นอ่านทุกยาม................หยุดอ่าน.....อดฤๅ
พรหมลิขิตข่ายคล้อง..................ขีดให้เป็นไฉน ๚