17 มิถุนายน 2551 23:49 น.
วชรกานท์
อยากฝ่าดงพงป่าพนาสณฑ์
เพื่อดั้นด้นค้นหามารศรี
แม้นไม่ตายใคร่ประสบพบเมรี
ขอฤๅษีอย่าแปลงสาส์นเปิดอ่านมัน
ที่เธอรักเพราะแม่และแก้สาส์น
ใช่เพราะฟังคำหวานจากปากฉ้น
เป็นพระรถที่ไร้ค่าคำจำนรรจ์
เฝ้ารอวันหนีห่างให้ร้างรัก
เปิดผอบพบโมรามารศรี
ที่ใจดีมิทำให้ช้ำหนัก
พบคนไกลไม่ใฝ่มอบใจภักดิ์
เธอมีรักจันทโครพเพียงหนึงเดียว
โอ๊ะนั่นกากีที่แสนสวย
รื่นระรวยกลิ่นกายให้หวาดเสียว
นางหลงรักพรหมทัตเพียงองค์เดียว
คนธรรพ์เปลียวดวงแดได้แค่มอง
ตำนานรักผันแปรเทียบแค่ฝัน
ปัจจุบันนิยายรักน่าสยอง
วัฒนธรรมเปลี่ยนไปจากครรลอง
ยุคเงินทองแลกใคร่จากกายมี
วรรณคดีลำนำจำจรจาก
รักจำพรากจากกันตามวิถี
อินเตอร์เน็ตกลิ่นคาววีซีดี
เหลือยิ่งกว่ากากีในลำนำ
11 มิถุนายน 2551 13:47 น.
วชรกานท์
มีอะไรในโลกนี้ที่แน่นัก
แม้มีรักกลายเป็นชังนั่งเหงาหงอย
ญาติพี่น้องพ้องเพื่อนเกลื่อนร้าวรอย
พวกผู้น้อยผู้ใหญ่ไม่กินเส้น
มีอะไรในโลกนี้ที่แน่แท้
พระคุณแม่แน่แท้ที่แลเห็น
ครูอาจารย์ท่านพร่ำให้ทำเป็น
สุดยากเย็นความจริงใจที่ให้กัน
มีอะไรในโลกนี้ที่ไม่ช้ำ
ถูกเติมซ้ำยามว้าเหว่ให้เหหัน
อุปสรรคขวากหนามตามโรมรัน
ให้จาบัลย์ฝันสลายมลายไป
มีอะไรในโลกนี้ที่ไม่หมอง
แม้เคียงครองนานวันยังหวั่นไหว
สิ่งรุมเร้ารายวันให้หวั่นใจ
มีอะไรในโลกนี้ที่แน่นอน
10 มิถุนายน 2551 08:19 น.
วชรกานท์
ตาสบตาคราพบประสพพักตร์
เกิดความรักกานดามารศรี
ตากลมกริ่มยิ้มหวานซ่านฤดี
งามท่าทีวจีนิ่มยิ้มละไม
สกุลหงส์ทรงศักดิ์เหนือปักษี
กุลสตรีดีพร้อมนอบน้อมไหว้
กิริยายามเยื้องย่างคลาไคล
อรทัยดั่งนกยูงสูงศักดา
เธอเดียวดายขาดชายหมายพิชิต
ไร้คู่คิดเคียงคู่อยู่เคหา
เธอเพรียบพร้อมการงานปริญญา
พี่หมายตาดวงใจไว้แอบอิง
แม้นมาเจอไม้งามยามฟ้าสาย
ขอมอบกายใจภักดิ์รักน้องหญิง
ทุกทุกคำที่พร่ำไปจากใจจริง
ขอจับจองใจหญิงสาวนครฯ
30 พฤษภาคม 2551 10:00 น.
วชรกานท์
งานคืองานเงินคือเงินนั้นเพลินสุข
แล้วจะทุกข์เรื่องใดให้ใจหมอง
งานคือเงินเงินคืองานพานเกี่ยวดอง
สิ่งทั้งสองพัวพันพาบรรลัย
อยู่กับงานรักในงานการเรืองรุ่ง
ด้วยหมายมุ่งสรรค์สร้างทางสดใส
งานเดินหน้าเงินตามมาเร็วไว
ชีพสดใสหากแยกได้เงินกับงาน
เงินเงินเงินเงินเงินเพลินอำนาจ
วุธศาสตร์ปัจจัยในพื้นฐาน
งานงานงานงานงานให้ชื่นบาน
งานคืองานเงินคือเงินเจริญตน
ชีวิตคนเกิดมาหาไรเล่า
เพียรพร่ำเฝ้ามรคาสู่มรรคผล
ระหว่างทางเจอมารมาผจญ
จึงระคนอยู่กับงานการแลกเงิน
19 พฤษภาคม 2551 11:26 น.
วชรกานท์
มองมวลหมู่ ผกา งามน่ารัก
ยากสลัก ละเลงเล่น เป็นอักษร
เอาดอกไม้ หลายพันธุ์ สรรค์เป็นกลอน
กล่าวออดอ้อน ลำนำ ตามหทัย
เอาดอกรัก มาปักวาง กลางใจเจ้า
กลิ่นสาเหล้า หอมหวล ชวนหลงใหล
ดอกพิกุล ร่วงโรยหล่น ลงเรียงราย
ดอกคุณนาย ตื่นสาย สีลานตา
ดอกจำปูน จำปี มีสีกลิ่น
อินทนิล บานเบ่ง งามนักหนา
มองกล้วยไม้ ใกล้ม้วย มรณา
กระดังงา ลนไฟ ให้ชวนดม
ดอกบานชื่น ระรื่นใจ หากได้เด็ด
ดอกชุมเห็ด ทำยา รสพาขม
ดอกเฟื่องฟ้า เริงร่า ดูน่าชม
ดอกลั่นทม ชื่อนี้ มิสุขใจ
ดอกกุหลาบ กำหราบ ให้หลาบจำ
หนามเจ้าตำ มือพี่ นี้ร่ำไห้
ดอกยี่หุบ ให้หดหู่ อยู่ภายใน
สุขหทัย ดอกไม้ มาให้มอง
พวงชมพู ชูช่อ บานล้อเล่น
ดอกบานเย็น สีสดสวย ไม่เป็นสอง
ดอกดาวเรือง เหลืองอร่าม งามเรืองรอง
มุ่งหมายปอง หมู่ผกา วิลาวัณย์
ใคร่อยากเด็ด ดอกใด ไม่กล้าเด็ด
มองชุมเห็ด พวงชมพู ชูช่อสั่น
อยากดมกลิ่น กระดังงา มาหลายวัน
ถูกขวางกั้น ด้วยดาวเรือง ชำเลืองค้อน
หลงในหมู่ มาลี สีสดสวย
กลิ่นระรวย แรกแย้ม ยั่วสลอน
บ้างโดนดูด น้ำหวาน ผ่านภมร
บ้างผสม เกสร ก่อนโรยรา