12 กรกฎาคม 2545 01:55 น.
วฤก
๑
๏ กระทาเที่ยวท่องคุ้ย...............................ตีนตะกุยกินอาหาร
เกรงภัยกรากใกล้พาน..............................พล่านบินบนเพื่อพ้นภัย ๚
๏ กระทาเที่ยวท่องคุ้ย...............................ขุยดิน
แสวงภักษ์ผันพักตร์ผิน...............................เพ่งชะเง้อ
เกรงภัยกรากใกล้บิน.................................เบี่ยงหลบ..........ลี้นอ
ภัยผ่านขานคำเพ้อ....................................เพรียกพ้องร้องหา ๚
๒ ช้างประสานงา
๏ วี้หวู่วูวู่วู้.................................................เว้าวอนคู่คูขับขาน
คลอเคล้าเข้าสู่ลาน....................................สานรักเร้าเฝ้าคะนึง ๚
๏ วี้หวู่วูวู่วู้................................................แว่วขาน
วอนคู่ชู้สู่ลาน...........................................ร่วมเคล้า
ร้องคลอขับประสาน..................................เสียงสนั่น
แสนเสนาะเพราะจริงเจ้า..........................จิตเฝ้าใฝ่ถวิล ๚
๓
๏ วี้หวู่ช่วยกู่ร้อง.......................................กู่เรียกน้องนวลนึกหวน
ถึงพี่ที่รัญจวน .........................................ป่วนจิตไข้ครั้งไกลนาง ๚
๏ วี้หวู่ช่วยกู่ร้อง........................................เรียกนวล
เรียกจิตเจ้าคิดหวน...................................ห่วงบ้าง
ถึงพี่ที่รัญจวน ..........................................ใจเจ็บ
จำห่างจิตอ้างว้าง......................................วุ่นไร้ใครถนอม ๚
๔
๏ กระทาเที่ยวท่องไพร.............................กระทบใจให้ถวิล-
ถึงน้องหมองอาจิณ...................................ไป่สิ้นสูญอาดูรแด ๚
๏ กระทาเที่ยวท่องคุ้ย...............................ขุยดิน
กระทบจิตคิดถวิล.....................................วุ่นร้อน
กระทั่งดั่งอาจิณ........................................ใจคิด-
ถึงนุชดุจใครข้อน......................................ขุ่นไข้ไป่สูญ ๚ ๛
========================================================
ขอขอบคุณพี่นกตะวันมากครับ ที่มอบหนังสือ นกไทย ในบันทึกและความทรงจำเล่ม ๑ ให้แก่วฤก
อ่านบทแรก ...นกกระทาดงคอสีแสด แล้วเป็นแรงบันดาลให้เขียนกาพย์ห่อโคลงชุดนี้มาครับผม
3 กรกฎาคม 2545 20:50 น.
วฤก
๙
๏ ขุดก่นคำกล่าวกร้าว...........กักขฬะ
ส่อเสียดเดียดวาทะ...............ถ่อยถ้อย
กรุ่นโกรธกรากปะทะ............โถมถั่ง
ไม่หยั่งนึกสักน้อย..................หนึ่งครั้งควรถนอม ๚
๑๐ - วัวพันหลัก
๏ ไม่ยอมยืดหยุ่นบ้าง...........บางที
ทีท่าจะฆ่าตี.........................แตกร้าว
ร้าวจนป่นธุลี........................ลาญล่ม
ล่มมิตรฤๅคิดน้าว.................มนัสขึ้นคืนไฉน ๚
๑๑
๏ เปลวไฟไอผ่าวร้อน...........รุมราย
หลบซ่อนผ่อนร้อนหาย..........ห่างได้
ร้อนจิตคิดรอนคลาย.............ใครผ่อน...........ร้อนนอ
ร้อนเร่าเผาจิตไหม้................หม่นล้นทุรนผลาญ ๚
๑๒
๏ สมานสัตย์สมัครแม้น........เสมอกัน
เสมือนหนึ่งตรึงโซ่พัน..........ผูกคล้อง
ผูกใจไม่แบ่งปัน...................แปรเปลี่ยน
เป็นหนึ่งน้ำใจป้อง...............ปกร้ายตะกายหมาย ๚ ๛
3 กรกฎาคม 2545 12:16 น.
