30 มกราคม 2552 20:51 น.
ลุงแทน
เรื่องจริง ลุงแทนนำเพื่อให้พวกเราช่วยกัน เพื่อสังคมไทยที่น่าอยู่ และดีขึ้นบ้าง ไม่มากก็น้อย
หากความรักและที่พึ่งสุดท้ายของมนุษย์คือไออุ่น จากครอบครัว แต่สำหรับเด็กหญิงสองคนนี้ กลับต้องเผชิญฝันร้ายจากคนที่ตัวเองเชื่อใจที่สุด
‘บ้านแตก’ นี่คือเรื่องเศร้าแรกของสองพี่น้อง ‘ดวง’ วัย 10 ขวบ และ ‘เดือน’ ในวัย 9 ขวบ เมื่อ พ่อไม่เคยใส่ใจครอบครัวและมีเรื่องชู้สาวบ่อยครั้ง วันหนึ่งแม่จึงตัดสินใจหย่าขาดแล้วหนีหน้าหายไป โดยทิ้งพวกเขาให้อยู่กับพ่อซึ่งยึดอาชีพกรรมกรก่อสร้าง ต้องย้ายที่ทำงานไปเรื่อยๆ ดวงกับเดือนจึงไม่เคยมีบ้านเป็นหลักแหล่ง หรือเรียนหนังสือเหมือนเด็กคนอื่น แต่สิ่งเหล่านี้ยังเทียบไม่ได้กับความรู้สึกที่ว่า พ่อไม่รักไม่ใยดี
หลังจากนั้นเหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายลงอีก เมื่อ เพื่อนคนงานของพ่อฉวยโอกาสข่มขืนดวงอย่างทารุณ เมื่อเจ้าตัวรู้แทนที่จะแจ้งความ เขากลับไม่กล้าเอาผิดเพื่อนรัก คนใจโฉดจึงได้ใจ แล้วล่วงเกินดวงซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยไม่สนใจเดือนที่ร้องไห้ขอความเมตตาให้พี่สาวอยู่ข้างๆ
หลังจากนั้นดวงกับเดือนได้รับข่าวดีว่า ปู่กับย่าตัดสินใจรับพวกเขาไปอยู่ด้วย ต่อจากนี้เรื่องร้ายๆ คงจบลงเสียที แต่ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น เพราะจุดประสงค์ที่แท้จริงของปู่ย่าคือ การบังคับให้เด็กๆ รับจ้างทำงานตั้งแต่เช้าจนถึงมืด เพื่อให้ตัวเองมีเงินซื้อเหล้ากิน สองพี่น้องจึงไม่ต่างกับนักโทษที่คอยรับคำสั่งเท่านั้น
วิบากกรรมไม่หยุดอยู่แค่นั้น ทุกครั้งที่ปู่กับย่ากินเหล้าจนขาดสติ ทั่งคู่จะตบตีหลานๆ อย่างไร้เหตุผล เรื่องน่าเศร้ากว่าคือ ดวง ต้องเผชิญกับฝันร้ายที่อยากลืมอีกครั้ง เมื่อโดนปู่บังคับขืนใจ พอขัดขืนก็ถูกชายชราทุบตีอย่างโหดเหี้ยม ส่วนเดือนที่เข้าไปช่วยก็พลอยโดนลูกหลงไปด้วย เด็กน้อยทำอะไรไม่ได้ นอกจากร้องไห้และดูพี่สาวถูกย่ำยีอยู่อย่างนั้น
ที่บ้านเช่า ดวงนอนร้องไห้อยู่บนพื้นห้อง นับจากวันนั้นเธอต้องตกเป็นเหยื่อรองรับความต้องการของปู่อีกนับครั้งไม่ ถ้วน หากไม่นับเดือนที่พยายามดูแลและให้กำลังใจ ชีวิตของดวงก็ไม่เหลือใครอีก เพราะนอกจากย่าที่ไม่คิดช่วยเหลือ พ่อแม่บังเกิดเกล้าก็ไม่เคยกลับมาเยี่ยมเยียน วันพรุ่งนี้ของสองพี่น้องจึงดูมืดมนและไร้ทางเดินต่ออย่างสิ้นเชิง บางทีการทำใจยอมรับอาจเป็นวิธีเดียวที่เหลืออยู่
เพราะในโลกที่โหดร้ายใบนี้ คงไม่มีสักคนที่รักพวกเขาอย่างแท้จริง
ในที่สุดดวงกับเดือนอาศัยช่วงที่ปู่กับย่าไปทำธุระข้างนอก หนีไปอยู่กับเพื่อนบ้านใจดีที่ช่วยแจ้งมูลนิธิช่วยเหลือเด็ก จังหวัดขอนแก่น ให้เข้ามาช่วยเหลือ สองพี่น้องจึงได้ย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ที่มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิ เพื่อนๆ และครอบครัวที่มีความรักให้พวกเขาอย่างแท้จริง
จาก ฮันสา เสนอโดย SiamTrue.com
! แสดงข้อความ
29 มกราคม 2552 19:25 น.
