28 มิถุนายน 2551 17:17 น.
ลุงแทน
จากดวงใจ ดวงหนึ่งซึ่งอ่อนล้า
พบดวงตา ดวงหนึ่ง ซึ่งอ่อนใส
ในความเรียบ เงียบงำ ไร้คำใด
เห็นน้ำใจ ชุ่มฉ่ำ ในน้ำตา
หยาดน้ำตา อาวรณ์ นั้นอ่อนหวาน
แทนคำขาน ร้อยคำ ที่ล้ำค่า
บอกความดี เมื่อวาน ที่ผ่านมา
และบอกว่า เมื่อวาน ไม่ผ่านไป
ในวันคืน อันนาน ด้วยงานหนัก
สร้างความรัก ความอาทร ที่อ่อนไหว
ถึงวันจาก โจมจู่ จึงรู้ใจ
ความอาลัย โจมจู่ จึงรู้ตัว
ชีวิตผ่าน ร้อนเย็น ยากเข็ญสรรพ
รู้รุกรับ ท่าที ทั้งดีชั่ว
หัวใจเอ๋ย เคยฉกาจ ไม่หวาดกลัว
มาอ่อนรัว แพ้ใจ ในวันลา
ฝากดอกไม้ ไว้วาง ข้างข้างหมอน
ฝากอาทร วางไว้ วันข้างหน้า
วันที่ไร้ ใครรับ ซับน้ำตา
จงกลับมา ที่นี่ "ยังมีครู"
28 มิถุนายน 2551 17:05 น.
ลุงแทน
ครูคือ"ดิน" ที่ให้ ไม้หยั่งราก
ให้ฝังฝาก ต้นอ่อน อ้อนไฉน
คอยระแวด ระวังยิ่ง ทุกกิ่งใบ
แม้เติบใหญ่ ลืมดิน ก็ยินดี
ครูคือ"น้ำ" ฉ่ำชื่น ระรื่นจิต
คือน้ำใจ ที่อุทิศ เพื่อศิษย์ศรี
ช่วยชะล้าง อวิชชา บรรดามี
ศิษย์ราคี ครูก็ร่ำ แต่น้ำตา
ครูคือ"ลม" พรมไล้ ให้หายร้อน
ทุกคำสอน คือลมปาก ฝากคุณค่า
คำของครู พัดผ่าน กาลเวลา
แม้ลมล้า ก็จะริน จนสิ้นลม
ครูคือ"ไฟ" ให้แสง แรงชีวิต
ช่วยส่องทิศ ส่องทาง สว่างสม
จุดประกาย ให้พลัง แก่สังคม
ครูชื่นชม ศิษย์ตลอด จนมอดไฟ
คือ ดิน น้ำ ลม ฟ ในวันนี้
ธาตุทั้งสี่ สร้างชีวิต ที่สดใส
จง"เก่ง ดี มีสุข" ทุกสิ่งไป
แม้ทุกข์ใจ จงหันหน้า มาหาครู
12 มิถุนายน 2551 14:20 น.
ลุงแทน
"มีเพื่อนดี เพียงหนึ่ง ถึงจะน้อย
ดีกว่าร้อย เพื่อนคิด ริษยา
ดุจมีเกลือ เม็ดน้อย ด้อยราคา
ยังดีกว่า น้ำเค็ม เต็มทะเล"
ความหมายของ กลอนนี้ ที่ได้เห็น
ตรองแล้วเป็น สัจธรรม นำสมัย
ยามเพื่อนเจ็บ เรานี้ ที่ตรอมใจ
เมื่อเพื่อนหาย ทิ้งไป ไม่มามอง
ยามเดือดร้อน เพื่อนพ้อง มองเราเด่น
ดุจดั่งเช่น เทวดา มาสนอง
ทุกสิ่งสรรพ ที่เพื่อน นั้นเดือดร้อน
เราประคอง พร้อมช่วย ด้วยเต็มใจ
แต่งไม่ออก ใครก็ได้ช่วยต้อด้วย.............
12 มิถุนายน 2551 14:10 น.
ลุงแทน
กาพย์นางแซว ๑๘
ประเประเทศนี้ดีนัก คุณรู้จักหรือไม่
เยาวชนฝักใฝ่ ปริญญา
มุ่งศึกษาความหมาย หวังเป็นนายเหนือคน
เพื่อดูถูกชั้นชน เหง้าชีวา
ประเทศนี้ดีล้ำ มีผู้นำนายก
ที่พาเดินเข้ารก แล้วเข้าป่า
ประชาชนบอดใบ้ เป็นทองไม่รู้ร้อน
ให้อำนาจบั่นทอน บดบังตา
ประเทศนี้ดีหลาย เขาซื้อขายเลือดเนื้อ
ให้แร้งการุมเถือ ทั้งผักปลา
รัฐธรรมนูญ ค้ำคูณสันติราษฎร์
แท้ก็แค่กระดาษ ธรรมดา
ประเทศที่แสนดี มีแต่คนพิการ
จิตสำนึกวิญญาณ เหมือนถูกฆ่า
วัฒนธรรมใหม่ พรากหัวใจเตลิด
ภูมิปัญญาบ้านเกิด จึงแปลกปร่า
โอ้ลูกหลานวันใหม่ จะเดินตามใครเล่า
มีแต่ความงี่เง่า อนาถา
ความคิดฝันวันวาน ที่บ้านชนบท
คือความอัปยศ อนิจจา.
.... ทองสา : เขียน .....
อ่านพบมาเห็นว่าดีเลยนำเอมาให้เพื่อนได้อ่านกัน
5 มิถุนายน 2551 18:04 น.
ลุงแทน
เด็กเอ๋ย เด็กน้อย ด้อยศึกษา
ต้องหมั่น อุสาห์ หาความรู้
ไปโรงเรียน แม้เสี่ยง เยี่ยงวิบาก
ถึงลำบาก ตรากตรำ ต้องจำทน
พ่อแม่ แม้รู้ ว่าลูกเสี่ยง
ไม่อาจเลี่ยง เปลี่ยนทาง การศึกษา
พาลูกส่ง โรงเรียน เพลียอุรา
บอกลูกว่า ตั้งใจ ในการเรียน
ต้องทำใจ เมืองไทย ในเสรี
แม้ว่ามี กฎหมาย ก็หายห่วง
ประชาธิปไตย ใส้กลวง
ถนนหลวง พวกเเขา เข้ายึกครอง
ยิ่งใหญ่ ใช่ย่อย ปิดถนน
กี่คน เดือดร้อน มองไม่เห็น
เอาเถิด เกิดเป็นไทย ต้องใจเย็น
ที่ลูกเห็น เป็นวิชา ค่าของคน