10 มีนาคม 2551 07:49 น.

ธรรมชาติวาดฝัน

วชรกานท์

สรรพสิ่ง กำเนิดมา มีหน้าที่
จะร้ายดี สูงต่ำ ทำตามหวัง
จะใหญ่เล็ก เลี้ยงชีพ เสริมกำลัง
ให้อยู่ยั้ง ยืนยง ดำรงตน

พืชน้อยใหญ่ ชอนไช รากไปหา
มวลธาตุใน พสุธา ทุกแห่งหน
สร้างลำต้น กิ่งใบ ผลิดอกตน
ผลิตผล เพื่อสืบพันธุ์ สรรสร้างมา

ผีเสื้อสวย สอดส่าย สายตามอง
ละลิ่วล่อง วางไข่ ใบพฤกษา
หลังจากเธอ ปล่อยไข่ ไร้ชีวา
จุลปักษา หาละอ่อน หนอนมากิน

กระรอกน้อย คอยรอ เร่งผลห่าม
ตะวันส่อง ถึงยาม ดังถวิล
กระแทะเปลือก เล็มเนื้อ เยื่อมากิน
เลี้ยงชีวิน ทิ้งเมล็ด เกล็ดเรียงราย

ชะนีสาว พราวเสน่ห์ เธอเร่ร้อง
เสียงกึกก้อง พนา ยามฟ้าสาย
เก็บผลสุก โหนร่าง นั่งสบาย
พักผ่อนกาย เอมอิ่ม พริ้มหลับไป


มนุสา หาพันธุ์ นั้นมาปลูก 
หวังได้ลูก ผลพันธุ์ อันสดใส
ฉีดพ่นยา ฆ่าแมลง ปุ๋ยทางใบ
หวังผลิต ผลไม้ ได้ราคา

วงจรชีพ หายไป เพราะไร้คิด
เศรษฐกิจ ชี้นำให้ ใฝ่ตัณหา
ปุ๋ยเคมี เครื่องจักร ขึ้นราคา
ยังมุ่งหน้า ทำกัน ดันทุรัง

ความพอเพียง คืออะไร ต่างใคร่รู้
พอประมาณ เท่ามีอยู่ แต่ภายหลัง
มีเหตุผล คิดใคร่ครวญ ตามกำลัง
ภูมิคุ้มกัน นั้นพลัง เกราะคุ้มกาย

แสวงหา คุณธรรม มานำจิต
เสริมความรู้ ทีละนิด ยังไม่สาย
จงน้อมนำ ปรัชญา มาใส่กาย
เพื่อถวาย แด่องค์ จักรินทร์				
6 มีนาคม 2551 17:36 น.

สองวิหค

วชรกานท์

อินทรีกางปีกกว้าง         เหนือฟ้า
โฉบเฉี่ยวบินคละคลา    หมู่แร้ง
มองสู่พสุธา                    แตกต่าง
อินทรีมองชีพยั้ง            ส่วนแร้ง ซากตาย
......................................................................
อินทรีกางปีกกว้าง         อยู่ท่ามกลาง นภาลัย
สอดส่าย สายตาไป        สุดแสนไกล ในทุ่งนา
หางู มาเลี้ยงชีพ             กระต่ายรีบ หลบถลา
หนูริง แลหนูนา             ต่างมองหา ที่ซ่อนกาย

นิเวศ ต่างพึ่งพา            เลี้ยงกายา ความหิวหาย
วันวัน พอเลี้ยงกาย       ที่เหลือได้ เลี้ยงลูกน้อย
อ้าปาก คอยรอถ้า           ป้อนเหยื่อหา คลายเหงาหงอย
ฉีกเหยื่อ ป้อนเนื้อกลอย ทั้งสองพลอย อิ่มอุรา

วิหค อีกพันธุ์หนึ่ง           กางปีกผึ่ง เหนือเวหา
ได้กลิ่น ระรินมา            พระพายพา มาแต่ไกล
ร่อนหา ซากสัตว์ตาย      ชีพวอดวาย ทั้งเก่าใหม่
กำจัด ให้หมดไป            พอเลี้ยงกาย ชีพดำรง

ชื่อแร้ง น่ารังเกียจ         ตัวน่าเกลียด ต่างจากหงส์
สัตว์โลก ต่างอยู่ยง          คงหน้าที่ กำหนดมา
มนุษย์ สัตว์ประเสริฐ      ยกตัวเลิศ เหนือปักษา
หน้าที่ ที่ให้มา                 เลือกมองหา ทางพอเพียง				
4 มีนาคม 2551 15:04 น.

ปลง

วชรกานท์

ยามอายุย่างเยื้อง            เจียนตาย
หนังเหี่ยวผมหอกกาย     เชื่องช้า
หูหนักนัยน์ตาคล้าย         มืดบอด ฟางฝ้า
ฟันหักแรงอ่อนล้า            จึ่งใช้  ฟันปลอม

พวงพยอมกลีบร่วงร้าง     โรยรา
หาบ่มีกลีบผกา                 อยู่ยั้ง
ใบไม้แก่สุกพา                ร่วงหล่น
ใครไหนเลยจะรั้ง            ต่อสู้ เวลา

ความประมาทต่างรู้          ทางตาย
ทุกอย่างที่อันตราย           ห่างเว้น
อบายห่างจากกาย            ควรยิ่ง นาพ่อ
ดีชั่วควรเลือกเฟ้น          ก่อนได้  กระทำ

กรรมใครใครก่อไว้        กรรมมัน
ทุกอย่างจะตามทัน          ถี่ถ้วน
กรรมดีบ่มีวัน                 กลายชั่ว นวลแม่
กรรมชั่วมลายล้วน          ส่งให้ ถึงตน				
2 มีนาคม 2551 10:19 น.

งานที่รัก

วชรกานท์

งานสิ่งใด หากทำ ด้วยใจรัก
แม้งานหนัก มักสำเร็จ สัมฤทธิ์ผล
มิมีมาร หาญกล้า มาผจญ
ฤดีดล วิริยา พาสุขใจ

อุปสรรค ปัญหา มากั้นขวาง
จงนำเอา ทางสายกลาง มาแก้ไข
มัชฌิมา ปฏิปทา เป็นครรไล
ทุกสิ่งลุ ล่วงได้ ด้วยปัญญา

ประสบการณ์ ที่ผ่านมา เป็นกระจก
อุปมา หยิบยก แก้ปัญหา
เปรียบเทียบ เลียบเคียง คือศาสตรา
ศึกษาจิตวิทยา หาหลักการ

ยุทธศาสตร์ มาดผู้นำ เป็นอาวุธ
บริสุทธิ์ จริงใจ เป็นแก่นสาร
อีกบุญญา วาสนา มาบันดาล
อันมีกาล เป็นตัววัด ทัศนา				
1 มีนาคม 2551 11:12 น.

อ่านคนออก บอกคนได้ ใช้คนเป็น

วชรกานท์

อ่านหนังสือ มากมาย ได้ความรู้
ยังมิสู้ อ่านใจคน ค้นความหมาย
อ่านคนออก บอกความหวัง ดั่งทำนาย
บอกคนได้ ลึกซึ้ง ถึงต้องการ

การจะทำ สิ่งใด ให้สำเร็จ
กลเม็ด เจรจา พาขับขาน
อารมณ์ขัน หมั่นยิ้มแย้ม จิตแจ่มบาน
ใช้คนเป็น เน้นตามงาน สานสัมพันธ์

ยุทธวิธี วิถีทาง ภาวะผู้นำ
น่าจดจำ ลองใช้ ฝึกให้มั่น
อันมนุษย์ อยู่ได้ด้วย ต่างช่วยกัน
ผู้นำนั้น คิดถนัด ตัดสินใจ

ผู้ตามล้วน ควรมัดใจ ไว้ให้มั่น
แจกจัดสรร ปันแบ่ง แถลงไข
งานสำเร็จ ชมเชย เร่งเร็วไว
รางวัลให้ ตามที่ใจ เขาต้องการ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวชรกานท์
Lovings  วชรกานท์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวชรกานท์
Lovings  วชรกานท์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวชรกานท์
Lovings  วชรกานท์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงวชรกานท์