14 ตุลาคม 2550 15:39 น.
วชรกานท์
เขียนกลอนฝาก ฝากกลอน ตอนว่างกิจ
เพ่งเพลินพิศ พิศเพลิน เกินกว่าฝัน
พิศรูปร่าง ร่างรูป ก่อนจูบกัน
ผ่านคืนวัน วันคืน มิรื่นทรวง
ชิมชาติรส รสชาติ ลิ้มจนชิน
อร่อยลิ้น ลิ้นอร่อย ย่อยของหวง
เสียทองเงิน เงินทองสิ้น ปรนลิ้นลวง
ชื่นดวงแด แดดวง ล่วงลงคอ
โอ้หอมกลิ่น กลิ่นหอม ดอมลำดวน
กลิ่นชวนชิม ชิมชวน น้ำลายสอ
หอมกลิ่นกาย กายกลิ่น ระริกรอ
เป็นต้นตอ ตอต้น ดลคันธา
ความไพเราะ ไพเราะความ ตามโสตะ
ไม่ละลด ลดละ ถวิลหา
สุนทรีย์ดล ดลสุนทรีย์ มีมนตรา
เสริมราคา ราคาเสริม เพิ่มนักร้อง
อีกสัมผัส ผัสสะ จะจับจิต
ลืมสนิท จิตปล่อย ปล่อยจิตหมอง
คลำเคลิบเคลิ้ม เคลิ้มเคลิบ กิเลสนอง
ห้าประตู ตูประคอง พ้นกามา
อารมณ์ธรรม ธรรมารมณ์ ภิรมย์รื่น
นั่งหลับยืน ยืนหลับท่อง ยุบพองหนา
เห็นแก้วดวง ดวงแก้ว แววนรา
ชื่นปิติ ปิติพา ปุพเพญาณ
มีสติ สติมี มโนแช่ม
แย้มปราโมทย์ ปราโมทย์แย้ม ย่อมแตกฉาน
โสดาบัน บันโสดา วิชาฌาน
ชื่นดางมาลย์ มาลย์ดวง คลายบ่วงกรรม
13 ตุลาคม 2550 17:40 น.
วชรกานท์
เจ็ดวัน เว้นซ้อม ดนตรี
สามวัน นารี เป็นอื่น เป็นอื่น
ส่วนชาย จากไป แค่คืน
หาหญิงอื่น มา เชยชม เชยชม
สิทธิ เท่าเทียม ชายหญิง
ฝันเป็นจริง คลาย ขื่นขม ขื่นขม
ก่อนเคย แค่ชาย เชยชม
ตรมฤทัย หญิง เออออ เออออ
รัฐธรรมนูญ ห้าศูนย์ บัญญัติ
เขียนไว้ชัด อย่า หัวหมอ หัวหมอ
ผู้ชาย อย่าหมาย ชีกอ
ต่อแต่นี้ สิทธิ์ เทียมทัน เทียมทัน
หญิงสาว ถึงเจ้า ได้สิทธิ์
เก็บจริต อย่า เหหัน เหหัน
สิทธิ ที่เท่า เทียมกัน
นั้นใช้ไป ใน ที่ควร ที่ควร
การงาน และการ ศึกษา
เรื่องกามา จง สงวน สงวน
พรมจรรย์ ให้ถึง กาลควร
อย่ายั่วยวน ใน ท่าที ท่าที
เปิดทาง สองง่าม สามแง่
พ่อไก่แก่ เคย บัดสี บัดสี
แม่ช่อน งอนแง่ แลที
โอกาสดี กินไก่อ่อน ไก่อ่อน
13 ตุลาคม 2550 16:39 น.
วชรกานท์
วัจนะปราชญาสร้างสังกัปป์
จรุงจิตเจตจับลับสมอง
ศาสนปรัชญาพาครรลอง
เอกมรรคอีกมุมมองสัมมาทิฐิ์
ฉันทารักสิ่งที่ทำนำทางหน
ละหลุดพ้นอบายกร้ำกรายจิต
วิริยะพยายามตามพินิจ
สุขสมหวังตั้งจิตเจตนา
เห็นทิศทางงดงามความสำเร็จ
กลเม็ดแท้ที่วิมังสา
จาตุอิทธิบาทเป็นปรัชญา
อัฏฐมรรคมรคาชี้ทางชน
ถึงจะรู้ไม่ริปฏิบัติ
มิอาจวัดกุศลกรรมสำเร็จผล
ยิ่งมิรู้มิสดับยิ่งอับจน
เพียงยินยลฤๅหลุดพ้นพบนฤพาน
13 ตุลาคม 2550 12:12 น.
วชรกานท์
ครูคณิต คิดเรียน เขียนกลอนฉันท์
ขบขำขัน ข้องขัด จัดอักษร
อย่าเพิ่งย่ำ ตำหนิ ติกาพย์กลอน
ช่วยสั่งสอน ผังสัมผัส วัจนา
ละเลง ลิขิตความ ตามใจรัก
ยากยิ่งนัก ภาษาเยี่ยง ไร้เดียงสา
สื่อสำเนียง เยี่ยงนก วิหคกา
ฤๅเทียบเทียม เสียงฟ้า ผ่าคำราม
พจนานุกรมเป็น บรมครู
วจนะ ที่มิรู้ ทั้งดูถาม
หวังเพียงสร้าง ตำนาน กานท์งดงาม
เรียบเรียงตาม วัจนี ฤดีดล
นำปรัชญา มาตั้ง รังสรรค์โจทย์
จิตปราโมทย์ เสริมแรง ทุกแห่งหน
แยกแยะรัก โลภหลงโกรธ จากกมล
ไป่สับสน ปนไป ในบทกลอน
10 ตุลาคม 2550 13:01 น.
วชรกานท์
อารมณ์รักระรื่นชื่นในใจจิต
สูญสนิทยามพิศจ้องมองตรงหน้า
ใจแทบวายส่ายหลบ หลีก ... สายตาเธอที่มอง มา
สุดเสกสรรพรรณนาพาที
อารมณ์เหงาเข้าแทนที่ภิรมย์รื่น
จิตระทมขมขื่นฝืนสุขี
ใจอ้างว้างเพราะเธอ ไย ...ไม่นึกถึงใจพี่ พี่
ใจดวงน้อยดวงนี้จาบัลย์
ใจมิกล้ามันน่าโมโหโกรธา
แค่สาวแลสบตาผินหน้าเหหัน
สามวันจากนารี ไป ...ใจฉันนั้นนึกหวาด หวั่น
ด้วยตัวฉันนั้นเขินอาย
ตั้งแต่นี้ต่อไปมิให้เธอนั้นพลันจาก
จะเอ่ยปากบอกรักแม้ยากเหลือหลาย
ขอหอมแก้มกอดกาย ให้... ไออุ่นรักมิหน่าย หน่าย
ขอเคียงคู่ทั้งกายและใจ