27 พฤศจิกายน 2550 16:09 น.
วชรกานท์
โบราณว่าแต่งกายให้ถูกสี
จักเสริมส่งบารมีดูดีหลาย
วันอาทิตย์สีแดงจงแต่งกาย
ดูสง่าชวนให้ชายหญิงมอง
วันจันทร์นั้นท่านว่าสีนวลขาว
ส่องสกาวขาวผ่องละอองนุ่น
อังคารม่วงและชมพูดูละมุน
สีช่วยหนุนให้ผ่องพักตร์ดูพริ้งพราย
วันพุธให้แสดสีดียิ่งนัก
คนทายทักเป็นที่รักมิตรสหาย
พฤหัสเขียวเหลืองดูคมคาย
วันศุกร์ใช้สีเมฆหมอกดูออกเทา
จะออกศึกรบราหรือหาลาภ
สีกำราบศรัตรูในวันเสาร์
ดำสนิทดุจนิลมิออกเทา
ครบเจ็ดวันจงเอาไปแต่งกาย
ทั้งเสื้อผ้าเครื่องประดับให้รับวัน
จงเลือกสรรตามสีมิเสียหาย
ต่างกับสีที่เคยเรียนตอนเยาว์วัย
ขอจงได้เปรียบเทียบพิจารณา
14 พฤศจิกายน 2550 11:19 น.
วชรกานท์
ตามวิถีราชการให้พานจาก
จำใจพรากที่รักให้ใจหาย
ที่เคยอยู่อู่เคยนอนบ้านควนฮาย
ห่างแต่กายส่วนใจยังติดตรึง
แดนเคียนซางามสง่าติดใจจิต
ยังหวลคิดมิคลายหายคิดถึง
โฉมนงนุชบุษบาใจตราตรึง
ยังคะนึงถึงเพื่อนเก่าเฝ้าอาลัย
ดำรงตำแหน่งใหม่ใจสุขสม
ศึกษาประชาคมที่แห่งใหม่
เพื่อนร่วมงานใจดีมีน้ำใจ
ต้อนรับด้วยใจไม่อาดูร
แม้ภาระมากมายไม่หนักจิต
สามคู่คิดสามสไตล์ไม่เสื่อมสูญ
เป็นสี่แรงร่วมใจได้เพิ่มพูน
ทวีคูณการงานพัฒนาคน
7 พฤศจิกายน 2550 12:14 น.
วชรกานท์
ความรัก เอ๋ย ความรัก
ยากสลัก ความรัก เป็นอักษร
เอาดอกไม้ หลายพันธุ์ มาเป็นกลอน
กล่าวออดอ้อน น้ำคำ ตามหทัย
เอาดอกรัก มาปัก กลางใจเจ้า
กลิ่นสาเหล้า หอมหวล ชวนหลงใหล
ดอกพิกุล ร่วงหล่น จากปากใคร
เอ่ยโอภา ปราศรัย จำนรรจา
ดอกจำปา จำปี มีสีกลิ่น
อินทนิล บานเบ่ง เต็มพฤษา
มองกล้วยไม้ ใกล้ม้วย มรณา
กระดังงา ลนไฟ ให้ชวนดม
ดอกบานชื่น ชื่นใจ หากได้เด็ด
ดอกชุมเห็ด แม้สวย แต่รสขม
ดอกเฟื่องฟ้า เริงร่า ดูน่าชม
ดอกลั่นทม ชื่อนี้ มิสุขใจ
ดอกกุหลาบ กำหราบ ให้หลาบจำ
ดอกหน้าวัว เป็นคำ เธอเคยให้
ดอกยี่หุบ ให้หดหู่ ถึงทรวงใน
ดอกบานไม่ รู้โรย ใส่พานทอง
พวงชมพู ชูช่อ บานล้อเล่น
ดอกบานเย็น สีสดสวย ไม่เป็นสอง
ดอกดาวเรือง เหลืองอร่าม งามเรืองรอง
ให้หมายปอง หมู่ผกา วิลาวัณย์
ใคร่อยากเด็ด ดอกใด ไม่กล้าเด็ด
มองชุมเห็ด พวงชมพู ชูช่อสั่น
อยากดมกลิ่น กระดังงา มาหลายวัน
ถูกขวางกั้น ด้วยดาวเรือง ชำเลืองมอง
คนหลายใจ อยู่เดียวดาย เสียให้เข็ด
มิใจเด็ด จะจับปลา ด้วยมือสอง
กาลเวลา เข้าไป ใกล้คานทอง
ได้แต่มอง ดอกไม้ หลากหลายพันธุ์
1 พฤศจิกายน 2550 12:46 น.
วชรกานท์
แค่หายหน้าใช่ว่าจะลาลับ
จะไปรับตำแหน่งใหม่ดังใจหมาย
ก่อนเป็นครูอยู่มานานนั้นสบาย
ขอลาไปเป็นผ.อ.ที่รอมา
จากควนฮายย้ายไปรับตำแหน่ง
การศึกษาอีกแห่งที่ไกลกว่า
ศึกษาประชาคม อ. เคียนซา
จำจากลาศิษย์รักครูจากไกล
โอ้ควนฮายเคยอยู่มานานแล้ว
โอ้ดวงแก้วพี่ขอลาน้ำตาไหล
แม้กายห่างต่างชิดติดดวงใจ
อวยพรให้เจ้ารื่นชื่นอุรา
อีกเพื่อนครูเคยอยู่ร่วมทุกข์ยาก
ต่างระกำละบากมากหนักหนา
ด้วยเลือกทางเดินใหม่ใคร่ขอลา
อยู่เคียนซาไม่ไกลเท่าไรเลย
23 ตุลาคม 2550 15:59 น.
วชรกานท์
ในโลกนี้ลึกลี้ลึกลับ
ยินสดับสำเนียงสำเหนียก
ยมทูตมาร่ำมาเรียก
ให้สำเหนียกเตือนจิตเตือนใจ
คราหนึ่งมันบ่งมันบอก
ให้งอกหงอกบนเกศีเกศัย
จงอยู่อย่างระวังระไว
ทานรีบให้ทำดงทำดี
คราสองสดงแสดง
ฟันหักแหว่งหลายซ่งหลายซี่
ทำบุญอย่ารออย่ารี
รีบทำดีสบีสบาย
คราสามหนังหดหนังเหี่ยว
กายซีดเซียวตัวหดตัวหาย
ถือศีลไปวัดไปไว
กรรมดีได้บรรดลบรรดาล
คราสี่เสียงแห้งเสียงแหบ
ไม่เหลือแทบเสียงหวนเสียงหวาน
สี่คราพบยมบงยมบาล
ชนม์ชีพนั้นบรรลีบรรลัย
ถึงนรกพบยมบาลยมบี
ครองชีวีเป็นฉนี้ไฉน
พวกสูเป็นมนุษย์มนัย
พิราลัยคนทั้งโศกทั้งเศร้า
เตือนแล้วไม่ปฏิบงปฏิบัติ
พบพระวัดบ้างสูจ้งสูเจ้า
มุ่งเสพกาเมกาเมา
ไม่ละเพลากำหนิกำหนัด
บัญชีกรรมเคยมีเคยมา
ดีชั่วช้าให้ชี้ให้ชัด
กรรมดีจแร่มจรัส
พวกพาลพลัดทองดงทองแดง
มั่วกามขึ้นต้นง้งต้นงิ้ว
เหล็กเสียบหิ้วทิ่มทงทิ่มแทง
ดื่มน้ำเมาน้ำดงน้ำแดง
ตะแลงแกงคอยรีคอยรอ
น้ำร้อนแทนน้ำหลงน้ำเหล้า
กรอกให้เข้าในคงในคอ
ทำดีมีศีลมีศอ
มากมีพอขึ้นสะวงสวรรค์