5 เมษายน 2547 12:00 น.
วฤก
๏ ดัชนีที่ปิดดูผิดแผก
เพราะแต่แรกเข้าตลาดเคยคาดหวัง
ว่ารากฐานกร้านแกร่งแรงพลัง
ชื่อเสียงดังด้วยทุนค้ำจุนมา
เป็นเชื้อชาติสะอาดใสใจพิสุทธิ์
ถือพระพุทธธรรมะศาสนา
รู้ว่าโลภโกรธหลงคงอัตตา
ก่อปัญหาให้ตนหมองหม่นใจ
เมื่อกระแสทุนนิยมบ่าถมถั่ง
ถอยกำลังแรงต้านแตกซ่านไหล
ลอยตามโลภโกรธหลงดิ่งลงไป
ตกอยู่ในวังวนสับสนจินต์
จึงเล่นแร่แปรทรัพย์เพื่อจับคว้า
ใช้ปัญญาแย่งยื้อถือทรัพย์สิน
ไม่ละเว้นเข่นแม้นของแผ่นดิน
ยังปล้อนปลิ้นปล้นตะแบงว่าแปลงทุน
ฉีกสัญญาท้ารัฐขอขัดแย้ง
แล้วกลับแกล้งว่าเสียหายอ้ายสถุล
สถานใหม่ให้เขียนเปลี่ยนเป็นจุน
มันจ้วงตุนตักขม้ำชาติช้ำพัง
ดัชนีที่ปิดจึงผิดแผก
รู้แต่แรกเข้าตลาดไม่คาดหวัง
ว่าคนโลภก็โลภไซร้ไม่ระวัง
แล้วมานั่งเสียจริตคิดผิดเอง ๚ะ
๑ เมษายน ๒๕๔๗
1 เมษายน 2547 15:37 น.
วฤก
๏ มะเฟืองแฝงกิ่งซ้อน..............เหมือนเจ้าซ่อนซอนซอกหาย
มาพรากจากพี่ชาย...................หมายมุ่งเร้นเว้นค้นฤๅ ฯ
๏ มะเฟืองแฝงกิ่งซ้อน.............ซ่อนหาย
ซอนหลบเรียมฤๅหมาย............มุ่งเร้น
เจ้าพรากจากพี่ชาย.................ชวนเล่น.........ฤๅแม่
ซ่อนแอบเรียมฤๅเว้น...............ว่างค้นวนหา ฯ
๏ ระเกะระกะก้าน....................ก่ายกิ่งผ่านสานซุ้มใบ
บังดอกมะเฟืองไย...................ให้ยากค้นยลพิราม ฯ
๏ ระเกะระกะก้าน....................กุมไฉน
สานกิ่งก่อซุ้มใบ.....................เบี่ยงกั้น
บังดอกมะเฟืองไย..................ยากเหนี่ยว
นำสู่ชูชมหั้น..........................ห่างเอื้อมเห็นโฉม ฯ
๏ มะเฟืองแฝงคบคว้า.............ครองผกามาชมสม
นวลแฝงแหล่งนิคม................เฝ้างมคว้าไป่หาเจอ ฯ
๏ มะเฟืองแฝงคบคว้า.............ครองชม
สูงสุดเอื้อมเรียมสม...............สบแล้ว
นวลแฝงแหล่งนิคม................ไหนใคร่.........รู้นอ
ซานเสาะหานางแก้ว...............กลับคว้างว่างหาย ฯ
๏ เรียมหมายสมัครเฝ้า...........สองสู่เคล้าเข้าครองกัน
คู่ชู้อยู่นิรันดร์.......................วันกัปสิ้นบ่สิ้นซา ๚
๏ เรียมหมายสมัครเฝ้า...........ใฝ่ฝัน
สองสู่สองครองกัน.................เกาะคล้อง
คู่ชู้อยู่นิรันดร์........................เนาร่วม
นานล่มกัลป์บ่ต้อง.................แตกร้าวรานสลาย ๚ะ
๑ เมษายน ๒๕๔๗
1 เมษายน 2547 10:21 น.
