15 เมษายน 2547 10:11 น.
วฤก
๏ ฟ้าครวญคำพร่ำฟ้อง..............ฟูมฟาย
ฟกอกฟ้าสลาย...........................สลดไห้
กระโหยชลกระโหมสาย.............สรงแผ่น.........ภพเนอ
ไผกระหน่ำทำฟ้าไข้...................ขุกร้องฟ้องขาน ฯ
๏ รานอุระรึสะอื้น......................สะอึกเสียง
โศกกระหึ่มได้เสดียง.................สะดุดสะดุ้ง
สดับคำคร่ำครวญเพียง..............พี่คร่ำ-............ครวญนอ
คราถูกศรร้างกระทุ้ง..................กระแทกห้องหทัยหาย ฯ
๏ วายสวาทเรียมคลาดน้อง........ขาดนาง
เสมือนหนึ่งเจ้าเมินหมาง...........หมดเชื้อ
สิ้นแล้วสร่างรักจาง...................จริงฤ..............ฤๅแม่
ลืมอุ่นฤๅเล่าเนื้อ..........................แนบเคล้าเคียงเขนย ฯ
๏ เลยครวญคำพร่ำฟ้อง............ฟูมฟาย
ฟกอกเรียมสลาย.......................สลดช้ำ
กระโหยชลกระโหมสาย............สรงอก...........พี่อา
อุระหักทำท่วมน้ำ-....................เนตรท้นกมลเหงา ๚ะ
๑๔ เมษายน ๒๕๔๗
13 เมษายน 2547 16:17 น.
วฤก
๏ ดอกรักดูชอกช้ำ...................ฤๅเจ้างำคำควรไข
เรื่องราวข่าวความนัย..............ใครเปลี่ยนแปลงจงแจ้งความ ฯ
๏ ดอกรักดูชอกช้ำ...................ฉุกใจ
เจ้าเก็บงำความนัย...................แน่แล้ว
เรื่องราวข่าวคราวไข..............ใครเปลี่ยน
ควรบอกดอกรักแจ้ว................จุ่งแจ้งแจงเฉลย ฯ
๏ เคยชมโฉมเฟื่องช้อย...........ช่อรักร้อยแรรงค์ขาว
ดอกรักบ่งรักราว.....................สกาวพรรณฉะนั้นใจ ฯ
๏ เคยชมโฉมเฟื่องช้อย...........ช่อขาว
ความรักสีสกาว.......................ก่องเนื้อ
ดอกรักบ่งรักราว.....................รงค์นั่น
พรรณรักเราอะเคื้อ.................โอ่คล้ายผกา ฯ
๏ คราเห็นดอกรักคล้ำ.............เรียมครั่นช้ำทำขวัญหาย
เกรงรักเราจักกลาย..................คล้ายดอกไม้ให้พะวง ฯ
๏ คราเห็นดอกรักช้ำ...............ชวนฉงาย
เรียมครั่นขวัญอาจหาย............อกไห้
โอ้รักจักกลับกลาย....................กลอย่าง..........รักนอ
เหมือนดั่งดำดอกไม้................หม่นนั้นหวั่นพะวง ฯ
๏ จงไขให้ข่าวแจ้ง................ใดจำแลงสำแดงเห็น
ยอดชู้ยังอยู่เป็น......................เช่นเก่าก่อนตอนจากฤๅ ๚
๏ จงไขให้ข่าวแจ้ง...............จริงเห็น
แจงเหตุจับประเด็น...............ประดาปนั้น
ยอดชู้อยู่ยังเป็น.....................ไปอย่าง..........เดิมฤๅ
หรือเปลี่ยนแปลงแต่ครั้น........คลาดร้างห่างสมร ๚ะ
๑๒ เมษายน ๒๕๔๗
13 เมษายน 2547 09:57 น.
