1 พฤษภาคม 2551 21:18 น.
วชรกานท์
นิราศรักร้างไกลไม่คืนหลัง
จากเวียงพิงค์สู่รวงรังเมืองสงขลา
เนินหาดนูนเว้าหวะตระการตา
สมิหลานามนั้นฉันเคยยล
ตอนอกหักจากปักษ์ใต้ถูกสาวทิ้ง
โดนสาวจากเวียงพิงค์ทิ้งอีกหน
วัฏจักรเวียนว่ายในวังวน
ดิ้นหลุดพ้นมาได้แทบวายปราณ
มิถึงตายสาวใต้หนึ่งให้พึ่งพัก
มอบไออุ่นความรักอกประสาน
รักษารอยร้าวใจหายเร้าราน
เยาวมาลย์ดุจเงือกสาวเจ้าธารา
ขอลงหลักปักถิ่นมิบินหนี
แม่มัจฉานารีสมิหลา
ลืมรสรักเวียงพิงค์นครา
ลืมเอื้องฟ้าสมิหราเยียวยาใจ
1 พฤษภาคม 2551 00:27 น.
วชรกานท์
หยาดเหงื่อหยดไหลทั่วใบหน้า
แรงอ่อนล้าล่วงอายุลุเลขสี่
อยู่บนตึกสูงใหญ่ในธานี
ใช้เป็นที่พักพิงอิงกายา
แสงแดดอ่อนผ่อนคลายเริ่มหายเหนื่อย
ทำงานเรื่อยรวบรวมแรงอันแข็งกล้า
กัดฟันสู้มิอู้งานกาลเวลา
ขอแค่ค่าแรงงานเบิกบานใจ
ข้าวของขึ้นราคาพากระอัก
โอ้ลูกรักค่าเทอมเพิ่มขึ้นไหม
กรรมกรสาวโรงงานอยู่อย่างไร
ต่างกันไกลสินค้ากับค่าแรง
วันแรงงานผ่านปีแล้วและปีเล่า
ฉันทนาน้องเจ้าเฝ้าขันแข็ง
เธอมิเคยเรียกร้องเรื่องค่าแรง
ข้าวของแพงค่าแรงยังคงเดิม
29 เมษายน 2551 17:01 น.
วชรกานท์
แหวกม่านหมอกเจือจางสว่างจ้า
สุริยาโผล่มาจากขุนเขา
สายลมพัดแผ่วแผ่วแว่วแว่วเบา
ก่อนสองเราเคียงคู่อยู่ท้องนา
เดินหยอกเย้าเคล้าคลอพนอรัก
ประสบพักตร์อายเอียงอย่างเดียงสา
ตืนวันผันผ่านไปไม่นำพา
การศึกษาพาแยกทางให้ห่างกัน
เจ้าฐานะร่ำรวยอำนวยเอื้อ
สาวเอื้องเหนือลาสู่แดนสวรรค์
เข้าเขตรั้วมหา'ลัยใจผูกพันธ์
เราต่างมั่นสัญญาถึงลาไกล
ปล่อยหนุ่มนาอาชีวะอันต่ำต้อย
ตะวันคล้อยย่ำสายัณห์จิตหวั่นไหว
ตำสัญญาว่ารักพี่มิเปลี่ยนใจ
กาลผ่านไปเงียบหายไร้ข่าวคราว
เบอร์ไม่มีจะเมล์มาก็หาไม่
บังเอิญไปในเมืองมีเรื่องเศร้า
เห็นหนึ่งหญิงหนึ่งชายเดินคลอเคล้า
ใจพี่บาวแน่นเหน็บเจ็บในทรวง
แหวกม่านหมอกเจือจางพลางร้องให้
อรทัยไปดีพี่ไม่ห่วง
หากเขารักพี่ไม่ว่าเพียงอย่าลวง
ใจหนึ่งดวงของพี่นี้เฝ้ารอ
.........ลูกทุ่ง....
29 เมษายน 2551 12:56 น.