วฤก
๏ มหาหงส์เหมือนเหาะห้วง........สู่ห้องสรวงล่วงลอยเหิน
เรียมเล่าเปล่าปีกเดิน................เกินเก็บคืนชื่นเชยชม ฯ
๏ มหาหงส์เหมือนเหาะห้วง........หาวเหิน
หันสู่สรวงล่วงเมิน...................มุ่งหน้า
เรียมเล่าเปล่าปีกเดิน...............ใดอาจ............เอื้อมนอ
น้าวจับฤๅจักคว้า.....................จักเคล้าชมฉม ฯ
๏ เห็นหงส์ทรงศักดิ์แล้............เหลือชะแง้แม่สนอง
เนาอยู่อย่างคู่ครอง................มองไม่สมนิยมฤๅ ฯ
๏ เห็นหงส์ทรงศักดิ์แล้...........แลมอง
แม่ห่างเกินสนอง..................สนิทเนื้อ
เนาอยู่อย่างคู่ครอง...............ควรศักดิ์
ใครสั่งว่าบ่เคื้อ.....................บ่เข้าควรสม ฯ
๏ กาหงส์วงศ์อาจเปื้อน...........เป็นสัตว์เหมือนแม้นแผกพันธุ์
เราสองหากปองกัน................นั้นฤๅต่างวางชั้นวงศ์ ฯ
๏ กาหงส์วงศ์อาจเปื้อน...........ปนกัน
เป็นสัตว์สมมุติพันธุ์...............แผกชั้น
เราสองหากปองกัน...............กุลต่าง
ฤๅต่างตามวงศ์หั้น................หักห้ามรักหาย ฯ
๏ จึงหงส์ทรงพระเจ้า.............พรหมขีดเค้าเงาเส้นเขียน
สองสายก่ายกันเวียน.............วางคู่กันนั้นสองเรา ๚
๏ จึงหงส์ทรงพระเจ้า.............จอมภพ
พรหมขีดเขียนบรรจบ............จ่อเส้น
สองสายสอดสายสบ.............สมสู่
สร้างคู่เราบ่เว้น....................บ่งไว้ว่าสม ๚ะ
๑ เมษายน ๒๕๔๗
1 เมษายน 2547 09:08 น.
วฤก
๏ ขาวนวลชวนพิศเนื้อ...........เนียนนุ่มเหลือเมื่อเฉียดเชย
โฉมพรรณลั่นทมเกย............เผยเพื่อกุมนุ่มเนื้อเทียม ฯ
๏ ขาวนวลชวนพิศเนื้อ..........เนียนเชย
ชมนุ่มเนื้อนวลเผย...............พี่ไล้
โลมพรรณลั่นทมเกย............ทอดกลีบ
เทียบกับเนื้อน้องได้.............ดั่งนั้นฤๅไฉน ฯ
๏ ชวยกลิ่นประทิ่นฟุ้ง...........ฟ่องจรุงลมปรุงฉม
ชวนเชิญพี่เพลินดม..............งมงายสิ้นถวิลปราง ฯ
๏ ชวยกลิ่นประทิ่นฟุ้ง.........ฟ่องลม
ฝากพยุพยัชน์ฉม...............ชื่นเร้า
หมายเชิญพี่เพลินดม..........ดูดดื่ม
ดลสร่างฤๅปรางเจ้า............จิตพลั้งพาหลง ฯ
๏ ลั่นทมฤๅเท่าน้อง............เรียมไล้ต้องประคองนวล
ประทิ่นกลิ่นรัญจวน............ชวนพี่เคล้าฤๅเท่าเธอ ฯ
๏ ลั่นทมฤๅเท่าเนื้อ.............เทียมนวล
เนียนนิ่มฤๅนิ่มยวน.............อย่างน้อง
ประทิ่นกลิ่นรัญจวน............ฤๅจิต
ชวนพิศพาเคล้าต้อง...........ต่างน้องครองถนอม ฯ
๏ ระทมเรียมทุกข์ไข้..........ร้าวฤทัยไห้โหยหา
คราวร้างห่างขวัญตา............ลาลั่นทมซมซานเดิน ๚
๏ ระทมเรียมทุกข์ไข้.........ครวญหา
ร้าวอกสะทกครา..............คลาดพ้น
เรียมร้างห่างขวัญตา..........ตนเปลี่ยว
ตรมเปล่าคราวดั้นด้น.........ดึกเศร้าซานเหงา ๚ะ
๓๑ มีนาคม ๒๕๔๗
30 มีนาคม 2547 11:54 น.
วฤก
๏ เพียงพะภัยพรั่นแผ้ว-..........พานตน
อุระรุ่มร้อนทุรน.....................ทุระร้าย
ผองผีป่าฤๅดล.........................ดาลปลอด
โดยเป่าเบายักย้าย....................หยุดยั้งยาไฉน ฯ
๏ ใจทุกข์สร่างทุกข์ด้วย..........ดูนัย
เห็นเหตุสมุทัย........................ที่แท้
ทำนิโรธนิรามัย.......................มั่นสมัคร
มรรคสมัตเสมอแก้..................ประกอบพร้อมประการผล ฯ
๏ คนจึงพึ่งจิตรู้.......................รสธรรม
โดยประพฤติประโพธนำ...........มนัสน้อม
มโนตรองส่องการณ์จำ..............กำจัด
กลจับจิตหมองพร้อม................ผ่อนแก้แผ่กัน ฯ
๏ นั้นไฉนไทยพุทธข้าง.............ข้าพระ
คือพุทธมามกะ..........................ก่อนกี้
ขอผีป่าพาหะ............................พาห่าง..........ภัยเฮย
เพี้ยนเหตุพ้นธรรมชี้..................ช่วยพ้นทุกข์เผา ๚ะ
๒๙ มีนาคม ๒๕๔๗