29 ตุลาคม 2551 06:58 น.

นำมาฝาก

ลุงแทน

ถ้าวันนี้ไม่คืบหน้าหนึ่งก้าว
พรุ่งนี้อาจต้องถอยหลังหลายก้าว

ความคืบหน้าเป็นเครื่องแสดงหลายสิ่ง
สะท้อนตัวตนที่แท้จริงได้ดี
ทั้งความมีใจรัก
ทั้งความฝักใฝ่อุตสาหะ
ทั้งความไม่ละเลยประเมินผล
ทั้งความไม่ยอมจำนนย่ำกับที่
เพียงมีความคืบหน้าอย่างเดียว
ก็เก็บเกี่ยวหลายคุณสมบัติเข้าตัว
ไม่ต้องกลัวเกิดมาเสียเที่ยวเปล่า

ความคืบหน้าจะมีขึ้นไม่ได้
หากเป้าหมายไม่โดดเด่น
มองไม่เห็นว่ารอยเท้าของก้าวนี้
ห่างจากที่หมายปลายทางเพียงใด
มาไกลจากจุดเริ่มต้นแค่ไหนแล้ว
เป้าหมายจึงสำคัญ
ไม่แพ้การเอาจริงเพื่อลุถึงเป้าหมาย
ใครยังหาเป้าหมายไม่เจอ
หรือยังตั้งเป้าหมายไม่ชัดพอ
ก็ไม่รู้ว่าตนกำลังคืบหน้าหรือคืบหลังกันแน่

เทียบกับสิ่งมีชีวิตอื่น
ความเป็นมนุษย์คือโอกาสทอง
มีสองตาเหมาะจะเล็งไปข้างหน้า
กับสองเท้าที่ไม่เหมาะจะตั้งท่าถอยหลัง
แถมยังสองมือพร้อมให้คิดป่ายปีนขึ้นสูง
ทุกส่วนจูงใจให้ใฝ่ทะยาน
ไม่ใช่หนุนให้คืบคลานเรื่อยเปื่อยไร้ทิศ

คนที่เอาแต่นั่งเท้าคางรอ
หวังว่าความก้าวหน้าจะถลามาหาเอง
คือคนที่ไม่เ**สำรวจความเป็นมนุษย์
ไม่เ**ขุดค้นสมบัติในตน
ในที่สุดจะเป็นคนคนหนึ่ง
ที่เข้าแถวเรียงเตรียมไหลลงต่ำ
สู่ความเสื่อมจากศักยภาพ
หรือสู่ความเสื่อมจากภูมิมนุษย์

------------------------------------------------------

มนุษย์เรา จัดเป็นพวก 'บุญพอ' จึงได้มีโอกาสเกิดในภพภูมินี้ เป็นมนุษย์นี่เลือกทำอะไรได้ยิ่งกว่าภพภูมิไหน ๆ ทั้งหมด อยากเสวยสุขสนุกพิสดารหลากหลายไม่ซ้ำซากจำเจ ก็ต้องที่นี่ อยากเปลี่ยนนิสัยที่ส่งสมข้ามภพข้ามชาติมานาน ก็ต้องที่นี่ อยากช่วยคนเอาบุญหลังสวรรค์ ก็ต้องที่นี่ อยากสั่งสมเสบียงเตรียมเดินทางไกล ไปในท่ามกลางอันตรายของการเวียนว่ายตายเกิด ก็ต้องที่นี่ หรือ กระทั่งอยากถึงความสิ้นสุดทุกข์ ก็ต้องที่นี่
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า คนที่ตายแล้วไปสู่ภพภูมิตั้งแต่มนุษย์และสูงกว่ามนุษย์ขึ้นไป มีจำนวนเท่า 'เขาโค' แต่ ผู้ที่ตายแล้วไปอบายมีจำนวนเท่า 'ขนโค ' ฉะนั้นมนุษย์เราส่วนใหญ่ตายแล้ว ส่วนใหญ่ไปตกสู่ 'อบายภูมิ' (ไม่ว่าจะไป ตกสภาพ 'เปรต' ในนรก หรือ 'เดรัจฉาน' ที่หลงความคิดอยู่ตลอดชีวิต...ไม่มีโอกาส 'รู้สึกตัว' )