วฤก
๏ เขียนโลกเขียนเล่ห์ข้า.............เขียนเอง
ขายข่าวขายคาวเยง..................ย่ำเย้ย
พากย์ขาวพากย์ดำเพลง.............พากย์สื่อ
เพื่อทรัพย์เพื่อสินเฮ้ย!................เหตุรู้ดูเห็น ฯ
๏ เป็นนกในไร่อ้าง....................โอ่ตน
อยู่ไร่ส้มทุรน............................ทุเรศร้อน
กระจิบกระจอกจน.....................กระโจนหล่ม
กระเจิงป่นตูจับต้อน...................ตบซ้ายตีขวา ฯ
๏ ฮะฮ้า! ข้าสั่งได้.....................ใดหมาย
สีสดสาดระบาย........................ระบุย้อม
แต้มตมแต่งตามกาย..................แกล้งเสก
เงินสั่งดังใดพร้อม....................พากย์ให้เห็นผล ฯ
๏ กลโลกกลเล่ห์ข้า....................เขียนไป
ขายข่าวขายคาวใน...................เน่าเนื้อ
พากย์ขาวพากย์ดำใคร..............ควรเชื่อ
คือศักดิ์คือศรีเอื้อ......................แอบเนื้อเน่าแฝง ๚ะ
๑๒ เมษายน ๒๕๔๗
7 เมษายน 2547 11:29 น.
วฤก
๏ ขวัญเอยขวัญแอบข้าง..............เขาดง
ขวัญสู่คืนสิงองค์.........................อุ่นเนื้อ
ขวัญเอ๋ยอย่าเลยหลง...................เล่นป่า
ขวัญอย่าลืมร่างเกื้อ....................กลับเข้าครองขวัญ ฯ
๏ รำพันพราหมณ์พร่ำร้อง..........เรียกเชิญ
ขวัญช่างเฉยเมยเมิน................หมิ่นถ้อย
ทำหันห่างหายเหิน....................ให้จาก.........จริงอา
อะไรหลอกลวงขวัญข้อย............ขับพ้นตนหาย ฯ
๏ เพียงกายพี่จากเจ้า................จำจร
เพียงจิตพี่อาวรณ์......................วุ่นว้า
เพียงขวัญพี่ขาดสมร.................สมานสู่
เพียงห่างพี่ไห้ล้า.......................รวดร้าวแรมขวัญ ฯ
๏ เชิญขวัญขวัญแอบข้าง...........เขาดง.........ใดแม่
ขวัญจากพรากอนงค์..................นั่นแล้ว
หมอขวัญเรียกขวัญทรง.............สิงสู่...........สกนธ์ฤๅ
เสมือนเสื่อมมนต์แม้นแก้ว........ไม่เกื้อกมลสนอง ๚ะ
๖ เมษายน ๒๕๔๗
6 เมษายน 2547 09:59 น.
วฤก
๏ กล่อมเกลี้ยงกรำเหงื่อเฝ้า.....ฟูมฟัก
เจ้าเติบโตด้วยรัก....................ลูกข้า
ขุนคนนั่นงานหนัก.................ไหนเกี่ยง
ขอแต่เอ็งเติบกล้า...................แตกก้านสานพงศ์ ฯ
๏ ปลงเหงื่อปานห่มฟ้า..........ห่าฝน
กายเจ็บก็จำทน......................ทุกข์ไว้
หวังวันว่าเติบตน...................ตัวลูก............ตูเฮย
เสวยสุขเขษมได้....................ดื่มห้วงสรวงสถาน ฯ
๏ เอ็งสนานสนุกท้า-..............ทายมฤต-.......ยูเวย
ประมาทตนประพฤติ.............พลาดพลั้ง
เขาห้ามกลับโหมฮึด...............เหิมขี่............รถพ่อ
เมาไม่ขับยับยั้ง.....................หยุดยั้งตรองไฉน ฯ
๏ ภัยคะนองเมื่อเข่นมล้าง......มลายหมาย
เจ้าเจ็บพิการกาย....................กลัดกลุ้ม
ข้าหรือจะฟูมฟาย.................ฟกอก
อ้างเหนื่อยอ้างหน่ายอุ้ม.........โอบเลี้ยงลูกถนอม ๚ะ
๖ เมษายน ๒๕๔๗