12 เมษายน 2546 18:44 น.
วฤก
๏ เสียงแคนสังคีตสร้อย.....โศกครวญ
ลายสุดสะแนนหวน...........ห่มไห้
สายแนนพี่ฤๅจวน.............เจียนขาด
จึงห่างนางร้างไร้..............ร่วมชู้เชยสม ๚
๏ ระทมระทดท้อ...............ถอนใจ
ที่จักทำไฉน.....................นึกข้อง
นั่งคิดทบทวนไข...............ความโศก
คืนสู่คลอคู่น้อง.................แนบเคล้าเคียงเขนย ๚
๏ ครุ่นคะนึงถึงแต่เจ้า.........จอมขวัญ
จากค่ำถึงเช้าวัน...............หวั่นร้าง
ว่ารักจักแปรผัน................เพลาเสื่อม
เพลงสุดสะแนนอ้าง..........เอ่ยแสร้งแช่งไฉน ๚
๏ เสียงแคนสังคีตสร้อย.....สั่งคำ
เสียงอกพี่ระกำ................กว่านั้น
สุดสะแนนสุดเสียงนำ.......นาทกล่าว
เท่าเศษเสี้ยวพี่อั้น............อกไข้ใจหาย ๚ะ๛
๑๒ เมษายน ๒๕๔๖
12 เมษายน 2546 18:11 น.
วฤก
๏ ฤๅไหมทองกรองทอเป็นช่อชั้น
ฉาบสุวรรณวาดสายลวดลายศิลป์
เป็นช่อช้อยลอยสวรรค์สู่ชั้นดิน
ผจงพินทุประดับให้จับใจ
ดอกคูนเหลือง ณ เมืองแคนขอนแก่นแล้ว
แลเพริศแพร้วเพียงพรรณสุวรรณใส
ประดับเมืองเรืองรองผ่องอำไพ
ราวเสกให้เห็นสรวงบำบวงชม
เพลินเพลงแคนแล่นแต่แตแล่นแต๊
ดังเซ็งแซ่ซ้องเสียงเจรียงขรม
ขานสนุกสุขชื่นวันรื่นรมย์
ประชาคมเขาสนานงานสงกรานต์
วันดอกคูนเสียงแคนทั่วแคว้นครื้น
ฉ่ำน้ำชื่นฉาบสรงลงสถาน
จากริมบึงถึงศรีจันทร์พลันละลาน
ด้วยสายธารเทสนุกสุขฤดี
ฉลองวันตะวันเคลื่อนสู่เดือนเมษ
นับหนึ่งเขตองศาเข้าราศี
เถลิงศกสาธกนามวันข้ามปี
ล้างกลีเกลาจิตพิษฐานจินต์
ด้วยไหมทองกรองทอเป็นช่อชั้น
ฉาบสุวรรณวาดสายลวดลายศิลป์
เขียนชะตาพาชื่นสู่พื้นดิน
ไม่สุดสิ้นสุขสนานตราบกาลกัลป์ ๚ ๛
๑๒ เมษายน ๒๕๔๖
11 เมษายน 2546 09:02 น.
วฤก
๏ น้ำนมแม่หลั่งเลี้ยง..........ลูกชาย
จนใหญ่แข็งแรงกาย...........แกร่งกล้า
เคยถนอมเพราะแม่หมาย....มั่นฝาก....ผีนา
วันดับนอนป่าช้า................ช่วยให้ไฟเผา ๚
๏ น้ำใสสรงกราบไหว้.........วันตรุษ
ขอเดชพรพระพุทธ............แผ่คุ้ม
ปลอดภัยปราศพาลฉุด.......เฉเสื่อม
คุณพระเจ้าจงอุ้ม..............โอบแม้นแม่ถนอม ๚
๏ น้ำจัณฑ์เจ้าดื่มแล้ว.........หลงเมา
ประมาทคะนองเขลา..........ขาดยั้ง
อุบัติภัยอุบาทว์เอา............อาเพศ.....พ้องอา
เหลือระงับพรพระรั้ง..........ไล่พ้นภัยผลาญ ๚
๏ น้ำหอมรดศพล้าง..........โลหิต
มาสุดสิ้นชีวิต...................วอดแล้ว
แม่ถนอมแต่มาปลิด..........ปลงก่อน
นอนดับฤๅลูกแก้ว.............แก่แล้วแม่เหงา ๚ะ๛
๑๑ เมษายน ๒๕๔๖
10 เมษายน 2546 09:00 น.
วฤก
๏ กล้วยไม้ไกวช่อล้อ...........ลมระ
เพียงแผ่วพานปะทะ............ทุ่มสะท้อน
เสมือนทรวงพี่ขณะ..............นึกหวั่น
วันห่างนางจรร้อน................รุ่มเร้าฤทัยไหว ๚
๏ ลมเป่าเขาเล่าเย้า..............ย้ำเตือน
ว่าห่างนางเบือนเหมือน.........แม่ร้าง
สามวันจากเรือนเชือน...........แชเปลี่ยน
เป็นอื่นปานอย่างอ้าง............เอ่ยไว้ให้เฉลียว ๚
๏ นึกฉงนคนเปลี่ยนเพี้ยน......เพียงกาล
ไม่อยู่ยืนนานทาน................เที่ยงแท้
กล้วยไม้แกว่งมาลย์พาน.......เพียงพยุ....พยัชน์นา
ยังผ่านกาลแก้แพ้.................ผุดพ้นกลไฉน ๚
๏ จึงสงวนนวลซ่อนซ้อน......ซอกฤทัย
ประทับอยู่กลางใจใคร..........คร่าพ้น
กล้วยไม้แกว่งไปไย.............แหยงจิต
เพราะคิดวุ่นวนค้น...............คุไหม้ใจหมอง ๚ะ๛
8 เมษายน 2546 11:29 น.
วฤก
๏ นี่นะ ??? ....ศัตรูผู้ร้าย
เอ็งหมายมุ่งมาฆ่าผลาญ
ว่าเหี้ยมเทียมทัดสัตว์มาร
วิตถารทุเรศเจตจินต์
จึงล่าฆ่ากลบลบเชื้อ
ถากเถือทุบได้ใจหิน
ร่างป่นหล่นเกลื่อนเปื้อนดิน
ตายสิ้นสมที่บีฑา
ยกพลปล้นบ้านผลาญเหง้า
ล้อมเอาพวกโจมโถมถา
ถางเสี้ยนเตียนโล่งโปร่งตา
โดยฆ่าล้างโคตรโฉดชัง
ไหนล่ะ???... ศัตรูผู้ร้าย
ที่หมายมาลบกลบฝัง
คิดดูรู้เช่นเห็นยัง
สัตว์คลั่งคือใครให้ตรอง ๚ะ๛