เห็นๆกันอยู่ ว่าถ้าเกิดเป็นสัตว์ที่ต่ำต้อยกว่ามนุษย์แล้ว ก็แทบไม่มีโอกาสเลือกใช้ชีวิตให้เป็นสุขกว่าเมื่อแรกเกิดสักเท่าใด ส่วนใหญ่ต้องก้มหน้าก้มตามองหาชะตาชีวิตของตนเองเอาจากดินดานประการเดียว เพราพวกมัน 'ไม่มีบุญ' หรือ 'บุญไม่พอ' ฉะนั้นว่ากันไม่ได้ หากหาความสุขเข้าตัวยาก

เมื่อได้เกิดมาใน ภพภูมิมนุษย์แล้ว เราต้องตั้งคำถามให้กับตัวเอง ว่า "เกิดมาทำไม" "คุณค่าที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหน" เพราะว่า ความรู้จริงเกี่ยวกับเรื่องของตนเองเป็นสาระแก่นสารที่ประเสริฐกว่าอะไรอื่น อุตส่าห์เป็นเจ้าของอัตภาพมนุษย์ที่ทำกรรมโกยกุศลเข้าตัวได้สารพัดชนิด แล้วอย่างนี้ ให้ใช้ชีวิตแบบมีชีวิตที่เริ่มต้นใหม่ในทุกวัน เช่น ทำความดีเมื่อวาน วันนี้ ก็ต้องทำเพิ่ม, ความชั่วที่ทำไว้ เมื่อวาน วันนี้ก็ต้องไม่ทำอีก อย่ามัวเสียเวลาย้ำคิดในสิ่งผิดพลาดที่หวนไปแก้ไขไม่ได้ ให้ยอมรับว่า สิ่งที่ผ่านเข้ามาทุกอย่าง ยุติธรรมที่สุด อีกไม่นานมันก็จะต้องผ่านพ้นไป ทั้งสุขทุกข์ล้วนเป็นของชั่วคราว ฉะนั้น ต้องเข้มแข็ง

ให้ทำที่ปัจจุบัน เพื่อสร้างเหตุแห่งอนาคต แล้วถามว่าชั่วอายุขัยของความเป็นมนุษย์ นี้ เราได้เรียนรู้อะไรมาบ้าง สั่งสมอะไรไว้บ้าง เพื่อการเดินทางไกลในครั้งต่อไป …



ประโยคทิ้งท้าย :

"เรือที่ฝ่าคลื่นอยู่กลางมหาสมุทร
จะแล่นถึงฝั่งได้
นายเรือจะต้องตั้งจุดหมายปลายทางไว้ถูกต้อง
และรู้จักควบคุมหางเสือให้เรือวิ่งไปไม่ผิดทิศทางฉันใด
คนเราจะประสพความสำเร็จในชีวิตได้
ก็จะต้องตั้งตนชอบฉันนั้น"

"อุบาสิกา...ณชเล"				
29 ตุลาคม 2551 06:48 น.