วชรกานท์
แม้นอยู่ไกลหัวใจเหมือนอยู่ชิด
วนเวียนว่ายดวงจิตพิศมัย
หากเห็นหน้าค่าตาพาชื่นใจ
เฝ้าฝันใฝ่เฟื่องฟุ้งจรุงจินต์
แค่สื่อสาส์นกานท์ต่อเพื่อล้อเล่น
อยากกลายเป็นความจริงสิ่งถวิล
ขอแค่ฟังสำเนียงเสียงได้ยิน
แด่วดับดิ้นคงคลายหายทุกข์ตรม
คำค่ะขาพาใจอ่อนนอนไม่หลับ
ยิ่งสดับสลับถ้อยพลอยขื่นขม
ใช่เพียงเราเขาได้ไว้ชื่นชม
เพียงแค่ลมลิ้นคำแล้วจำลา
สื่อดวงมาลย์ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิคส์
ใจระริกระรื่นเห็นเป็นดวงหน้า
จินตภาพวาบหวังดั่งจันทรา
เจอดาราพร่างพรายรายล้อมเธอ
ดั่งได้รับมนตรามาตรึงจิต
คลุมครอบงำความคิดอยู่เสมอ
เราอยู่ไกลเขาอยู่ใกล้ได้พบเจอ
ฝันละเมอถึงนางคนห่างไกล
อยู่สุดหล้าฟ้ากว้างทางตอนเหนือ
โปรดเอื้อเฟื้อหนุ่มใต้ให้สดใส
ระยะทางหนุ่มสาวจะยาวไกล
สาวเจียงใหม่อย่าใจดำให้คร่ำครวญ
28 เมษายน 2551 19:01 น.
วชรกานท์
บัลลอตามติดด้วย ลอลิง
จตุคำอ้างอิง แน่แท้
บัลลพความหมายจริง ต้นหน่อ
บัลลังก์บัลลูนแล้ อีกทั้ง บัลเลต์
บัลลพคือหน่อต้น
ชื่ออลวนให้จังงัง
พระองค์ครองบัลลังก์
พระที่นั่งของราชา
บัลลูนลอยลมบน
พาผู้คนลอยเวหา
บัลเลต์กัลยา
ใช้ปลายเท้าเจ้าเต้นรำ
บัณณอเก้าคำนั้น ใหญ่โต
ตามด้วยฑอมณโฑ ใกล้อยู่
อีกสองคำนั้นโอ๋ มิยาก เณรรอ
บัณณาสบัณรสรู้ เก่งแล้ว ภาษา
บัญฑรนั้นขาวเหลือง
อร่ามเรืองช่างน่าดู
บัณฑิตผู้ทรงรู้
บัณฑิตย์หมายถึงการเรียน
บัณฑุคล้ายบัณฑร
ขาวเหลืองอ่อนซีดเจียวเจียน
บัณฑูรจงพากเพียร
ตามคำสั่งอย่างตั้งใจ
บัณเฑาะก์สาวเพศสอง
มุ่งหมายมองชายหลงใหล
บัณเฑาะว์เอามาไว
กลองใบเล็กสองตุ้มห้อย
บัณณาสมีห้าสิบ
คิดไกลลิบแค่ครึ่งร้อย
บัณรสสลับรอย
แค่สิบห้าน่าจดจำ
บันนอนั้นหนูน้อย ควรจำ
ทั้งหมดสิบสองคำ เด่นแล้
ใคร่ครวญคิดลำนำ เกิดก่อ
ภาษาไทยดีแท้ เร่งเฟ้น ความหมาย
บันกวดผูกรัดรวบ
อีกบันจวบนั้นตกแต่ง
บันจอยจรรจงแผลง
อีกบันดลบังเกิดมา
บัลดาลทำให้เกิด
บันเดินเลิศ เดินไปหา
บันโดยเอาอย่างว่า
อีกบันไดใช้ขึ้นเรือน
บันทึกใช้จำจด
บันทึงงดการคอยเพื่อน
บันเทิงเริงรื่นเตือน
บันลือก้องชื่อโด่งดัง
บัญญอหญิงยิ่งแล้ว เจ็ดคำ
ยากยุ่งหากบ่จำ ช่ำช้อง
ใช้บ่อยบ่อยฝึกซ้ำ ดีแก่ นวลแม่
ภาษาไทยคำพ้อง จึ่งล้ำ ความหมาย
บัญจกประชุมห้า
เอาสีมาห้าบัญจรงค์
บัญชรมองตรงตรง
ทางหน้าต่างเห็นตำตา
บัญชาสั่งการรบ
บัญชีจบทางเงินตรา
บัญญัติออกกฎมา
อีกบัญหาปัญหามี