31 มกราคม 2551 19:05 น.

*** กลอนพุทธทาส ***

ลุงแทน

ศีลธรรมโลก-ย่น-ถ่อย-ยับ!!!

     ศีลธรรม!  ศีลธรรม!  ศีลธรรม!          	ต้องตกต่ำลงทุกวันถ้าสรรหา
คงไม่พอขอมาทำน้ำหยอดตา          	เพราะบูชากันแต่เงินเกินพอแรง
     ศีลธรรม!  ศีลธรรม!  ศีลธรรม!          	ต้องตกต่ำไปเสียทั่วทุกหัวระแหง
เขารังเกียจเกลียดชังดังผีกระแซง          	อยากให้มันแห้งแล้งจากโลกนี้
     ศีลธรรม!  ศีลธรรม!  ศีลธรรม!          	ถูกเหยียบย่ำโดยฝูงคนจนป่นปี้
โลกของคน ย่ย-ถ่อย-ยับ เกินอัปรีย์          	ที่คงที่คือโลกสัตว์ดูอัศจรรย์


หลงความบ้า  ว่าศีลธรรม

     โลกทุกวันอยู่ในขั้นกลียุค          	ที่เบิกบุกเร็วรุดสู่จุดสลาย
จนสิ้นสุดมนุษยธรรมต่ำอบาย          	เพราะเห็นกงจักรร้ายเป็นดอกบัว
     กิเลสไสหัวส่งลงปลักดกิเลส          	มีความแกว่นแสนพิเศษมาสุมหัว
สามารถดูดดึงกันไปใจมืดมัว	เห็นตนตัวที่จมกามว่าความเจริญ
     มองไม่เห็นศีลธรรมว่าจำเป็น          	สำหรับอยู่สุขเย็นควรสรรเสริญ
เกียรติ-กาม-กิน บิ่นบ้ายิ่งกว่าเกิน       	แล้วหลงเพลินความบ้าว่าศีลธรรม


ศีลธรรมกับคน

     ศีลธรรมเลวคนก็ได้กลายเป็นผี          	หาความดีไม่ประจักษ์สักเส้นขน
ศีลธรรมดีผีก็ได้กลายเป็นคน          	ที่เลิศล้นภูมิใจไหว้ตัวเอง
     ศีลธรรมต่ำเปลี่ยนคนจนคล้ายสัตว์          	จะกินกัดโกงกันขมันเขม็ง
ศีลธรรมสูงคนสดใสไม่อลเวง	ล้วนยำเกรงกันและกันฉันเพื่อนตาย
     ศีลธรรมนี้ทุกวันมันตายซาก          	คนมีปากก็ไม่พล่ามศีลธรรมหาย
ศีลธรรมกลับมาเมื่อไรทั้งใจกาย       	คนจะหายจากทุกข์เป็นสุขเอง				
30 มกราคม 2551 21:21 น.

... เรื่องง่าย ที่ ทำยาก ...

ลุงแทน

รูปก็งาม ผสานเสียง สำเนียงเพราะ
กลิ่นเหมาะเจาะ เลาะลิ้น กินอร่อย
โผฏฐัพพะ ละออ ไม่ยอมปล่อย
อารมณ์ลอย เพราะกามฉันท์ นั้นนั่นเอง

      เมื่อหวนคิด จิตระลึก ถึงคนเกลียด
โทสะเฉียบ ความคิด จิตอยากฆ่า
ด้วยโกธะ ไม่ละ จักตามมา
พยาบาท นั้นหนา มาพาไป

     การงานเลอะ เชอะเบื่อ  เมื่อนึกถึง
เหตุใดจึง ต้องรีบ งีบสักตื่น
ด้วยถีนมิทธะ ละอาดูร
ไม่เกื้อกูล สูญสิ้น คนนินทา

     อุทธัจจกุกกุธะ ไม่ละจิต
มานั่งคิด ฟุ้งซ่าน พาลโมโห
เรื่องนิดหน่อย ไม่ปล่อย กลายใหญ่โต
ลามเป็นโซ่ เพระาหงุดหงิด จิตรำคราญ

     ขี้สงสัย ทุกเรื่อง เปลืองสมอง
จิตต้องตรอม ลังเล เป๋ไถล
มีกี่เรื่อง ไม่ปลง ตกลงใจ
เป็นเหตุให้ จิตล่อง หมองฤดี

