26 ตุลาคม 2550 17:02 น.
วรรณวราภรณ์_เมย์
ยังจะกลับมาหาฉันอีกหรือ
เมื่อเธอคือคนทอดทิ้งตัวฉัน
ก่อนเธอไม่เคยเห็นความสำคัญ
โยนทิ้งมันด้วยมือของเธอเอง
แต่ก่อนนี้เบื่อกันฉันจำได้
ควงใครๆเอามาให้ฉันเห็น
เธอคงคิดว่าฉันนั้นใจเย็น
คงโกรธเธอไม่เป็น...เช่นศิลา
ก็เธอเล่นย่ำเหยียบใจแบบนี้
เปรียบวารีกัดเซาะก้อนหินผา
บ่อยๆเข้าหินก็กร่อนตามเวลา
ทนไม่ไหวจึงเลิกเราไม่หวนคืน
แล้วเธอกลับมาหาฉันซ้ำอีก
โปรดจงหลีกทางเถิดมิอยากฝืน
ทำใจแล้วได้โปรดอย่ามายืน
ทำสะอื้นเรียกน้ำตามารยาชาย
ฉันจะบอกกับตัวเธออีกสักครั้ง
ตัวฉันยังคิดถึงเธออยู่ไม่หาย
แต่วันนี้..ฉันไร้เธอเคียงข้างกาย
ก็สบายกว่าที่มีคนข้างเคียง
อยู่คนเดียวสบายใจไว้ก่อน
ถึงยามนอนก็หลับดีไม่มีเสียง
คนข้างกายก็ไม่มีอยู่บนเตียง
จะนอนเอียง-ดิ้นซ้ายขวาไร้กังวล
ฉันจะมองตาเธออีกสักครั้ง
อยากจะบอกเธอให้ฟังอีกสักหน
รักมิใช่การแสดงมายากล
จงไปหาคนที่สมควรคู่เธอ
ฉันคงดีเกินไปอย่างเธอว่า
แต่ฉันยังมองหาอยู๋เสมอ
คนที่"สูง"เหมาะกับฉันมากกว่าเธอ
ถ้าฉันเจอจะบอกเธอให้แหงนมอง
22 ตุลาคม 2550 13:05 น.
วรรณวราภรณ์_เมย์
เธอจะมาสงสารฉันทำไม
เมื่ออยากไปก็ไปอย่าห่วงหา
ไม่อยากได้แค่เพื่อนกลับคืนมา
จงอย่าเสียเวลากับฉันเลย
ความผูกพันของฉันเรียกว่า รัก
ยากจะหักห้ามใจให้นิ่งเฉย
เมื่อสุดท้ายเธอไม่คิดเหมือนฉันเลย
เหมือนแรกเริ่มเธอไม่เคยรักฉันจริง
ในเมื่อเธอไม่มีฉันในใจแล้ว
ไร้ซึ่งแนวแก้ไขในอกหญิง
อยากจะไปก็ไปอย่าประวิง
จงอย่าทิ้งความหวังที่เลือนลาง
อยากให้เธอทุ่มเทใจหมดให้เขา
อย่าให้เรื่องของเราคอยบาดหมาง
ให้สัมพันธ์ของเราเปรียบควันจาง
ลอยเคว้งคว้างแล้วหายไปไม่ย้อนคืน
ไม่อยากให้เธอเรียกฉันว่า มิตร
ดั่งผูกจิตเจ็บช้ำไม่อาจฝืน
เป็นเพียงเพื่อนติดเตือนใจให้กล้ำกลืน
ฉันจะขืนข่มใจให้ลืมเธอ
เมื่อเธอเดินไปแล้วอย่าหันกลับ
ฉันแอบคอยนับถอยหลังอยู่เสมอ
จนบัดนี้หมดเวลาของฉัน-เธอ
หมดเวลาพูดเพ้อเจ้อว่ารักกัน
ไม่อยากได้ยินแค่ความสงสาร
มันร้าวรานเกินในใจฉัน
อย่าบอกเลยว่าเป็นได้แค่เพื่อนกัน
แล้วก่อนหน้านั้นมันคืออะไร
บอกรักฉันคนเดียวไม่ขอเปลี่ยน
จะขอเขียนคำรักไว้หน่อยได้ไหม
จะขอมีเธอกับฉันตลอดไป
จะขอรักจนวันตาย-จนสิ้นลม
จนบัดนี้ลมรักเธอหมดสิ้นแล้ว
ก็ไม่แคล้วรอยรักเธอสร้างรักขม
ปล่อยให้ฉันช้ำใจให้อกตรม
รักระทมปวดร้าวใจไม่อาจลืม
22 ตุลาคม 2550 12:44 น.