ลุงแทน
เรียงความเรื่อง “พ่อของฉัน”
โดย เด็กหญิง รุจิรา เลิศศิริวรกุล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2
ร.ร.สาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มอดินแดง)
หมาย เหตุ : เรียงความบทนี้ ได้รับมาจากเพื่อนผู้ปกครอง ซึ่งเห็นว่า ผู้เขียนสามารถถ่ายทอดความรู้สึกที่มีต่อพ่อได้เป็นอย่างดี แม้จะเป็นเพียงนักเรียนมัธยม จึงได้ขออนุญาตนำมาเผยแพร่ในเว็บไซต์นี้
คำว่า”พ่อ” คนส่วนมากคงคิดถึงเพศที่เข้มแข็งและปกป้อง แต่สำหรับฉัน”พ่อ” หมายถึง
ผู้ที่มีเมตตา กรุณา และสอนฉันด้วยเหตุผลไม่ใช้กำลังเป็นเครื่องตัดสิน สอนให้ฉันรู้จัก “3 พ.” คือ พอเพียง พึ่งพา และพิจารณา ฉันเชื่อว่าคำสอนทั้ง “ 3 พ.” นี้เพียงพอสำหรับการสร้างเด็กน้อย 2 คนนี้ ที่ได้ชื่อว่า เป็นลูกพ่อให้เป็นคนดีในอนาคตได้
พ.แรก ที่พ่อสอนคือ “พอเพียง “ ซึ่งไปสอดคล้องกับแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จ
พระ เจ้าอยู่หัวฯ ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง คือ สอนให้ฉัน รู้จักประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้ม กันตนเอง รู้จักประมาณฐานะของตนเอง ว่าควรปฏิบัติตน และใช้จ่ายอย่างไรจึงจะเหมาะสม (ถ้ายังทำตัวไม่เหมาะสม ก็ควรปฏิวัติเสีย ชีวิตจะดีขึ้น) รู้จัก ใช้เหตุผลในการตัดสินใจในเรื่องต่างๆในชีวิตประจำวัน เพราะถ้าเราขาดการตัดสินใจที่ดีอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ในอนาคตได้ และพ่อยังคอยดูและสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกๆ รู้จักป้องกันตัวเองจากสิ่งแวดล้อมที่เย้ายวน หรือ ล่อแหลมให้หลงผิดได้
พ.ตัวที่สองคือ “พึ่งพา” บางคนอาจเข้าใจผิดว่า พ่อสอนให้ฉันพึ่งพาคนอื่น แต่มันกลับ
ผิดกันโดยสิ้นเชิง เพราะพ่อสอนให้ฉัน พึ่งพาตนเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ คำสอนของพ่อ พ.นี้ ทำให้ฉันรู้จักทำงานด้วยตัวเอง คิดเอง ทำเอง และพึ่งตนเองเป็นอันดับแรก เพราะในสังคมปัจจุบันมีการแข่งขันสูง เราจึงต้องพึ่งพาตนเองให้ได้มากที่สุด(นี่เป็นการที่พ่อมองการณ์ไกล)และฝึกให้ลูกทำตั้งแต่เล็กจนโต