ธรรมะยามเช้า

ลุงแทน

หัวข้อ : ธรรมะยามเช้า
ข้อความ : นี่เป็นหลักธรรมครับ....ศาสนาอื่นผมว่าก็ดูได้น่ะ อ่านแล้วก็ลองเก็บเอาไปคิดละกัน (ฉบับนี้ตัดทอนแล้ว)
สติทำให้เกิดสมาธิ และสมาธิทำให้เกิดปัญญา ปัญญาที่มีสมาธิเป็นฐานนั้นจะมีพลังมากมีอานิสงส์มาก พระพุทธเจ้าตรัสรู้ เพราะปัญญา แต่กว่า จะตรัสรู้ได้ พระพุทธเจ้าต้องเจริญสติบำเพ็ญสมาธิ เพราะฉะนั้นฝึกสติให้อยู่กับปัจจุบันอย่าใจลอย ใจต้องอยู่กับเรื่องเฉพาะหน้า ที่ต้องทำ ท่านจะมีสมาธิ แล้วสมาธินั้นทำให้เกิดปัญญา ปัญญาที่นำมาใช้ในชีวิต ประจำวัน เรียกว่าสัมปชัญญะ
สัมปชัญญะก็คือปัญญาเฉพาะเรื่องนั่นเอง ปัญญาคือความรอบรู้ ส่วนสัมปชัญญะ ก็คือความรู้ชัดรู้จริงที่นำมาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าขณะนั้นได้ ถ้าสติไม่มาปัญญาก็ไม่เกิด สติมา ปัญญาเกิด สติเตลิดก็เกิดปัญหา
ตัวอย่างในการแก้ปัญหา เช่น ตึกถล่มที่รอยัลพลาซ่าโคราช ทุกคนในอาคาร ตกอกตกใจ บางคนช็อควิ่งพล่าน แต่มีคนคนหนึ่งรอดมาได้ เขากำลังกวาดพื้นอยู่ พอเสียงลั่นครืน แกกระโดดวิ่งไปหาเสาใหญ่ ไปหลบที่เสาเพราะคานมันจะหล่น พอคานหล่นมาก็คร่อมแกไว้ แกอยู่พิงเสาไม่ได้วิ่งไปไหน มีสติเพราะฝึกไว้ แต่บางคน ฝึกแล้วยังตกใจทำอะไรไม่ถูก สติไม่มาปัญญาก็ไม่เกิด
สติกับสัมปชัญญะต้องมาด้วยกัน สติคือความรู้ทัน สัมปชัญญะคือความรู้เท่า ความรู้เท่าหมายถึงรู้เท่าถึงการณ์ เห็นเหตุแล้วคาดว่าผลลัพธ์อะไรจะตามมา มอง ภาพกว้าง มองหน้ามองหลัง รู้เท่าเอาไว้ป้องกัน รู้ทันเอาไว้แก้ไข พอเกิดปัญญาเฉพาะหน้าขึ้นมาไม่ว่าจะเรื่องอะไร ก็ตาม สติจะช่วยทำให้ท่านระดมปัญญามาแก้ปัญหา เช่น ขับรถบนท้องถนน ถ้าเกิด ยางแตกจะทำอย่างไร บางคนตกใจเสียสติเหยียบเบรครถเลยพลิกคว่ำ บางคน ขับรถบนท้องถนนรถบรรทุกสิบล้อพุ่งสวนเข้าใส่ท่านจะทำอย่างไร ถ้ากดแตร เขายังไม่หลบ บางคนบอกว่ารถบรรทุกแล่นในเลนเราต้องวัดใจกันหน่อย ใครดีใครอยู่ สติเป็นเครื่องกำหนดรู้ว่าเรากำลังทำอะไร บางคนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ พอโกรธขึ้นมาแทบจะ ฆ่ากันตาย พอรู้ตัวก็ว่านี่เราถือมีดทำไม เราบ้าอะไรขึ้นมา สติจะเป็นตัวตรวจ ตรวจความ เป็นไปของเรา สัมปชัญญะจะเป็นตัวตัดสินหรือกลั่นกรองว่าอะไรควรไม่ควร เช่น เราโกรธอยากจะไปด่าเขา ถ้าเราไม่มีสติเราก็ไปด่าเขา สติจะเตือนให้เรารู้ตัวว่ากำลัง จะด่า สัมปชัญญะจะเป็นตัวเซนเซ่อร์ที่พิจารณาว่าควรด่าหรือไม่ควร
ในเรื่องกีสาโคตมีที่เล่ามานั้นเธอได้สติรู้ตัวว่ากำลังอุ้มลูกที่ตายแล้ว สัมปชัญญะทำให้ เธอเห็นว่าความตายเป็นเรื่องธรรมดา
สัมปชัญญะคือความรู้ชัด 4 ประการ คือ
1. สาตถกสัมปชัญญะ (ยั้งคิดถึงประโยชน์ตนและท่าน)
2. สัมปายสัมปชัญญะ (เลือกเรื่องที่เหมาะสม)
3. โคจรสัมปชัญญะ (มีธรรมประจำใจ)
4. อสัมโมหสัมปชัญญะ (ไม่หลงลืมตัว)

ประการแรก สาตถกสัมปชัญญะ คือยั้งคิดถึงประโยชน์ที่จะเกิดจากการกระทำและ คำพูดของตน ก่อนที่ท่านจะทำอะไรก็ตาม โบราณสอนเราให้ยั้งคิดเสียก่อน เช่น นับ 1-10 การยั้งคิดคือสัมปชัญญะที่ตรวจสอบพฤติกรรมของตัวเอง ก่อนพูด ก่อนทำให้นึกว่าเรื่องที่จะพูดหรือทำมีประโยชน์หรือไม่ คนที่หมั่นตรวจสอบตัวเอง จะทำอะไรไม่ผิดพลาด คนทำอะไรไม่ผิดพลาดก็ไม่มีความทุกข์ความเครียด ส่วนคน ทำผิดเพราะไม่ยั้งคิด ไม่ได้นึกว่าเรื่องที่เราจะพูดจะทำออกไปนั้นมีประโยชน์ไหม สติจะบอกว่าเรากำลังทำอะไร สัมปชัญญะจะเตือนว่าเรื่องที่ทำอยู่นี้มีคุณหรือมีโทษ ให้ยั้งคิดเสียก่อน
ประการที่สองคือ สัปปายสัมปชัญญะ หมายถึง เลือก เรื่องที่เหมาะสมกับตนเอง นั่นคือ นอกจากเราจะไม่เก็บเรื่องร้าย ๆ เก็บแต่เรื่องดี ๆ ไว้ในใจแล้ว ก่อนจะทำอะไรก็ตามให้ เลือกสิ่งที่เหมาะสมกับเรา โบราณสอนว่า เห็นเขาขึ้นคานหาม อย่าเอามือประสานก้น คนทำการใหญ่เกินตัวเอง เกินความสามารถโดยไม่มีคนช่วย บางทีทำไปนาน ๆ เข้าก็ทน ไม่ไหว เกิดความท้อแท้
ประการที่สามคือ โคจรสัมปชัญญะ หมายถึงมีธรรมะประจำใจ คนที่จะมีสุขภาพจิตดี จะต้องมีธรรมะประจำใจตลอดเวลา เขาเรียกว่ามีภูมิคุ้มกัน ถ้าท่านไม่มีภูมิคุ้มกันอันนี้ กระทบกระเทือนอะไรแล้วมันช็อค มันหัก มันพัง ภูมิคุ้มกันในจิตใจนั้นคือ ต้องฉีดวัคซีน เข้าไป วัคซีนในจิตก็คือธรรมะประจำใจ เมื่อท่านจะทนกับสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษได้ เพราะมีความแข็งแรงทนทานและยืดหยุ่น
ประการสุดท้าย อสัมโมหสัมปชัญญะ หมายถึงการฝึกใจไม่ให้หลงลืม ต้องใช้ธรรมะ ประจำใจ ไม่ให้เกิดความหลงลืม พอเจอสถานการณ์ที่เป็นปัญหา เราจะรู้ต้องใช้ ธรรมะอะไรทันที เรายั้งคิดก่อนแล้วเอาธรรมะเข้ามาสอนตัวเองตลอดเวลา ปกติ บางคนเวลาทะเลาะกับใครจะโกรธมากจนลืมตัว บางท่านเพื่อไม่ให้หลงลืมเรื่อง ปฏิบัติธรรม จึงให้เลขานุการหรือเพื่อนช่วยจดบันทึกหรือคอยเตือนความจำ
ผู้มีคติธรรมประจำใจย่อมมีเครื่องยับยั้งชั่งใจและมีธรรมะไว้ป้องกัน และแก้ไขปัญหา ในสถานการณ์ต่าง ๆ แม้บางครั้งสถานการณ์อาจจะไม่ตรงกับธรรมะนัก แต่ก็ปรับ เข้าหากันได้ ประเด็นอยู่ที่ว่าท่านควรฟังธรรมะให้มาก ศึกษาธรรมะให้มาก เมื่อถึง เวลาจะเห็นคุณค่าของธรรมะต่าง ๆ ที่ออกมาช่วยเราให้ผ่านพ้นปัญหาชีวิตได้
____________________________________________				
25 ตุลาคม 2551 20:26 น.