     ทั้งมวลนี้ เป็นธรรม อันกั้นจิต
ที่ปกปิด ความดี ไม่มีผล
นิวรณ์ห้า ละได้ เป็นยอดคน
ความหมองม่น หลุดพ้น คนเยินยอ

     ใช้สัทธา มาเสริม เพิ่มความเชื่อ
ที่เอื้อเฟื้อ ความดี มีกุศล
ให้จิตเรา ยึดมั่น ธรรมมงคล
ไม่หลงกล กามกิเลส เหตุพ้นภัย

     วิริยะ บากบั้น ตั้งสติ
ละจากจิต พยาบาท อาฆาตเขา
ใช้เมตตา กรุณา มาบรรเทา
อภัยเขา เราสุข ไม่ทุกข์ใจ

     มีสติ ระลึกได้ ในหน้าที่
การงานดี มีผล ยกตนเด่น
ไม่ละทิ้ง หลีกลี้  หนีประเด็น
ให้เขาเห็น เป็นประโยชน์ โทษไม่มี

     สมาธิ ตั้งมั่น ไม่หันเห
อุปเท่  ดำรง คงภูผา
แม้พายุ ดุจวสันต์ ประจันมา
อุปมา ศิลาใหญ่ ไม่ไหวติง

     มีปัญญา ตรึกตรอง มองเหตุผล
ไม่หลงกล หมู่มาร มาถามหา
วินิจฉัย นัยเหตุ พิจารณา
ความลังเล ไม่มา พาอกตรม

     นี่คือธรรม มีพลัง ไม่พลั้งผิด
ด้วยมีจิต เป็นกุศล ผลสนอง
เป็นกรรมดี ที่ทุกคน สมหมายปอง
เป็นยอดของ บัญฑิต คิดสร้างบุญ				
30 มกราคม 2551 13:16 น.

" พระพุทธรูปทองโบราณ" (หลวงพ่อสุข)

ลุงแทน

พระพุทธรูปทองโปราณท่านล้ำเลิศ
แลประเสริฐสวยงามอร่ามศรี
พระพักตร์อิ่มยิ้มเย็นเป็นไมตรี
พระเนตรมีน้ำนวลให้ชวนชม
เมื่อยิ่งมองยิ่งพิศจิตสดชื่น
ภิรมณ์รื่นจิตใจไม่ขื่นขม
ถ้าเกิดทุกข์ภายในใจระทม
มานั่งชมกราบไหว้ใจสบาย
น่าดีใจที่ได้พบพระองค์ท่าน
แต่ก่อนกาลมีมาหลายสมัย
นับตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัย
ถึงสมัยปัจจุบันนับพันปี
ท่านพอกพูนห่อหุ้มคลุมปิดไว้
แต่ภายในเป็นทองสุดผ่องศรี
สถิตอยู่วัดหงส์ฯ หลายร้อยปี
ก็ไม่มีใครเห็นเป็นสำคัญ
มาสมัย พ.ศ. สองสี่เก้า เก้า
บุญของเราที่ได้เห็นเป็นมิ่งขวัญ
เรื่องที่เกี่ยวกับเหล่าหมู่เถาวัลย์
ขึ้นเกี่ยวพันองค์พระไม่น่าดู
พระสุขุมธรรมาจารย์เจ้าอาวาส
นึกประหลาดในใจให้อดสู
เห็นเถาวัลย์พันพระไม่น่าดู
จึงสั่งหมู่โยธามาจัดการ
พระคู่บารมีศรีประเทศ
สำแดงเดชลือชาปาฏิหาริย์
เผยพระพักตร์ปูนออกบอกเหตุการณ์
พระโบราณนี้ไซร้ข้างในทอง
จึงเผยองค์ทรงทองชมพูนุช
บริสุทธิ์ราคีไม่มีหมอง
ให้ชาวโลกได้เห็นเป็นพระทอง
เพื่อคุ้มครองชาติศาสน์ประกาศพร
ทราบถึงองค์ราชามหากษัตริย์
น้อมมนัสพระหัตถ์ลงทรงอักษร
ให้เป็นศรีแก่หมู่ประชากร
อนุสรณ์พระนามตามบูชา
แผ่นศิลาจารึกบันทึกไว้
เป็นหลักชัยมงคลทรงหรรษา
เทิดพระเกียรติองค์พระปฏิมา
พระราชาทรงธรรมล้ำฤดี
บุญของเรานักหนาราชาโชค
กี่มุมโลกจะพบองค์พระศรี
หากครั้งใดมีภัยมาราวี
ไม่เป็นที่สุกใสใจสบาย
จงปิดทองแด่องค์พระทรงศักดิ์
ปิดพระพักตร์พระกัณฐ์โดยมั่นหมาย
ปิดพระถันพระอุระทั่วกายา
พระหัตถ์ซ้ายพระหัตถ์ขวาหน้าพระชงฆ์
ปิดองค์ท่านแห่งใดใครไม่ว่า
ตามศรัทธารักใคร่ใจประสงค์
จงตั้งจิตมั่นไว้ในพระองค์
แล้วกราบลงอธิษฐานถึงงานตน
จะสมมาตรสมหวังดังความคิด
บุญฤทธิ์ยิ่งล้ำทำกุศล
ดุจดังเงาเป็นมิตรติดตามตน
ย่อมยังผลส่งให้สบายดี
ขอเชิญชนทุกหมู่ผู้ฉลาด
อภิวาทต่อองค์พระทรงศรี
แม้พบเห็นเป็นบุญบารมี
ทั้งเป็นศรีแก่ตนจนวันตาย				
29 มกราคม 2551 09:32 น.