วฤก
๕
๏ อยากเป็นชายเช่นเชื้อ..........ชาตรี
ชาญเชี่ยวเชิงนารี...................เลิศล้ำ
พบใครใคร่ย่ำยี......................อยากชื่น.........ชมเฮย
ควรเอ่ยเอาเยี่ยงซ้ำ..................สืบแม้นเหมือนไฉน ๚
๖
๏ ด้วยใจต่ำด่ำใต้...................ดานตม
หาเหตุเจตภิรมย์....................รสเคล้า
เอาเยี่ยงเบี่ยงเบนชม................เช่นอย่าง.......ดีนอ
พ่อก่อเจ็บร้าวเศร้า..................สู่ชู้คู่เรือน ๚
๗
๏ มีเพื่อนทำเลื่อนเปื้อน............แปรผัน
พบใหม่ใจผูกพัน....................ผ่าวร้อน
เมียเก่าเล่าร้อนคัน...................ระคายสาก
หลายหลากเหตุผลซ้อน...........ซ่อนย้อนยังหมาย ๚
๘
๏ เยี่ยงชายฤๅนี่เชื้อ..................ชาตรี
แลทุเรศราวเปรตผี..................เผ่าร้าย
ควรสู่อยู่อเวจี..........................จึงเหมาะ
อย่าเพาะพันธุ์เผ่าคล้าย.............ครอบหล้าโกลาหล ๚ ๛
2 กรกฎาคม 2545 20:39 น.
วฤก
๑
๏ ชโลมชลชุ่มล้าง................ลบคาว
ลืมกลิ่นคำฉินฉาว................โฉ่สิ้น
โอษฐ์เอยเอ่ยอ้างราว............เรื่องเล่น...........ฤๅแม่
มากลบตลบตะแลงปลิ้น........เปลี่ยนได้ฤดีหมาย ๚
๒
๏ ยั่วชายยวนชื่นลิ้ม.............ราคะ
ลองเล่นเป็นวาระ.................รื่นชู้
แล้วเวียนเปลี่ยนผันผละ........เพื่อแผก.........รสเฮย
หลงเล่ห์กามลืมกู้.................เกียรติไว้วางตัว ๚
๓ - ครอบจักรวาล
๏ นับผัวนับพลาดถ้วน...........ถี่นับ
ร้อนร่านร้อนราครับ..............ร่านร้อน
ปล่อยกายปล่อยกามจับ.........จิตปล่อย
สมสนุกสมสนานซ้อน............เสพชู้สู่สม ๚
๔
๏ เกลือกตมตมติดเปื้อน.........แปดปน
สะอาดด้วยชโลมชล...............ช่วยล้าง
ราคีที่ระคน...........................คาวขื่น
ใครเล่าขัดล้างขว้าง..............ขูดทิ้งมิเคยเห็น ๚ ๛
1 กรกฎาคม 2545 12:53 น.
วฤก
๏ เสียงเพียงออพ้อคำฉ่ำฉะอ้อน
แทนเรียมวอนว่าน้องอย่างหมองหมาง
กระไรผิดสะกิดเนื้อเบื่อระคาง
ขอจงวางเว้นโกรธลงโทษทัณฑ์
เสียงขลุ่ยหลิบกระซิบกรรณประหวั่นหวาด
เกรงตัดขาดครั้งนี้ที่หุนหัน
ให้เจ็บอกฟกช้ำพร่ำจาบัลย์
เจ้า ฤ บั่นเบือนพี่แต่นี้ไป
เสียงขลุ่ยหวนครวญโหยดังโบยแส้
ทั่วดวงแดเดือดช้ำเกินคำไข
แทบดับดิ้นวิญญาณปลงปราณไป
ตกอยู่ในอเวจีที่ระทม
จึงคร่ำครวญกระสวนเสียงเพียงขลุ่ยผิว
ให้โลดลิ่วจากใจที่ไหม้ขม
เพลงขับขานอ่านคำช้ำระบม
ฝากสายลมล่องฟ้ามาบอกเธอ ๚ ๛