13 กรกฎาคม 2551 20:07 น.
วชรกานท์
ให้ร้อนรุ่มกลุ้มใจดุจไฟเผา
ในใจเราร้อนรนสุดทนไหว
ด้วยดื้อด้านดันรักปักฤทัย
คนบ้านไกลกลั่นแกล้งให้แคลงคลอน
โปรยคำหวานหว่านคำทำเป็นรัก
จนลงหลักปักใจยากถ่ายถอน
ทุกค่ำเช้าเฝ้าคิดถึงซึ่งบังอร
แม้ยามนอนกระส่ายกระสับไม่หลับตา
จินตภาพลอยล่องให้มองเห็น
ดุจเดือนเพ็ญลอยคว้างกลางเวหา
นึกหน้านวลแนบสนิทก่อนนิทรา
ยามหลับตามองเห็นเป็นรางเลือน
ยิ้งแก่กาลนานวันยิ่งหวั่นไหว
อักษรรักปักทรวงในทุกข์ใดเหมือน
ยามเย็นเย็นอยู่เหย้านั่งเฝ้าเรือน
ไร้เงาเพื่อนเคียงข้างเพราะห่างไกล
13 กรกฎาคม 2551 09:36 น.
วชรกานท์
คนยืนอยู่อย่างองอาจด้วยคาดหวัง
เป็นพลังเลอค่ามหาศาล
แต่ละคนต่างระดับต่างดวงมาลย์
ย่อมพบพานตามถวิลจินตนา
พอจะแบ่งแยกได้สามระดับ
หนึ่ง...รอรับคำสั่งไม่กังขา
รางวัลตอบแทนให้สบายอุรา
ยอมก้มหน้าทำงานการตามนาย
สอง...ขอมีส่วนร่วมทุกขั้นตอน
ในองค์กรร่วมรับรู้สื่อขยาย
กิจการงานทำเป็นเครือข่าย
เพื่อนคือนายช่องว่างเว้นเน้นผลงาน
สาม...ตั้งใจให้เห็นเป็นเจ้าของ
เฝ้าประคองประคับช่วยขับขาน
ทุกสิ่งทำทุ่มเทเพื่อองค์การ
ดลบันดาลงานเด่นเป็นสำคัญ
ดังที่ว่าขั้นที่หนึ่งพึงจัดให้
รางวัลได้ตามชอบช่วยจัดสรร
ขั้นที่สองจ้องชมทุกวี่วัน
ขั้นสามนั้นรางวัลให้ใจตนเอง
12 กรกฎาคม 2551 08:54 น.
วชรกานท์
อย่าระกำกับคำคนร่ำว่า
คนอิจฉาดีกว่าคนสงสาร
หากตั้งมั่นขยันหมั่นทำงาน
คงพบพานความสำเร็จในเจ็ดวัน
วันเสาร์เฝ้าพักผ่อนนอนงีบหลับ
ตามตำหรับอยู่เหย้าเฝ้าสุขสันติ์
ซักอบรีดเสื้อผ้าพัลวัน
ชมแจ่มจันทร์หยอกเย้าเฝ้าพนอ
วันอาทิตย์คิดทางแนวสร้างสรรค์
พักอีกวันอ่านหนังสือสุขจริงหนอ
ละโลมลูบหยอกเย้าเฝ้าเคลียคลอ
ลูกแม่พ่ออยู่เหย้าเฝ้าเรือนชาน
วันจันทร์นั้นสวมใส่เสื้อเหลือง
อร่ามเรืองรุ่งโรจน์ตามโจษขาน
สีมหามงคลดลบันดาล
ราชการในองค์พระทรงชัย
วันอังคารชมพูต่างชูเชิด
สีประเสริฐกราดเกลื่อนตามเลื่อนไข
ใช่แค่เสื้องานงามได้ตามใจ
ตามวิสัยทัศนพันธการ
วันพุธพฤหัสบดีศุกร์
งานสนุกอำนวยช่วยประสาน
ทำตามขั้นแต่ละตอนอย่างชำนาญ
กิจการงานไม่ค้างวางเป็นกอง
ความสามารถปราศเปรื่องเป็นเรื่องแรก
ถ่อมน้ำใจไม่แตกแยกเป็นสอง
กระจายงานการส่วนร่วมรู้ประคอง
ตอบสนองแนวทางการกว้างไกล
ความรับผิดชอบตอบได้ด้วยปฏิบัติ
ยั้งยืนหยัดถนัดเห็นเป็นนิสัย
สังคมเห็นแนวดำเนินเหนือเกินใคร
สุขฤทัยได้ใจคนดลบันดาล
10 กรกฎาคม 2551 07:07 น.