พ.ตัวที่สาม คือ “พิจารณา” คำว่าพิจารณาคงไม่ได้เกี่ยวกับความผิดเพียงอย่างเดียว
หรือการให้ผู้อื่นมาตัดสินตัวฉันก็คงไม่ใช่ เพราะพ่อสอนให้ฉันพิจารณาตนเองอยู่เสมอ ความหมายของข้อนี้ก็คงจะไปสอดคล้องกับ พ.ตัว ที่สอง คือ พ่อสอนให้พึ่งพาตนแล้วก็มักมีเรื่องผิดพลาดบ้าง พ่อก็จะสอนให้พิจารณาความผิดนั้น และหาข้อแก้ไข หรือปรับปรุงด้วยตัวฉันเอง
การสอนพ่อนั้นคงไม่มีกฎหรือทฤษฎีที่ตายตัว แต่พ่อมักยกตัวอย่างข้อผิดพลาดที่เกิด
จาก ตัวท่านเอง หรือเกิดจากผู้อื่นมาสอนฉันและความผิดของฉันด้วย ทำให้ฉันต้องทำงานมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด พ่อ คือ ผู้สอนวิชาดำเนินชีวิต แต่ท่านก็ไม่เคยทิ้งการเรียนในห้องเรียน เพราะท่านพูดเสมอว่า”ความรู้เท่านั้นที่ใช้ในการอยู่รอดในสังคมที่วุ่นวายนี้ได้ “ ท่าน ทุ่มสุดตัวเพื่อให้ลูกเรียนรู้ในสิ่งที่ดี แม้ต้องทำงานหนักเพียงใด ท่านก็ต้องดูแลต้นไม้สองต้นนี้ คือ ลูกๆของท่านให้เติบโตเป็นต้นไม้พันธุ์ดีต่อไปในอนาคต สุดท้ายนี้ลูกคงไม่มีคำหวานคำใดที่ลูกจะมอบให้พ่อ นอกจากคำว่า “ลูกรักพ่อ”และพ่อคงไม่ใช่ผู้ชายในฝันของฉัน เพราะฉันเกิดมาก็เห็นหน้าพ่อที่แสนดีของฉันแล้ว
ข้อความนี้เป็นเพียงเศษเสี้ยวของความประทับใจจากลูกค่ะ
เด็กหญิง รุจิรา เลิศศิริวรกุล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2
ร.ร.สาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มอดินแดง)
28 มกราคม 2552 18:13 น.
ลุงแทน
....มหาโรรุวมหานรก ห่างไกลจากโรรุวมหานรกลงไปในภายใต้ประมาณได้ ๑๕,๐๐๐ โยชน์ นรกขุมนี้มีอายุ ๘,๐๐๐ ปีนรก เทียบกับเมืองมนุษย์ได้ ๙๒๑๖ ล้านปีเป็น ๑ วันของนรกขุมนี้ ปรากฏว่ามหาโรรุวมหานรกประดิษฐานอยู่เหล่าสัตว์ผู้ไปเกิดเป็นสัตว์นรกในมหา นรกขุมนี้ ย่อมถูกลงโทษโดยวิธีให้ยืนแข็งทื่ออยู่ในดอกบัวเหล็กตั้งบานสะพรั้งเหมือน กันเป็นดอกบัวที่น่าหวาดกลัว ไม่น่าชม ใกล้ ๆ ดอกบัวมีแหลนหลาวปักเอาปลายขึ้น มีไฟลุกโชนเหมือนกัน ดอกบัวนี้ไม่งับไม่กางงับไม่สนิทเหมือนดอกบัวขุมก่อน ขุมก่อนงับสนิทหนีไม่ได้
ดอกบัวขุมนี้กลีบแต่ละกลีบคมเป็นกรดคมมากกว่าขุมก่อน มิหนำซ้ำยังร้อนแรงมากกว่าสัตว์นรกขึ้นไปบนนั้นแล้วถูกความร้อนเผาเพราะ อำนาจความร้อนเต้นเร่า ๆ ๆ เต้นไปเต้นมากลีบดอกบัวมันก็บาดเข้าไปในเนื้อไฟก็เผาชะแลบแล่เนื้อหนังหล่น ลงมา หมานรกก็คอยกินเนื้อหนังสัตว์เหล่านั้นอยู่ข้างล้าง บ้างก็หล่นลงมาถูกแหลนหลาวเสียบไฟก็เผาเนื้อหล่นลงมาหมาก็มารุมกิน รุมแทะเหลือแต่กระดูก ไม่ตายหรอก พอเหลือแต่กระดูกมันเจ็บแสบเหลือเกิน ร่างกายจับเข้าเป็นกายใหม่ พอเป็นกายเต็มแล้ว นายนิริยบาลก็เอาหอกเที่ยวไล่แทง บังคับให้ขึ้นไปอยู่บนดอกบัวอีก
ทำให้สัตว์นรกได้รับความทุกข์ทรมานเป็นอย่างยิ่ง ส่งเสียงร้องโอดโอยครวญครางเสียงดังมากกว่ามาก ฉะนั้นมหาโรรุมหานรกขุมนี้จึงมีชื่อว่า มหาโรรุวมหานรก นรกขุมใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยเสียงร้องครวญครางมากกว่ามาก ถ้าจะถามว่าสัตว์เหล่านี้ต้องโทษอะไร ก็คือกรรมบถ ๑๐ ยังไงล่ะ
28 มกราคม 2552 12:01 น.
ลุงแทน
ข้อดีของความทุกข์
1.ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น
2.ทำให้รู้ถึงค่าของความสุข
3.ทำให้เรามีความสามารถมากขึ้น
4.ทำให้เรามีสิ่งที่ต้องทำ(ทำเพื่อให้หาย
ทุกข์ )
5.ทำให้เรามีประสบการณ์ในการแก้ปัญหามาก
ขึ้น
6.ทำให้เรามีความอดทนมากขึ้น
7.ทำให้ความสุขมีค่ามากขึ้น
8.ทำให้มีความระมัดระวังมากขึ้น
9.ทำให้เรามองโลกกว้างมากขึ้น
10.ทำให้เราเห็นได้ว่าใครคือคนที่เป็นที่พึ่งยาม
ยากของเรา
11.ทำให้เราได้รู้ว่ามีใครบ้างที่ห่วงเรา
12.ทำให้เราได้รู้ว่ามีใครบ้างที่เป็นมิตรแท้ของเรา
13.ทำให้รู้ได้ว่าเพื่อนของเรามีความสามารถแค่ไหน
14.ทำให้เรารู้ว่าใครมีความสามารถขนาดไหน
15.ทำให้เรารู้ได้ว่ามีคนไหนที่รักเราจริง
16.ทำให้เรารู้ว่าการหัวเราะเป็นสิ่งจำเป็น
17.ทำให้เราพยายามที่จะมองโลกในแง่ดีมาก
ขึ้น
18.ทำให้เรามาค้นหาข้อดีของความทุกข์
ที่มา : admin
เจ้าของบทความ : ไม่ทราบชื่อ
28 มกราคม 2552 11:51 น.
ลุงแทน
กระดาษห่อของขวัญทายใจ
เวลาที่คุณเลือกกระดาษห่อของขวัญเพื่อห่อของให้ใครซักคน คุณดูที่ความสวยและความชอบ แต่หารู้ไม่ว่ากระดาษแต่ละแบบนั้น
บอกถึงนิสัยของคุณได้ ลองเลือกกันดูดีกว่า ว่าคุณชอบกระดาษแบบไหน ?!
