31 มกราคม 2552 09:46 น.
ลุงแทน
นนทรี
* ฉันนนทรี อะราง คางรุ้ง ร้าง
ตาเซก ราง อินทรี จ้าขม ไข
ละคามอีก อะล้าง ลางถิ่นไทย
ป่าน้อยใหญ่ ถิ่นเกิด กำเนิมี
** แนเป็นไม้ ปานกลาง งามฐานะ
งามธุระ เบาหนัก ไม่ผลักหนี
เป็นมงคล คู่ตำบล นามนนทรี
ค่าขายดี พองาม ตามครรลอง
แดง
* แดง สกรมอ กร้อม คว้าย ไปรน์ ปราน พ้าน
เพ้ย จานลาน ล้วนนาม งามสนอง
ต้นเปลาตรง ทรงสง่านกกาปอง
เนื้อแดงผ่อง แน่นเหนี่ยว เป็นเกลียวทน
** ฉันเป็นไม้ ใจกว้าง ช่วยสร้างชาติ
การตลาดเศรษฐกิจ งามผลิผล
เป็นมิตรใจ ไมตรี คนมีจน
เป็นมงคล ครองใจ ผู้ไมตรี
30 มกราคม 2552 21:38 น.
ลุงแทน
* ฉันชมดาว พราวพร่าง ในยามดึก
เพ่งพิสนึก ดารา ทุกราศรี
นับหมื่นแสน แน่นฟ้า ยามราตรี
งามโสภี แต่แพ้ แก่ดวงจันทร์
** เห็นดาวไก่ เป็นกลุ่ม ชุมนุมแน่น
ช่างเหมือนแม้น แม่ไก่ เฝ้าใฝ่ฝัน
หาเลี้ยงลูก ปลูกใจ ไม่เว้นวัน
เฉกแม่ฉัน เลี้ยงลูก ปลูกเผ่าพงศ์
*** ดูดาวช้าง ข้างเหนือ เหมือนเฉกช้าง
ทรงสะอางค์ สะโอดตรู ดูสูงส่ง
อีกดาวปลา เป็นหมู่ อยู่ใต้ตรง
รวมเป็นทรง รูปปลา สง่างาม
**** หมู่ดาวเหนือ ทรงงาม อร่ามเหลือ
หมู่ดาวเสือ ทรงเขย่ง น่าเกรงขาม
หมู่ดาวไถ ใสเอน เช่นหางงาม
หมู่ดารา งามพราว เมื่อเรามอง
***** พายุพัด น้ำค้างโรย โปรยเผาะผอย
ไม้ใหญ่น้อย กิ่งใบ ไหวสนอง
จักจั่นเรไรร่าย ขับเพลงทอง
สัตว์เล็กร้อง หวิ่งหรีด จิ้งหรีดเรียง
****** กระปูดร้อง ก้องป่า กระทาขัน
กระบาพลัน เคาะฆ้อง ป่องป่องเสียง
สุนัขหอน แมวหวน ยวนสำเนียง
เขาตู้เคียง คู่มัน ขันกรูกรู
******* โพระดก ร้องเร้า กุเหว่าก๋า
เขาชะวา ขันเพราะ เสนาะหู
ไก่ป่าบ้าน สานสำเนียง เสียงแจ้อู
เขาทองคู ดู่สอง ร้องระงม
******** สรกา ขุนทอง ร้องเสียงแจ๋ว
หมู่นกแก้ว กู่เพราะ เสนาะสม
นกกระจาบ นอแจ แผ่ตามลม
เสียงกล่อมกลม ออดอ้อน ร้องคลอกัน
********* นกเค้าหูก สำเนียง เสียงเย็นซู่
เอี้ยงรวมฆมู่ รับเพราะ เหมาะขยัน
แซงแซงรับ ลูกคู่ ดูครบครัน
กางเขนพลัน พลอดเสนาะ เยาะหรือใย
********* ธรรมชาติ ยามนี้ มีเพียงฉัน
เหม่อรำพัน คนเดียว สะท้านไหว
แม้มีเพื่อน มาเยือน เหมือนเพื่อนใจ
สุขอันใด ใหนฤๅ หรือจะเทียม ฯ/
30 มกราคม 2552 18:05 น.