*** ร่มไม้ชายคา ***

ลุงแทน

ผู้ใหญ่มี ใจเย็น ไว้เป็นหลัก
หมู่คนรัก บูชา มหาศาล
พลีชีวิต เลือดเนื้อ เพื้อกราบกราน
ช่วยต่อต้าน ศัตรู หมู่ไพรี
ถ้าผู้ใหญ่ ใจร้อน ไม่ผ่อนพัก
ใจไม่หนัก เรรวน ชวนบัดสี
มหาชน เกลียดชัง ไม่หวังดี
ล้วนแต่มี ทุกข์โทษ โปรดบูชา

     อันน้ำเย็น เป็นที่มา หมู่ปลาหอย
ทั้งปลาน้อย ปลาใหญ่ ให้มาหา
ชวนเอาหมู่ สัตว์น้ำ นำกันมา
เข้าพึงพา อาศัย ได้ร่มเย็น
ถ้าน้ำร้อน ปลาก็ร้อน นอนไม่หลับ
พากันกลับ ถอนตัว กลัวยุคเข็ญ
แม้ขืนอยู่ เดือดร้อน นอนลำเข็ญ
ด้วยน้ำเย็น กลับร้อน นอนมีภัย

     จงทำตน เหมือนโพธิ์ไทร ใบหนาดก
ให้ฝูงนก ฝูงกา มาอาศัย
เป็นที่ดับ ทุกข์เข็น ร่มเย็นใจ
เพราะต้นไม้ ใบดกหนา คุณค่าดี
มวลฝูงนก ฝูงกา อาศัยนั้น
จงช่วยกัน บูชา รักษาศรี
หากทำลาย กิ่งไม้ ใบไม่มี
ก็เป็นที่ เดือดร้อน นอนไม่เย็น				
28 มกราคม 2551 19:03 น.

*** มีคาถามาฝาก ***

ลุงแทน

อันความโลภ อยากได้ ไม่มีสุด
จะหาจุด จบได้ ที่ใหนหนอ
ได้อย่างนั้น อย่างนี้ ยังไม่พอ
มีแต่ขอ ไม่จบพบทุกวัน

     อันความโกรธ ก็ร้ายนัก พระทักว่า
เป็นที่มา แห่งทุกข์ ไม่สุขสันต์
ยิ่งโกรธมาก ก็ยิ่งทุกข์ ทุกคืนวัน
ช่างน่าขัน มนุษย์เรา ชอบเผาตน

     อันความหลง เพลินดี คือมีรัก
หลงยศศักดิ์ หลงติด อิฏฐผล
ถ้ายิ่งหลง แลยิ่งให้ ใจกังวล
หลงอะไร ไม่ยิ่งล้น หลงโลกีย์

     จงตัดโลภ ด้วยทาน การสละ
ตัดโกธะ เอาเมตา เป็นราศรี
ตัดโมหะ ใช้ปัญญา เป็นบารมี
คาถานี้ มอบให้เพื่อน เยือนทุกคน				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงแทน
Lovings  ลุงแทน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงแทน
Lovings  ลุงแทน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงแทน
Lovings  ลุงแทน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงลุงแทน