24 มกราคม 2551 11:24 น.

@ โลกธรรมานุสรณ์ @

ลุงแทน

ลาภยศสุขสรรเสริฐ                 เป็นเครื่องเพลินย้อมนิสัย
บำรุงปรุงจิตใจ                            คล้ายกับดื่มสุราบาน
    ผู้ใดขาดสติ                             ชอบดำริประกอบการ
ก่อกรรมของคนพาล                    เพราะยศลาภซาบซึ้งใจ
    ยอมตนให้เป็นทาส                 ไม่สามารถเป็น"ไท"ไซร้
ล้วนแล้วแต่มีภัย                         ความชั่วร้ายครอบงำตน
    ปัญญากำหนดรู้                       ตริตรองดูตามเหตุผล
ลาภยศมีทุกคน                           แต่ก็ทนอยู่ไม่นาน
    สรรเสริฐและความสุข             นินทาทุกข์ย่อมเจือจาน
สาระที่ทนทาน                            ในโลกธรรมไม่มีเลย
    เป็นธรรมชื่อไตรลักษ์             ย่อมประจักษ์ตามเฉลย
บัณฑิตย่อมชมเชย                     ผู้มีจิตไม่หวั่นตาม
    บางคราวก็มีได้                       แต่บางครั้งก็มีทราม
เป็นธรรมนิยาม                          ตามสนองประคองไป
    วิจารณ์ตามความจริง               อย่าประวิงมัวสงสัย
ตามข้ออัตถนัย                            พุทธพจน์รจนา
    เมื่อได้อย่าหลงใหล                 เมื่อเสื่อมไปไม่โศกา    
 เป็นธรรมะฐิตา                          ประจำโลกมาช้านาน
    ใครใครหลีกไม่พ้น                 ทุกทุกคนในสงสาร
เข้าถึงพระนิพพาน                      จึงผ่านพ้นโลกธรรม....แล ฯ.				
24 มกราคม 2551 10:24 น.

*** ^*^...แง่... ^*^ ***

ลุงแทน

คนมองกัน สำคัญ มองที่แง่
แง่ที่แท้ ร้ายดี มีเพียงสอง
ข้อสำคัญ นั้นอยู่ ที่คนมอง
แง่ทั้งสอง มองได้ ทั้งร้ายดี

   ถ้าคนมอง จ้องดู แต่แง่ร้าย
ก็เป็นภัย ให้ทุกข์ ไม่สุขี
แง่ที่ดี มีอยู่ เหมือนไม่มี
ด้วยเหตุที่ คนมอง ไม่จ้องดู

   ถ้าคนมอง แง่ดี เขามีไว้
ตามวิสัย บัณฑิต พิศเนตรรู้
ใช้ปัญญา สอดส่อง ไตร่ตรองดู
พิสูจน์รู้ ว่าดี มีอย่างไร

   ครั้นมองเห็น ความดี เขามีอยุ่
จึงเชิดชู ดีงาม ตามนิสัย
สุดแต่มี มากน้อย ค่อยเป็นไป
อำนวยชัย ส่งเสริม เพิ่มทวี

   แง่ของคน แต่ละคน นั้นสองอย่าง
ย่อมเป็นทาง มองได้ หลายวิถี
มองแง่ร้าย หายนะ ก็จักมี
มองแง่ดี มีสุข ทุกข์บรรเทา

   ทางธรรมสน ให้ทำ ความดีไว้
เขามองร้าย หายนะ เป็นของเขา
ส่วนความดี ยังมี เป็นนของเรา
จะรับเอา แง่ใหน วิจัย  เทอญฯ.				
23 มกราคม 2551 19:08 น.

***..กัลยาณชน..***

ลุงแทน

กัลยาณชน นั้นละได้ ในส่วนผิด
มายึดติด มากมาย ฝ่ายกุศล
หมายมั่นเห็น ว่าเป็น ตนของตน
เท่ากันกับ ปุถุชน “ยึดตัวกู”
แม้ความยึด จะเท่ากัน แต่มันแปลก
มันเกิดแยก ทางกัน ดูขันอยู่
ข้างหนึ่งยึด ความทราม กามเชิดชู
ข้างหนึ่งยึด ความหรู กุศลงาม

ปุถุชน เคยหนาทึบ ด้วยฝ้าตา
ครั้งนานมา เริ่มเห็น รัตนะสาม
คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ตาม
ความเป็นจริง ใจเกิดงาม นามกัลยาณ์ฯ				
23 มกราคม 2551 11:06 น.

***...แปลก แต่ จริง...***

ลุงแทน

สิ่งที่ยังไม่ได้ก็ไฝ่ฝัน                 
ที่หมายมั่นมุ่งไว้ให้ไฝ่หา
เมื่อได้สมอารมณ์เจตนา             
กลับมีค่าแค่เพียงเสี้ยวอยากลอง

   สิ่งที่ยังไม่สมอารมณ์สนอง            
ยิ่งกับต้องไขว่คว้าหาให้ได้
ยากลำบากตรากตรำสักเท่าไร     
ต้องดิ้นไปให้สมอารมร์จินต์

   เมื่อยังเด็กอยากเป็นเช่นหนุ่มสาว
เสน่ห์พราวสาวสวยรวยหนุ่มหล่อ
ได้เชยชิดดังจิตคิดเฝ้ารอ
ได้อ้อล้อพนอคลอเคลียกัน

   มาถึงวัยใสสดครบที่ฝัน
ความคิดพลันฝันเห็นเป็นผู้ใหญ่
มีควาสุขลูกหลานมาอวยชัย
คนทั่วไปนับถือระบือนาม

    เมื่อร่วงโรยเป็นวัยที่ใกล้ฝัง
คนหันหลังยังไม่อยากไปถึง
เผลอให้คิดถึงวัยใสเต่งตึง
ไม่อยากถึงวัยชราพาเศร้าทรวง

     คุณตาใจให้อยากไม่พรากหนุ่ม
ยายอยากเป็นสาวรุ่นพุ่มไสว
โอ้สังขารวานชลออย่าด่วนไป
ด้วยว่าใจยังอยากไม่จากจร

    แปลกแต่จริงในสิ่งคิดอยากได้
พอสมหมายหายอยากได้ดังหวัง
อยากสิ่งใหม่ด้วยใจอยากมากจัง
มรณังนั้นแลหายอยากจริง				
22 มกราคม 2551 20:20 น.

***... สิ่งที่รู้จักยากที่สุด...***

ลุงแทน

สิ่งรู้จัก ยากที่สุด กว่าสิ่งใด
ไม่มีสิ่ง ไหนไหน ได้ยากเท่า
สิ่งนั้นคือ ตัวเอง หรือ ตัวเรา
ที่คนเขลา หลงว่ากู รู้จักดี่

ที่พระดื้อ เณรดื้อ และเด็กดื้อ
ไม่มีรื้อ มีสร่าง อย่างหมุนจี๋
เพราะความรู้ เรื่องตัวกู มันไม่มี
หรือมีอย่าง ไม่มี ที่ถูกตรง

อันตัวกู ของกู ที่รู้สึก
เป็นตัวลวง เหลือลึก ให้คนเหลง
ส่วนตัวธรรม เป็นตัวจริง ที่ยิ่งยง
หมดความหลง รู้ตัวธรรม ล้ำเลิศตนฯ


 :: ธรรมคำกลอน พุทธทาส ::				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงแทน
Lovings  ลุงแทน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงแทน
Lovings  ลุงแทน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงแทน
Lovings  ลุงแทน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงลุงแทน