27 เมษายน 2551 11:28 น.
วชรกานท์
บ้านกลอนไทยมีไว้ตั้งหลายบท
อรรถรสที่แตกต่างไปทางหนึ่ง
บทกลอนอกหักรักหวานซึ้ง
เป็นที่พึ่งทางใจในกวี
กลอนปรัชญาหาห่างทางวิเวก
เป็นปัจเจกบุคคลาสง่าศรี
นำแนวคิดแตกต่างทางวจี
ให้คนมีแนวทางสร้างครรลอง
บทกลอนตามใจคุณอุ่นอารมณ์
ความเหมาะสมสดสวยไม่เป็นสอง
ละเลงร่ายเรียงร้อยถ้อยทำนอง
เลือกจับจองแนวกลอนบ้างสอนใจ
บทกลอนในโอกาสพิเศษนั้น
ต่างขยันสรรหานำมาใส่
วันสำคัญหมั่นหามาเร็วไว
จรรโลงใจร่ายกลอนสุนทรวจี
บทกลอนธรรมชาตินิราศร้าง
คิดไกลกว้างสร้างสรรค์กันเต็มที่
ท้องนภาจันทราดวงสุรีย์
จดธาตรีน่านนทีพงพนา
กลอนหน้าแรกเรียงร้อยถ้อยอักษร
รวมบทกลอนคุณค่าดีมีเนื้อหา
สวยสัมผัสสรรคัดวัจนา
อักษราเรียบเรียงเน้นเที่ยงตรง
กลอนแสบแสบโดนใจหาใครเหมือน
ยามเยี่ยมเยือนเหมือนได้ในประสงค์
เขียนแสบแสบคันคันมั่นบรรจง
ต่างดำรงแนวทางสร้างลีลา
ยังอีกตอนบทกลอนให้กำลังใจ
อ่านที่ไรหัวใจสเน่หา
ดั่งน้ำทิพย์โปรยปรายเทพให้มา
จากสวรรค์ชั้นฟ้าสุราลัย
ท้ายสุดบทกวีมีคำคม
ความนิยมสมควรคำสมัย
เสริมปัญญาอาหารสมองไว
ธีรชนย่อมไม่ใคร่ดูแคลน
ทั้งเก้าหมวดตรวจดูมิรู้หมด
ร่วมจานจดพิมพ์ใส่ได้เรือนแสน
ประเทืองปัญญาหาค่าใดตอบแทน
ดุจดินแดนมหาอารยชน
สมาชิกใหม่เก่าเข้ามาเขียน
เสริมบทเรียนวรรณคดีมิโง่เขลา
โต้ตอบกันปั้นยอพอทำเนา
บ้างหยอกเย้ายั่วกันนั้นเข้าใจ
ส่งขึ้นไปไม่เว้นเป็นวันหยุด
ปัญญาวุธคายคมสมสมัย
แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันมั่นหทัย
บ้านกลอนไทยไม่หมดรสกวี
27 เมษายน 2551
26 เมษายน 2551 12:43 น.
วชรกานท์
วอนลายลมช่วยบ่มใจให้หายช้ำ
วอนสายน้ำชะล้างใจให้หายหมอง
วอนเทวาหารักใหม่ให้เคียงครอง
วอนรักได้สมปองเทพอวยชัย
คนช้ำรักมักคอยรอขอความหวัง
คนรักพังพึงช่วยเหลือเจือจุนให้
คนรักหักอกพี่นี้มิไกล
คนรักของคนใต้ไปมิลา
ส่งรักใหม่ไปถึงสาวชาวฝั่งโขง
ส่งรักใหม่ไปเชื่อมโยงถึงแหล่งหล้า
ส่งรักใหม่ไปถึงเลยนครา
ส่งรักใหม่ลมพาไปให้คนดี
นั่งเหม่อลอยคอยฝันใจมั่นถึง
สาวสวยภูกระดึงแม่โฉมศรี
อยากไปเยือนแม่โขงน่านที
ผูกไมตรีสองน่านน้ำเพื่อย้ำรัก
หนุ่มตาปีหนีรักสาวชาวปักษ์ใต้
เธอทำให้หัวใจพี่นี้เดาะหัก
วอนเว้าสาวอีสานประสานรัก
คนอกหักขอยารักษาใจ
เธอไม่รับลมจ๋าพารักกลับ
ละลิ่วลับลอยเลื่อนล่องพริ้วไหว
พารักเร่ร่อนสู่ฟ้าชลาลัย
รักอย่าได้หล่นมาสู่ธาตรี
16 เมษายน 2551 15:05 น.
วชรกานท์
คำสำเนียงไม่หวานปานน้ำผึ้ง
คำไม่ซึ้งตรึงใจให้ถวิล
คำจากใจคนใต้ไม่จับจินต์
คำโบยบินถวิลหาใขว่คว้าดาว
คำจากใจกลายเป็นเช่นคำหลอก
คำลมลิ้นปลิ้นปลอกหลอกลวงสาว
คำคนใต้ไร้ค่าของพี่บาว
คำว้าวราวลมโชยโปรยคำลวง
คำว่ารักปักธงลงกลางใจ
คำฮักฝากคนไกลด้วยใจหวง
คำว่ารักปักใจกลายเป็นลวง
คำทั้งปวงฝากไว้จากใจจริง
คำ"นคร"ย้อนไปในเมืองเหนือ
คำที่เชื่อว่ารักปักใจหญิง
คำที่พร่ำเพ้อปากจากใจจริง
รอฮักจาก"นครพิงค์" แห่งล้านนา
14 เมษายน 2551 16:25 น.
วชรกานท์
ความรักคือความหวังดีที่มีให้ (รักแท้)
ความรักคือความจริงใจไม่แอบแฝง (รักจริง)
ความรักคืออารมณ์อันร้อนแรง (ใคร่)
ความรักคือความเคลือบแคลงระแวงกัน (หึง)
ความรักคือสร้างสมอารมณ์หวาน(ซึ้ง)
ความรักคือน้ำตาลหวานมหันต์(มด)
ความรักคือต้องรูปสวยรวยอนันต์(งก)
ความรักคือแค่เสกสรรรค์จำนรรจา(เขิน)
ความรักคือทุกสิ่งดูพริ้งเพลิด(เริ้ด)
ความรักคือความบรรเจิดจรัสจ้า(มากไป)
ความรักคือมอบกายให้ชีวา(นางทาส)
ความรักคือพรรณนาให้หลงใหล(งงงวย)
ความรักมั่นนั้นให้แด่แม่และพ่อ(พระคุณ)
ความรักมั่นนั้นรอจะมอบให้(ยัง)
ความรักมั่นนั้นให้อรทัย(ฝ่ายเดียว)
ความรักมั่นปันให้ในครอบครัว
...........เนื่องในวันครอบครัว ขอให้ทุกครอบครัวมีความสุข ครับ.....
13 เมษายน 2551 10:06 น.
วชรกานท์
เฝ้าชะเง้อเหลียวแลชะแง้หา
ตาฟางฝ้าหนังเหี่ยวย่นอยู่บนแคร่
ขาดญาติโกโหติกา มาเหลียวแล
เจ้าเชือนแชแม่ชอกช้ำระกำทรวง
ลูกหลายคนอยู่หนใดไม่มาหา
นั่งน้ำตาคลอเบ้าแม่เฝ้าหวง
รอน้ำใจรินหลั่งอยู่รังรวง
แม่เป็นห่วงเจ้ายิ่งแล้วเจ้าแก้วตา
มิได้หวังสิ่งใดเพียงใจชื่น
เสียงเรือนอื่นเขาชื่นใจได้พบหน้า
ต่างพาลูกจูงหลานสงกรานต์มา
นำภัสดาสะใภ้มาให้ดู
เฝ้าชะเง้อเหลียวแลบนแค่เก่า
ป่านนี้เจ้าอยู่หนใดในที่หรู
นึกถึงครั้งเคยป้อนข้าวเฝ้าอุ้มชู
แม่รู้อยู่ว่าเจ้ารักสลักใจ
ที่ไม่มาเพราะเจ้านี้มีงานมาก
คงมิอาจจำพรากจากมาได้
อีกเส้นทางที่เจ้าอยู่แสนยาวไกล
แม่ห่วงใยแม้ไม่มาหาแม่นม
เอนกายลงบนแคร่เหลียวแลมอง
ผ่านทางช่องแมกไม้ใจขื่นขม
เขาคงไม่ใคร่เหยียบย่ำโคลนตม
นอนทุกข์ตรมอยู่บนแคร่แลหลับไป
ตื่นขึ้นมาน้ำตาหล่นบนพื้นแคร่
โถดวงแดมาหาแม่แต่เมื่อไหร่
นั่นลูกหลานตัวน้อยเจ้ากลอยใจ
จงมาให้ยายกอดยอดพธู
.......เขียนแล้วน้ำตาไหล.....