30 กันยายน 2552 13:03 น.
วชรกานท์
อันผู้หญิงต้องมีมารยา
ติดตัวมาสวรรค์นั้นมอบให้
จงเลือกสรรมาใช้ตามชอบใจ
อรทัยมีมากมายอยู่ในตัว
หนึ่งวิชาบีบน้ำตาหล่นซิกซิก
ชวนปิกนิคหากมิไปกับทูลหัว
สองยกยอ ปอปั้น ไม่หวั่นกลัว
สามแต่งตัวให้เห็นเน้นกายา
สี่ของฝากจากใจให้วันเกิด
แสนประเสริฐประทับใจในวงศา
ห้ายกน้ำยามเขาเยี่ยมกานดา
หกนัดพาดูหนังนั่งชมวิว
เจ็ดเผด็จพวกก้างมาขวางกั้น
อยู่แค่สองครองกันนั้นสยิว
แปดอย่าเคืองเรื่องราวข่าวปล่อยปลิว
จงจัดคิวเร่งสรรงานวิวาห์
เก้าแต่งแล้วจงเอาให้อยู่หมัด
กลับบ้านช้าจงสกัดอย่างแกร่งกล้า
สิบเช็ดตัวหวีเกล้ายามเมามา
เอาแป้งทาหาผ้าห่มให้อุ่นไอ
สิบเอ็ดกลเม็ดคมชัดลึก
หากรู้สึกสามีริมีใหม่
ฉีดน้ำหอมสวมชุดนอนบางสไบ
นั่งชิดใกล้ส่งเสียงกระซี้กระซิก
สิบสองระวังระไวเอาไม่อยู่
ริเจ้าชู้ตาวาวทำตุกติก
ระแวงระวังอย่าให้ไปมีกิ๊ก
ใช้เทคนิคกันชนคนไว้ใจ
28 กันยายน 2552 14:40 น.
วชรกานท์
นอนหงายลืมตามองหน้าแม่
ตั้งแต่แบเบาะหัวเราะร่า
นางลูบไล้ประแป้งไข่แมงดา
ดึงตัวมากอดรัดถนัดมือ
นอนหงายลืมตามองหน้าเมีย
ใจละเหี่ยง่วงเหงาเอาดื้อดื้อ
เธอแหวกผมก้มหน้าทำตาปรือ
ในมือถือผมขาวที่เจ้าดึง
นอนหงายลืมตามองหน้าลูก
ความพันผูกภายในใจสุดซึ้ง
กาลเวลาผ่านไปไม่คำนึง
ฝ่าฟันถึงความสำเร็จเช็ดน้ำตา
นอนหงายปิดตามีฝาโลง
ในห้องโถงศาลาวัดจัดหรูหรา
ทั้งดอกไม้ไฟประดับนับคณา
แขกเหรื่อมามิได้เห็นว่าเป็นใคร
อันเกิดแก่เจ็บตายมีให้เห็น
จะรวยจนยากเข็นก็เป็นได้
ความทุกข์สุขนี้อยู่ที่ใจ
สุขใดจักเป็นเช่นนี้เอย
21 กันยายน 2552 16:05 น.
วชรกานท์
นัดพบญาติวันสาร์ทเดือนสิบ
ไม่ลืมหยิบ"พอง" "ลา" และอาหาร
ออกเดินทางอย่างสนุกสุขสำราญ
พาพ่อแม่ลูกหลานไปงานวัด
นำขนมผลไม้ไปใส่"หมรับ"
ยกสำรับกับข้าวตามถนัด
"ตั้งเปรต"ปลดปล่อยสิ่งเคืองคัด
ที่ผูกมัดจิตใจให้ปลดปลง
ทำจาคะทานังบังสุกุล
ส่งผลบุญให้ญาติตามประสงค์
อุทิศให้บรรพชนในเผ่าพงศ์
ผู้วายชนม์ได้พบองค์พระสัมมา
หากญาติผู้ใดได้เป็นเปรต
นิมนต์พระแก้เภทด้วยคาถา
เปิดปากรับส่วนบุญด้วยบุญญา
สมมติพองคือเงินตรานำไปใช้
ขนมลาสมมติว่าเป็นผ้าห่ม
ทุกข์ระทมหนาวเหน็บพาเจ็บไข้
มารับเอาส่วนบุญเป็นทุนไป
เปรตจักได้อานิสงค์จำนงค์ทำ
อันเปรต ปราชญ์ถือคือความอยาก
คิดละโมบโลภมากไม่อิ่มหนำ
มีชีวิตไม่คิดเรื่องเวรกรรม
บุญไม่ทำได้แต่รับเอากลับเรือน
ปุคลาธิษฐานมือบานใหญ่
องคชาติเท่าไหหาใดเหมือน
สูงชะลูดดุจต้นตาลจิตฟั่นเฟือน
เปรียบเสมือนผีห่าที่ราโรย
ปากเท่าเข็มเล็มและแทะอาหาร
ทรมานกินไม่ได้ให้หิวโหย
ร้องครวญครางขอส่วนบุญเสียงโอดโอย
กลิ่นเหม็นโชยร่างเปลือยเปล่าเฝ้ารับทาน
อุทาหรณ์สอนใจให้ได้คิด
วิปริตสังคมไทยไร้แก่นสาร
ลืมรากเหง้าไม่เข้าวัดดัดสันดาน
ยกเหตุการณ์วันสาร์ทมาวาดกลอน
18 กันยายน 2552 12:42 น.
วชรกานท์
ระเบิดเวลาใกล้ประทุ
ด้วยความมุทะลุและตัณหา
แกนนำกระหน่ำมุ่งนำพา
ปวงประชาเข้าต่อต้านเผด็จการ
สิบเก้ากันยาเวียนมาถึง
อีกครั้งหนึ่งสามปีก่อรัฐประหาร
กลุ่มเสื้อเหลืองต่อต้านรัฐบาล
ไล่ทักษิณพ้นผ่านการเมืองไทย
มาวันนี้เสื้อแดงทำแผลงฤทธิ์
หมายพิชิตบ้านสี่เสาให้ตักษัย
อ้างต้นเหตุอำมาตยาธิปไตย
บงการให้ทหารปฏิวัติ
ส่วนเสื้อเหลืองเรืองฤทธิ์อิทธิเดช
นัดชุมนุมนอกเขตไม่มาขัด
ทวงปราสาทพระวิหารไปตามนัด
เป้าหมายชัดยันยืนคืนที่ดิน
ส่วนนายกหลีกลี้เพื่อหนีหน้า
ไปปราศรัยอเมริกาดังถวิล
ให้เทพเทือกรักษางานการแผ่นดิน
สมใจจินต์สั่งการงานทั่วทิศ
ประกาศห้าวันภาวะฉุกเฉิน
ราชดำเนินรวมทั้งเขตดุสิต
เพื่อป้องกันเสื้อแดงมาแผลงฤทธิ์
หมายพิชิตดังเดือนเมษายน
17 กันยายน 2552 11:37 น.
วชรกานท์
มีอะไรที่ให้ปลื้ม
จำแล้วลืมปลื้มใจมลายสิ้น
มีสิ่งใหม่เข้ามาในชีวิน
สมถวิล เศร้าใจ ในมุมมอง
มีอะไรให้ใจชื่น
เรื่องมะรืนเจืองจางจากสมอง
มีเรื่องใหม่เข้ามากมายก่ายกอง
งานฉลองเลี้ยงส่งรับไม่นับวัน
มีอะไรที่ใจรัก
งานหลักหมั่นคิดหมั่นสร้างสรรค์
งานรองสนองตอบเป็นสำคัญ
งานนโยบายไม่อั้นหมั่นทำไป
มีอะไรที่ใฝ่ฝัน
นั่งนับวันเลยผ่านดุจธารไหล
ความสุขความทุกข์อยู่ที่ใจ
สุดยอดสุขภายในคือความว่าง