วชรกานท์
ธาราใสไหลลงสู่สมุทร
ไม่นิ่งหยุดเอื่อยเลี้ยวบ้างเชี่ยวไหล
จากพนาผ่านทุ่งสู่กรุงไกร
สาครใสให้คุณหนุนชาวนา
นทีช่วยให้ทรัพย์สินธุ์ดินชุ่มชื่น
มัจฉารื่นชีววัฏเวียนวงศา
อาศัยในสาครต่างพึ่งพา
นานนมมาวารีมีอารยธรรม
จากธารเล็กรวบรวมร่วมเดินสาย
จากแควกลายกว้างเห็นเป็นแม่น้ำ
นาวาล่องเล็งเห็นเป็นลำลำ
สัญจรทำการค้าคมนาคม
กั้นเก็บกักเขื่อนใหญ่ให้ไฟฟ้า
ชลประทานสู่ชาวนาได้สุขสม
ผลิตข้าวเพิ่มขึ้นมาน่าดูชม
ความอุดมสมบูรณ์พูนทวี
อารยธรรมสายน้ำตามเรื่องเล่า
ตะเภาสาวแก้วทองทั้งสองศรี
ลงเล่นน้ำอาบว่ายในวารี
เกิดคดีพิฆาตฆ่าชาละวัน
อีกตำนานเท้าศรีจุฬาลักษณ์
ลงจำหลักบันทึกไว้เป็นกลอนฉันท์
ลอยกระทงเสี่ยงทายเคียงคู่กัน
เมื่อถึงวันจันทร์เพ็ญเดือนสิบสองฯฯ
6 กรกฎาคม 2551 16:37 น.
วชรกานท์
ความรู้นั้นเรียนทันเท่ากันหมด
ตำแหน่งยศเท่าทันทั่วกันได้
อายุคนเท่าทันกันอย่างไร
แม้วิ่งไล่ระหว่างห่างเท่าเดิม
คนหยุดอยู่แต่เวลาหาได้หยุด
มิมีจุดสุดสิ้นหากสร้างเสริม
แสวงหาประสบการณ์มาเพิ่มเติม
ความรู้เพิ่มเพียรพร่ำอ่านตำรา
ความสำเร็จเสร็จไปในหนึ่งระดับ
อย่างเพิ่งนับว่าชีวิตสุขหรรษา
ปัญหาใหม่มีให้คิดทุกเวลา
คิดค้นคว้าแนวทางสร้างครรลอง
พึงพอใจในความดีที่สร้างสม
ความนิยมบ่มไว้ได้สนอง
ความสัมพันธ์พาไปให้เรืองรอง
ดั่งมีทองวชรารัตนมณี
คราต้องการนำมาใช้ได้ตามชอบ
สนองตอบตามเป้าหมายได้สุขี
เดินย่างก้าวเกษมเปรมฤดี
เพื่อนน้องพี่เสริมส่งยืนยงกาล
แม้ชีพลับดับขันธ์ในวันใด
ฝากจารึกเอาไว้ได้สืบสาน
เสียงร่ำลือเล่าอ้างเห็นเป็นตำนาน
ฝากกลอนกานท์ไม่แจ่มชัดแนวปรัชญา