ใครคิดทำร้ายชาติ อ่านไว้

ลุงแทน

วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันทหารผ่านศึก ถ้าเราไม่มีทหารผู้เสียสระเหล่านี้ ก็คงไม่ได้อยู่เป็นสุขเช่นทุกวันนี้ อย่าลืมวีรชน วีรบุรุษและวีรสตรีเหล่านี้

"กู กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้เป็นโอรสของพระปิยะมหาราข ขอประกาศให้พวกมึงรับรู้ไว้ว่า แผ่นดินสยามนี้บรรพบุรุษได้เอาเลือด เอาเนื้อ เอาชีวิตเข้าแลกไว้ ไอ้อีมันผู้ใดคิดบังอาจทำลายแผ่นดิน ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คือกระทำการทุจริตก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อส่วนรวม จงหยุดการกระทำนั้นเสียโดยเร็ว ก่อนที่กูจะสั่งทหารผลาญสิ้นทั้งโครตให้หมดเสนียดของแผ่นดินสยาม อันเป็นที่รักของกู ......

ลูกหลานทั้งหลาย แผ่นดินใดให้เรากำเนิดมา แผ่นดินใดที่ให้ซุกหัวนอน ให้ความร่มเย็นเป็นสุข มิให้อนาทรร้อนใจ จงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้น

จาก บันทึก .... กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์				
25 ตุลาคม 2551 19:24 น.

เล่าสู่กันฟัง

ลุงแทน

"The secret of success in life is to be ready for your opportunity when it comes."
- - Benjamin Disraeli - -
ความลับของความสำเร็จคือเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอสำหรับโอกาสที่มาถึง


"You get the best out of others when you give the best of yourself."
- - Harvey Firestone - -
"คุณจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดของคนอื่น เมื่อคุณได้ให้สิ่งที่ดีที่สุดของคุณไป"


"If you always do what interests you, then at least one person is pleased."
- - Katherine Hepburn - -
ถ้าคุณลงมือทำในสิ่งที่คุณสนใจอยู่เสมอ อย่างน้อยจะมีคนคนหนึ่งที่พอใจ


"Only two things are infinite, the universe and human stupidity,
and I'm not sure about the former."
- - Albert Einstein - -
มี เพียงสองสิ่งเท่านั้นที่หาที่สิ้นสุดไม่ได้ สิ่งหนึ่งคือจักรวาล และอีกสิ่งคือความโง่เขลาของมนุษย์ ทว่าฉันไม่แน่ใจว่าจักรวาลจะเป็นเช่นนั้น


"Life remains the same until the pain of remaining the same
becomes greater than the pain of change."
- - Anonymous - -
ชีวิตจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจนกระทั่งความเจ็บปวดจากความนิ่งเฉย จะมากกว่าความเจ็บปวดจากการเปลี่ยนแปลง


"He who loses money, loses much; He who loses a friend, loses more; He who loses faith, loses all."
- - Anonymous - -
เขา..ผู้สูญสิ้นทรัพย์สินไป
เขา..สูญเสียมากเหลือเกิน
เขา..ผู้สูญสิ้นเพื่อนไป
เขา..สูญเสียมากกว่า
เขา..ผู้สูญสิ้นความศรัทธา
เขา..ผู้นั้น.. สูญเสียยิ่งกว่าใครๆ


"The determined man finds the way, the other finds an excuse or alibi."
- - Anonymous - -
ผู้ที่แน่วแน่และมุ่งมั่นจะหาหนทางแก้ปัญหา ในขณะที่คนอื่นจะหาหนทางแก้ตัว


"The only thing in life achieved without effort is failure."
- - Anonymous - -
มีเพียงสิ่งเดียวในชีวิตที่จะสามารถพิชิตได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายคือความล้มเหลว


"Some dream of worthy accomplishments, while others stay awake and do them."
- - Anonymous - -
บางคนฝันที่จะประสบความสำเร็จอย่างสวยหรู ในขณะที่บางคนกำลังลงมือกระทำ


"No bird soars too high if he soars with his own wings."
- - William Blake - -
ไม่มีนกตัวใดบินสูงเกินไปถ้ามันบินด้วยปีกของมันเอง


"Obstacles are those frightful things you see
when you take your eyes off your goals."
- - Anonymous - -
อุปสรรคคือสิ่งที่น่าตกใจก็ต่อเมื่อคุณไม่ได้มองไปที่จุดหมายปลายทาง


"Advice is like snow; The softer it falls the longer it dwells upon,
and the deeper it sinks into, the mind."
- - Samuel Taylor Coleridge - -
คำแนะนำเหมือนหิมะที่โปรยปรายลงมา ยิ่งบางเบาเพียงใดก็ยิ่งแตะเพียงเปลือกนอก และยิ่งหนักหนาเท่าใดก็ยิ่งลึกถึงความรู้สึกเท่านั้น


"There is nothing either good or bad but thinking makes it so."
- - W.Shakespeare - -
ไม่มีสิ่งใดๆในโลกที่ดีหรือเลว มีแต่ความคิดของเราเท่านั้นที่ทำให้เกิดความดีและความเลว				
25 ตุลาคม 2551 18:44 น.

" พระเทพฯทรงตรัสว่ากลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯไม่ได้ทำเพื่อสถาบันกษัตริย์แต่ทำไปเพื่อตัวเขาเอง "

ลุงแทน

พระเทพฯ ไม่ทรงดำริว่าผู้ประท้วงทำเพื่อสถาบันฯ

ทีมข่าวไทยอีนิวส์
10 ตุลาคม 2551

เอพีเผย พระเทพฯทรงตรัสตอบว่า "I don't think so" หลังนักข่าวถามพระองค์ว่าทรงเห็นด้วยหรือไม่กับบรรดากลุ่มผู้ชุมนุม พันธมิตรฯ ที่ได้อ้างว่าได้ทำเพื่อสถาบันฯ

สำนักข่าวเอพี (9 ต.ค.)ตีพิมพ์ข่าวว่าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่กำลังเดินทางเยือนประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ในขณะนี้ ไม่เชื่อว่าการประท้วงที่กำลังดำเนินอยู่ในประเทศไทย ถูกจัดขึ้นเพื่อประโยชน์ต่อสถาบันกษัตริย์

ในการให้สัมภาษณ์แก่นัก ข่าว ที่ Choate Rosemary Hall prep school ในเมือง Wallingford เมื่อวานนี้ พระองค์ทรงตรัสตอบคำถามนักข่าวที่ถามว่า พระองค์ทรงเห็นด้วยหรือไม่กับผู้ประท้วงที่กล่าวว่าเขาเหล่านั้นได้ประท้วง เพื่อสถาบัน ซึ่งพระองค์ทรงตอบปฏิเสธ และทรงตรัสว่าเขาเหล่านั้นทำไปเพื่อตัวเขาเอง

The princess was asked at a press conference following her talk whether she agreed with protesters who say they are acting on behalf of the monarchy.

"I don't think so," she replied. "They do things for themselves."


นัก ข่าวยังได้ถามต่ออีกว่า เหตุใดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงไม่ออกมาตรัส พระองค์จึงตอบว่า ไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้สอบถามพระองค์ท่าน

Asked why the king has not spoken out, she said, "I don't know because I haven't asked him."


เอ พียังได้อธิบายเพิ่มเติมด้วยว่า ผู้นำการประท้วงต้องการให้มีการดำเนินคดีกับผู้หมิ่นพระบรมราชานุภาพ ในขณะที่มีผู้นำประท้วงคนหนึ่ง ต้องการยกเลิกระบอบการเลือกตั้งมาเป็นระบบที่สมาชิกส่วนใหญ่ของสภามาจากการ แต่งตั้ง

นักวิชาการบางคนกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวจะไปเพิ่มอำนาจของกองทัพ และสถาบันพระมหากษัตริย์ และลดทอนอำนาจของคนยากจนลง

เอพีได้ตีพิมพ์เพิ่มว่า พระองค์ทรงตรัสว่า "มีปัญหาการเมืองมาก" "ฉันบอกเพื่อนของฉัน ผู้ร่วมงานขอฉัน เพียงทำหน้าที่ของตนของตนพอ"

Protest leaders have called for the prosecution of people who insult the monarchy. One leader wants to abandon Thailand's popularly elected Parliament for one in which a majority of members would be appointed.

Some academics have said the plan would enhance the power of the country's military and monarchy at the expense of the poor.

"There are a lot of political problems," the princess said. "I told my friends, colleagues just to do what is their duty."				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงแทน
Lovings  ลุงแทน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงแทน
Lovings  ลุงแทน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงแทน
Lovings  ลุงแทน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงลุงแทน