24 มีนาคม 2547 18:49 น.
ลูกเป็ดขี้เหร่
...เพราะหัวใจไม่หนักแน่นเช่นแผ่นหิน
จึงโบยบินสู่ฝันอันเหลวไหล
รู้สึกตัวลืมตาเมื่อช้าไป
แทบสิ้นไร้ศรัทธาคุณค่าตน
...คล้ายชีวิตติดหล่มโดนถมทับ
ทนแบกรับกับทิศทางอย่างสับสน
เพียงดื้อรั้นดันทุรังไม่ฟังคน
ยอมรับผลเมื่อตนแพ้แต่โดยดี
...หนึ่งสำนึกรู้สึกแน่ว่าแย่แล้ว
กำลังแผ่วเกินผ่อนย้อนวิถี
เหมือนหนทางรันทดหมดวิธี
กลายเป็นผีไร้หลักหวังพักพิง
...เมื่อมาคิดผิดแล้วไม่แคล้วซ้ำ
หรือผลกรรมเคยทำไว้ในทุกสิ่ง
หยุดคิดเถอะถ้าเลอะเลือนเบือนความจริง
ข่มใจนิ่งได้แน่ค่อยแก้ทาง
...ก็จริงที่สำนึกผิดคิดเมื่อสาย
ยังมีบ่ายเย็นค่ำย่ำฟ้าสาง
ลุกขึ้นสู้อย่างผู้แพ้แม้เลือนลาง
ดีกว่าคว้างขลาดจะคว้าอย่างน่าอาย
10 มีนาคม 2547 21:19 น.
ลูกเป็ดขี้เหร่
เมฆคลุมฟ้ามาครึ้มฝนจนใจขาด
พระจันทร์สาดผ่านจนแสงหมดแรงส่อง
มรสุมเมื่อรุมซ้ำยิ่งย้ำตรอง
หรือจะต้องรอจนตายจึงกลายดี
โอ้อกเราอุ่นไอรักในพักก่อน
ใยกลับย้อนอย่างเกินยั้งยากรั้งหนี
อุปสรรคอันประสบไม่พบวิธี
คงเกินที่คิดแก้ทางทำอย่างไร
อยู่ท้อแท้อย่างทุกข์ทนสับสนยิ่ง
พอเอาจริงเพียงอับจนมนหม่นไหม้
ปากพร่ำเพ้อเปล่าพึ่งพาสองขาใคร
กลับหวั่นไหวกลัวเหว่ว้าน้ำตาริน
พล่ามแต่ปลอบพูดต่อไปคงใกล้สว่าง
เมื่อฟ้าสางเม็ดฝนซาย่อมน่าถวิล
ฟ้าเปิดทางฝันเปลื้องท้อแรงพอบิน
คงสูญสิ้นความสับสนใจตนเอง
ชังต้องปลอบชอบแต่ปดหวังหมดทุกข์
มิกล้าลุกมันกลัวรู้ ใช่กูเก่ง
หากนี่หรือให้น้อมรักเลือดนักเลง
เมื่อหวั่นเกรงมุ่งหวาดกลัวในตัวตน
7 มีนาคม 2547 19:06 น.
ลูกเป็ดขี้เหร่
กลับมาซบกบดานที่บ้านเก่า
เคยหยิบเหงาเย้างอนป้อนคำหวาน
ร้างถิ่นเกิดพื้นฐานกลอนจรไปนาน
ภาพเหตุการณ์จะหวนกลับนับแต่นี้
คำยังไม่พัฒนาเนื้อหาน้อย
แง่คิดด้อยร้อยคำเบาไม่เข้าที่
กลับมาทวนท่วงทำนองตรองวิธี
หวังผลดีผลักดันความมั่นใจ
อยากรู้ว่าจากวาน วันผ่านผัน
ความสัมพันธ์แปรเปลี่ยนสักเพียงไหน
คำเคยหว่านความเคยหวานผลงานใด
ตราตรึงในดวงจิตมิตรนักกลอน
เพียงมาพบผองเพื่อนเพื่อเตือนย้ำ
หวังยังจำกันได้ในคราก่อน
รอไมตรีต้อนรับกลับรังนอน
ฝากบทกลอนวอนเว้าเพื่อนเข้าใจ