วรรณวราภรณ์_เมย์
ฉันเฝ้ามองออกไปที่หน้าต่าง
คืนเดือนร้างแลไปช่างใจหาย
มีหมู่ดาวไร้เดือนเคียงข้างกาย
ยามราตรีนี้คล้ายดั่งใจเรา
อันหัวใจที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
ไร้ซึ่งแสงเคลือบแคลงด้วยความเขลา
เปรียบดาราดวงน้อยคอยเอื้อมเอา
หยิบยืมแสงจากแขเขาเอามายล
ความใฝ่ฝันของดาราดวงน้อยนี้
ฝันอยากมีดวงไฟไว้ส่องผล
เป็นดาวฤกษ์ดวงสำคัญ ณ กมล
อยากส่องแสงและคอยดลบนโลกา
ดลบันดาลให้โลกสงบสุข
ไร้ซึ่งทุกข์ไร้กิเลสสิเนหา
ไร้ซึ่งพวกหมานุษย์-สันดานกา
ที่คอยมาบรรเลง เพลงโลกีย์
เป็นแค่ฝันของดวงดาวดวงน้อยนี้
ไม่อาจมีความฝันอันหรูหรา
แค่อยากเห็นชาติไทยพัฒนา
ไม่อยากเห็นพี่น้องมาทะเลาะกัน
แหล่งรวมใจนั้นหรือก็คือ พ่อ
จงช่วยก่อความจริงใจ-สมานฉันท์
อันพุทธ-คริสต์-อิสลาม จงช่วยกัน
ช่วยทอฝัน สรรค์สร้างคุณความดี
เป็นของขวัญมอบให้กับคุณพ่อ
พ่อเฝ้ารอเราทั้งผองปรองดองสรรค์
สร้างความดี-มีความรู้ควบคู่กัน
ประเทศไทยในฝันจะเกิดมา
แหงนขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้งหนึ่ง
แล้วมองถึงดาวดวงน้อยบนฟากฟ้า
แล้วก็ปิดหน้าต่าง-ปิดดวงตา
ค่ำคืนนี้ขอนิราเพื่อสร้างแรง
18 ตุลาคม 2550 10:45 น.
วรรณวราภรณ์_เมย์
ทุกครั้งที่ฉันตื่นขึ้นมา
แล้วพบว่าไม่มีเธอในวันใหม่
ฉันรู้สึกปวดร้าวขึ้นในใจ
เธอจากไปแล้วใยไม่เคยลืม
เรื่องราวของฉันกับเธอนี้
ก่อนแสนดียังนึกถึง ยังซึ้ง ปลื้ม
กลับกลายเป็นปวดร้าวใจไม่อาจลืม
ดั่งหยิบยืมความสุขมาแล้วลาไป
แถมยังดั่งฟากฟ้านั้นกลั่นแกล้ง
เธอไม่เคยเล่าแจ้งแถลงไข
ว่าเธอนั้นตีจากฉันไปทำไม?
SMS ขอคืนใจให้ฉันพอ
ถึงเรื่องราวจะผ่านแสนนานแล้ว
แต่อกแก้วยังปวดใจเหลือเกินหนอ
ขอเหตุผลสักคำ . . ก็เกินพอ
ช่วยถักทอความสงสัยให้เติมเต็ม
หากเหตุผลของเธอเปรียบดังด้าย
ก็คล้ายๆความสงสัยนั้นคือเข็ม
โปรดนำมาร้อยถักให้อิ่มเอม
ให้เหตุผลมันเติมเต็มที่ดวงใจ
ขอบอกเลิกส่งมาทาง SMS
พิมพ์ Messege เป็นเพลงบรรเลงไฉน
บอกอยากอยู่คนเดียว ไปให้ไกล
ยังปิดท้ายว่า . . ผู้ชายที่รักเธอ
ยังสงสัยว่าทั้งใจเธอยังรัก
เธอต้องผลักใจฉันไปด้วยเหรอ?
ลงก้นเหว ลึกลงไร้หนทางเจอ
คิดเสมอ ฉันให้เธอหมดหัวใจ
แล้วตัวเธอก็เอาใจฉันไปทิ้ง
หมดสิ้นแล้วดวงใจจริงที่สดใส
สู่ก้นเหว ไร้ทางดำเนินไป
ตราบจนชีวาสุดท้าย . .ยังรักเธอ