1. กระดาษกราฟฟิค
2. กระดาษสา
3. กระดาษแก้ว
4. กระดาษหนังสือพิมพ์
5. กระดาษสีเดียว
6. กระดาษภาพเขียน
7. กระดาษลายจุด
8. กระดาษการ์ตูน
9. แบบไม่ห่ออะไรเลย
เลือกข้อ 1. กระดาษกราฟฟิค
ชอบเหลือเกินกับกระดาษกราฟฟิคเท่ห์ๆ หรือลายวงกลม รูปทรงต่างๆ คุณเป็นคนที่ชอบอะไรออกแนวก้าวล้ำนำสมัยไอที และไฮเทค
โทรศัพท์มือถือต้องรุ่นล่าสุด เสื้อผ้าน่ะต้องอินเทรนตลอดไม่มีเอาท์ หรือจะชอบเรื่องแชท เข้าเว็ปไหนรู้ไปซะหมด รักความสนุกสนาน
ชอบการท่องเที่ยวผจญภัย แต่ไม่ใช่คนติดเพื่อนแบบเฮไหนชั้นต้องเฮนั่นหรอกนะ มีความมั่นใจในตัวเองสูง มีไอเดียเริ่ดๆเด็ดๆ แล้วเธอยังชอบพรีเซนท์ในที่สาธารณะชน
เลือกข้อ 2. กระดาษสา
คนช่างเลือกแม้แต่กระดาษห่อของขวัญเธอยังเลือกอะไรที่ได้มาจากธรรมชาติเลย อย่างเช่น กระดาษสานี่ไง ทายได้ว่าเป็นคนอารมณ์สุนทรีย์ รักสายลมแสงแดด ชอบฟังเพลงอยู่เงียบๆมากกว่าออกไปเฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อนฝูง
คล้ายว่าโลกใบนี้เป็นของเธอคนเดียว ในทางกลับกัน เธอเป็นคนมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ โรแมนติกพอตัว ไม่ค่อยชอบทะเลาะเบาะแว้งกับใคร สิ่งที่เะอมักจะถอยห่างคือความขัดแย้ง
เรื่องชุลมุนหรือเวลามีคนไปเกี่ยวข้องเยอะๆ
แต่ถ้าโมโหขึ้นมาล่ะก็...น่ากลัวไม่น้อยเลย
เลือกข้อ 3.กระดาษแก้ว
สำหรับคนที่ชอบห่อของขวัยด้วยกระดาษ แก้วไม่ว่าจะเป็นแบบไหน หรือสีไหนก้ตาม เป็นคนที่สนใจสิ่งต่างๆรอบตัว ชอบเรียนรู้นิสัยมากกว่าหน้าตาภายนอก เด็ดเดี่ยว มีจุดมุ่งหมายในชีวิต ไม่สนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่จะให้ความสำคัญกับเรื่องใหย่ๆมากกว่า
บางครั้งออกเว่อร์ หลงตัวเองนิดๆ และออกจะอ่อนไหว sensitive ชอบแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง
เลือกข้อ 4.กระดาษหนังสือพิมพ์
เป็นคนขี้กลัวไม่ชอบให้ใครเข้ามายุ่งเกี่ยว ดูผิวเผินออกเข้มแข็ง จริงๆแล้วเป็นคนไม่กล้าตัดสินใจ กลัวสิ่งที่ตัวเองคิดจะเป็นผลร้ายแก่ตัวเอง เป็นคนที่ชอบเห็บไม่ว่าเรื่องเล็กๆน้อยๆ กระจิดริดจนไปถึงเรื่องใหญ่ รักสนุก ชอบการท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ เป็นคนที่ไม่ชอบผูกติดกับใคร ชอบอะไรง่ายๆ สบายๆ เป็นตัวของตัวเอง
เลือกข้อ 5.กระดาษสีเดียว
