26 พฤศจิกายน 2546 16:32 น.
วฤก
๏ คนบ้าคราบ่นเพ้อ-..........พร่ำความ
ฤๅขุ่นลุเคืองลาม................รุ่มร้อน
ให้คิดเหตุควรถาม-............ถึงก่อน
ใดก่อดลเกิดซ้อน..............ซ่อนไว้ให้ไข ฯ
๏ เหตุไฉนใจขุ่นแค้น.......เคืองเรา
หลงผิดมิจฉาเมา................มุ่งร้าย
รังเกียจเดียดฉันท์เผา.......กระพือโกรธ
เกินเหน็บเก็บพ้นย้าย.......ยอกย้อนสะท้อนผล ฯ
๏ เป็นคนคิดแต่ร้าย..........ลืมพินิจ
เล็งแต่แลตามผิด..............แผ่กว้าง
ใดถูกบ่ปลูกจิต..................ใจชื่น........ชมนอ
ขอติตะแบงอ้าง..................อรรถร้ายป้ายสี ฯ
๏ ฤดีเขาตกใต้...................ตมทับ
สรรเพชญธรรมสดับ..........สะดุดพ้น
แปดหมื่นสี่พันสรรพ..........สาสน์สื่อ
ฤๅตกถึงผู้ด้น.....................ดิ่งใต้ตมถม ฯ
๏ จึงจมจ่อมเจ็บร้อน-..........เร่าฤดี
หวังตะเกียกตะกายหนี.......เน่าเนื้อ
เห็นคนอื่นบัดสี..................บัดซบ
สูงแต่ตนอะเคื้อ.................อะคร้าวความเขลา ๚ะ๛
๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๖
21 พฤศจิกายน 2546 14:29 น.
วฤก
๏ กระหายการหั่นล้าง.............ให้ลาญ
อ้างเดชอุดมการณ์................เด่นกล้า
พลีชีพเผ่าชนผลาญ...............โฉดพร่า.......ชนม์พ่อ
ระบบระบอบบ้า....................ระเบิดบ้านรบาญเผา ฯ
๏ เอาชีพชนอื่นเอื้อ...............อำนาจ
ขุนศึกคอยเสริมศาสน์............ศักดิ์อ้าง
ปรัชญาประชาฆาต...............ใครสั่ง.........สอนฤๅ
เลอเกียรติฦๅก้องกว้าง...........แก่ไท้เธอไฉน ฯ
๏ ใครยินใครย่อมแย้ง............หยันเอา
พลป่าพาศาสน์เฉา................โฉดเพี้ยน
สันติสัตว์แต่งเกลา................กลายต่าง
เป็นอย่างยักเศษเสี้ยน............เสียดหล้าระบมแผล ฯ
๏ แลไปในแผ่นพื้น...............ภูมิตน
บ้านยุ่งเมืองยับชน-..............ชาติร้อน
กระหายกระเหิมรณ..............รบปราบ
เลือดเปรอะเลอะตีนช้อน........เชิดหน้าฤๅผยอง? ๚ะ๛
๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๔๖
19 พฤศจิกายน 2546 09:01 น.
วฤก
๏ มีนมมัวเหน็บเม้ม.............มิดไฉน
เสมือนเก็บแก้วก้นไห..........หับเร้น
สูงค่าแต่สูญใคร...................คอยชื่น.........ชมนา
ฉะนั้นหนั่นเนื้อแน่นเน้น....แน่งน้อยนำเสนอ ฯ
๏ เธอสนองถึงสนุกให้..........กระหายชม
คนก่นด่าทับถม....................ถ่อยถ้อย
เสียสงวนบ่ชวนนิยม............ยกอย่าง
อ้างด่าคราคนคล้อย.............ค่อยแย้มยลโฉม ฯ
๏ โทรมศีลศาสน์ระส่ำแพ้....ภัยมาร......ผลาญฤๅ
หลงห่างพระธรรมสาร..........เสื่อมเชื้อ
ตามสมัยต่างสมัยการณ์........ก็ต่าง........กันแม่
สินสั่งทำนวลเนื้อ.................หน่ายผ้านมเผย ฯ
๏ เชยชมนมเหน็บเม้ม..........มีไฉน
เสนอตอบสนองใคร..............คิดแก้
แค้นเคืองขุ่นกันไย..............ยุโกรธ
ยอศาสน์ยกทรวงแล้.............โลภแพ้ราผล ๚ะ๛
๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๖
19 พฤศจิกายน 2546 08:37 น.
วฤก
๏ กระหายชื่อฦๅเกียรติกระเดียดเกือก
ตะกายเสือกส่งตนให้พ้นขุม
ใช้เล่ห์มนต์กลลวงทั้งปวงกุม
กระโหมทุ่มถึงฝั่งสมตั้งใจ
จะเหยียบล้มข่มใครไม่เคยคิด
ความถูกผิดภาคธรรมจำไฉน
จะขึ้นชั้นดั้นด้นบนหัวใคร
ที่ทำไปปองผลตนต้องการ
วันที่ล้มตรมสะทกสะท้านจิต
วันที่มิตรเมินมิส่งมิเสริมฐาน
วันที่ไร้ใครประคับประคองคลาน
วันที่ผ่านพลาดมิรู้มิเรียนจำ
หวังมีชื่อฦๅชาพะว้าพะวัก
จนเสียหลักล้มมาถลาถลำ
ถลอกถ้วนนวลหมางกระด่างกระดำ
ใครฤทำเธอพังประดังประเด ๚ะ๛
๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๖
17 พฤศจิกายน 2546 09:08 น.
วฤก
๏ แพรทองพานทาบท้อง...............ทุ่งนา
เหลืองอร่ามอุไรทา.......................ทั่วพื้น
รวงงอนอ่อนเรขา.........................ลายขด........เขียนฤๅ
ลายกนกกำเนิดฟื้น.....................ฟ่องฟ้อนชรไฉน ฯ
๏ โชยพระพายพัดผ่านไล้............ประโลมผิว
กระเพื่อมแผ่ผืนข้าวทิว...............ทุ่มสะท้อน
สะทึกเสียงสนั่นกริว-...................กราวโห่
โหมกระหึ่มเพลงข้าวฟ้อน............ฝ่าห้องเวหน ฯ
๏ ชาวนาชำนิร้อง.........................รำเคียว
แขนอ่อนกรปราดเปรียว..............ประเท้า
สอดสร้อย ฯ สอดรวงเรียว............รวบเกี่ยว.....กวัดเอย
ประกายเก็จเม็ดเหงื่อเคล้า...........คละข้าวไขแสง ฯ
๏ แสดงระบำบนทุ่งข้าว.................คือกล
เห็นหุ่นหือเห็นพยนต์...................พยักไว้
ชาวนาเหนื่อยนักทน....................ทุกข์หนัก
ถมเหงื่อเพื่อผลได้........................เด็ดข้าวขายเขา ๚ะ๛
๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๖