ลุงแทน
๑. มะขาม
* ฉันมะขาม แถลง หมากแกง ชี้
เผ่าฉันนี้ ยืนยั่ง เป็นฝั่งฝา
ต้นเปลาตรง ทรงอร่าม งามนัยนา
แต่ใหนมา อยู่บ้าน สำราญใจ
** ทุกส่วนฉัน แสนดี มีคุณค่า
ทั้งด้านยา อาหาร งานน้อยใหญ่
เป็นหลักสร้าง เศรษฐกิจ มิตรเมืองไทย
อยู่ที่ใหน ช่วยเหลือ ชอบเจือจุน
๒. พะยูง
* ฉันพะยูง ขยุง พยูงใหญ่
แดงจีนไซร้ ประดู่ลาย ประดู่เสน
ประดู่ตม นางจีน ยินชัดเจน
นามหลังเด่น ชื่อตั้ง เขานางจีน
** ถูกเป็นไม้ มงคล โสภณสาร
งามตระหง่าน ชวนพิศ เป็นนิจศีล
เหมือนมุนย์ งามทั่ว ทั้งตัวตีน
ไม่ป่ายปีน คุณธรรม นำอำไพ
30 มกราคม 2552 10:05 น.
ลุงแทน
ต่อ....
* ยัสมิง สะมะเย ในสมัยใด
กามาวะจะรัง กุสะลังจิตตัง
จิตที่เป็นกามาวจรกุศลนั้น
อุปันนัง โหติ เกิดขึ้นแล้ว
โสมะสัสสะสะหะคะตัง
มีความพอใจ ดีใจเพลิดแพร้ว
ญาณะสัมปะยุตตัง รู้ทันแล้ว
รูปารัมมะณัง วา รูปอารมณ์
สัททารัมมะณัง วา เสียงอารมณ์
คันธารัมมะณัง วา กลิ่นอารมณ์
ระสารัมมะณัง วา อารมณืแห่งรส
โผฏฐัพพารัมมะณัง วา
คือสัมผัสทางกายเป็นอารมณ์
ธัมมารัมมะณัง วา ผสม
ปรุงแต่งอารณ์เป็นจินตนา
ยัง ยัง วา ปะนารัพภะ
ปรารภอารมณ์ เหตุที่ตามมา
ตัสมิง สะมะเยในสมัยนั้นหนา
ผัสโส โหติ ย่อมมีสัมผัสเกิด
อะวิกเขโป โหติ จิตสงบ
ไม่มีความฟุ้งซ่านมากำกำเนิด
เย วา ปะนะ อีกอย่างหนึ่งเลิศ
ตัสมิง สะมะเย ในสมัยนั้น
อัญเญปิ อัตถิ ธัมอื่นเกิดขึ้น
ปะฏิจจะสะมุปปันนา นั้น
เป็นธัมอาศัย ซึ่งกันและกัน
อะรูปิโน ธัมมา มีพลัน
เป็นธัมไม่มีรูป คือนาม
อิเม ธัมมา กุสลา นี้นั้น
ที่สวดกัน มาแล้ว แสนนานวัน
เพียงต้องการ ผู้อยู่ รู้หลักธัม
อย่าแปรผัน ธัมนี้ มงคลแล ฯ/
29 มกราคม 2552 21:16 น.
ลุงแทน
* กุสะลา ธัมมา นั้นแปลว่า
เป็นที่มา แห่งธรรม นำกุศล
กาย วาจา พร้อมใจ ในทุกคน
เป็นกุศล สิบอย่าง มั่นในตน
** อกุสะลา ธัมมา แปลว่า
สิ่งที่มา แห่งเหตุ อกุศล
กาย วาจา และใจ หนีไม่พ้น
อกุศล สิบอย่าง เฉกเช่นกัน
*** อัพยากะตา ธัมมา เล่า
ไม่ล่วงล้ำ ดีชั่ว เสมอนั้น
ธัมเป็นกลาง ทั้งสอง ต้องตามกัน
อีกทั้งยัง ไม่ชัด ปรากฎเด่น
**** กะตะเม ธัมมา กุสะลา
ธัมที่เป็น กุศล ส่งให้เห็น
มีอะไร ที่ทำ เป็นจุดเด่น
สิ่งที่เห็น อะไร ให้ยืนยัน
********* จบภาค ๑ ต่อภาคสอง ต้องติดตาม*********
หน้าส่วนตัว
1429
Lovers
0 คน เลิฟลุงแทน