คนที่ชอบเลือกกระดาษห่อของขวัญเป็นกระดาษเรียบๆ พื้นๆ สีเดียว เป็นคนที่รักอิสระสูง ดูเหมือนจะเป็นคนเรียบๆง่ายๆ แต่ความจริงไม่ง่ายอย่างที่เห็น เป็นคนช่างเลือก พิถีพิถันเป็นสิ่งเล็กน้อย รักความสะอาด อ่อนไหว ขี้น้อยใจ บางครั้งดูจุกจิกจู้จี้ ขี้บ่นเล็กๆน้อยๆ แต่ไม่บ่อย ปล่อยสบายๆในบางเรื่อง ค่อนข้างชอบอะไรไม่เหมือนใคร อยากแตกต่างแต่ไม่อยากเด่นจนเกินเหตุ เป็นคนใจคอกว้างขวางต่อคนรอบข้าง
เลือกข้อ6. กระดาษภาพเขียน
ดูภายนอกเหมือนเป็นคนสดใส ร่าเริง อารมณ์ดี แต่ข้างในขี้โมโห ดื้อ อ่อนไหวง่าย น้อยใจ ชอบเรียกร้องความสนใจคนรอบข้าง
บางเวลาเธอมั่นขึ้นมาเมื่อไหร่ใครก็ห้ามเธอไม่อยู่ มีความฝันไม่ชอบลอกเลียนแบบใคร ลึกๆแฝงความอ่อนโยนไว้ภายใน แต่ไม่ชอบแสดงออกซักเท่าไหร่ รู้ตัวป่าวว่าเป้นคนโรแมนติก แต่ก็ไม่ชอบแสดงออกอีกนั่นแหล่ะ มีแอบบ้างเล็กๆน้อยๆ ที่สำคัญคือเธอเป็นคนที่มีอัธยาศัยดี แถวยังพูดเพราะอีกด้วย
เลือกข้อ7. กระดาษลายจุด
ห่อของขวัญด้วยกระดาษลายจุดล่ะก็ เจ้าชู้ไม่เบา แต่ไม่แสดงออกนอกหน้านัก รักคนง่าย แต่ก็ลืมง่ายเหมือนกัน จิตใจอ่อนโยน เอื้ออาทรต่อคนรอบข้างเสมอ บางครั้งอาจติดหนึบกับเพื่อนมากเกินไป มีงอแง เอาแต่ใจตัวเองบ้างเป็นครั้งคราว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเอยู่คนเดียวไม่ได้หรอกนะ เธอน่ะอยู่คนเดียวได้เพราะเธอเป้นคนช่างคิด ชอบใช้สมอง มักมองโลกในแง่ดี ไม่ค่อยมีความคิดร้ายๆกับใครเค้า แถวยังมีรสนิยมหรูซะด้วย
เลือกข้อ 8. กระดาษลายการ์ตูน
คุณเป็นคนร่าเริง สดใส ไม่ชอบเรื่องซีเรียสปวดสมอง แต่ก็มีสาระนะ มีความเป็นเด็กคิขุซ่อนอยู่ในตัวเอง อ่อนโยน ใจดี บางครั้งก็ดื้อพอตัวทีเดียว ชอบมีคนมาเอาอกเอาใจ บางครั้งก็หงุดหงิด อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย ชอบเที่ยว ชอบสนุก ไม่ชอบความซ้ำซากจำเจ
เป็นสาวช่างฝัน มีจินตนาการกว้างไกล ชอบยุกยิกมากกว่าอยู่เฉยๆ
เลือกข้อ 9. แบบไม่ห่ออะไรเลย
ใครที่คิดว่าการห่อเป็นเรื่องไม่จำเป็นละก็...
ทายได้ว่าเป้นคนนึกถึงความสำคัญด้านจิตใจมากกว่าสิ่งที่เห็นเพียงฉาบฉวย เป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี ชอบรู้จักกับคนเยอะๆ ยิ่งได้พูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดล่ะก็ ยิ่งชอบมากเลย
แต่บางอารมณ์ดูเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ แสวงหาสิ่งใหม่ๆ ท้าทาย ผจญภัย ชอบการท่องเที่ยง อยากรู้อยากเห็นสิ่งแปลกใหม่ ประเภทมือซน
งัดแงะแกะเกา
ที่มา : อะตอม
เจ้าของบทความ : ไม่ทราบชื่อ
หน้าส่วนตัว
Lovers
0 คน เลิฟลุงแทน
1382
