14 สิงหาคม 2552 01:24 น.
ลุงเอง
รัติกาลผ่านพ้น เลยเที่ยง
แว่วสำเนียงแห่งเสียง โหยหวน
หทัยถอนหวาดสำเนียง เสียวซ่าน แท้เฮย
ดุจดั่งปีศาจครวญ แท้จริงหลอกตน ฯ/
* รัติกาลยามผ่านหลังเทียงคืน
ข่มตาฝินนิทราให้หลับใหล
ทั้งพลิกซ้ายป่ายขวาขัดเคียงใจ
ด้วยเหตุใดไม่หลับกระสับกาย
* เสียงแห่งยามราตรีที่มืดมิด
ทั่วทุกทิศวังเวงพาใจหาย
ทั้งหรีดหริ่งร้องก้องอยู่รอบกาย
แสงพราวพรายหิงห้อยพลอยแสงเรือง
* อาวาสแห่งกลางดงพงไพสนธ์
ทั่วสกลสรรพสัตว์สดับเสียง
ดุจปีศาจร้ายกาจก้องสำเนียง
ไทรใหญ่เอียงแรงลมโถมทวี
* แววตาเรืองเขียววับเมื่อรับแสง
พยัคฆ์แห่งวนาราชสีห์
ออกค้นหาภักษายามราตรี
ล้วนมากมีคชสารเจ้าพงพี
* เสียงหมาในหอนก้องร้องโหยหวน
มฤคเรรวนชวนกันหนี
เสียงนกแสกแหวกร้องหวาดฤดี
โลมาชี้ชูชันนั่งหวั่นใจ
* ตุ๊กแกป่าร้องลั่นสนั่นโสต
สายลมโยกยางนาสนั่นไหว
กิ่งสักร่วงมะม่วงลั่นสนั่นไพร
พาหทัยไหวหวั่นสนั่นทรวง
* ตั้งสติจิตกำหนดสมาธิ
ด้วยอาปานสติไม่คิดหวน
ไร้นิวรณ์ทุกสิ่งตัดทั้งปวง
สัญญาร่วมรับรู้สู่สัจธรรม
* เวทนาทุกข์สุขสงบนิ่ง
รู้ความจริงจิตเราไม่ถล่ำ
สรรพเสียงเงียบลงจิตดื่มด่ำ
ตามหลักธรรมกัมมัฏฐานวิปัสสนา
* เพราะจิตเราไม่นิ่งวิ่งหลอกหลอน
แม้ยามนอนเจตสิกวิ่งแส่หา
ต้องจับใส่ในกรงวิปัสสนา
จึงรู้ว่าแท้จริงหลอกตนเอง ฯ/
12 สิงหาคม 2552 18:13 น.
ลุงเอง
*** มองนภา เวลา ฟ้าชิงพลบ
แสงส้มสด งดงาม สีสดใส
หมู่วิหก นกกา ต่างพร้อมใจ
คืนกลับไป รังนอน พักผ่อนกาย
*** เฉกเช่นคน ขายแรง –งานเช้าค่ำ
เป็นผู้นำ ครอบครัว จุดความหมาย
ให้ลูกได้ ร่ำเรียน ด้วยแรงกาย
หยาดเหงื่อไหล ไม่อาจ มาท้อใจ
*** สองมือกร้าน หยาบแห้ง แรงถดถอย
เพื่อลูกน้อย พ่อทน ยอมพลีให้
เก็บสะสม อดออม แบ่งไว้ใช้
อนาคด ฝากไว้ กับแรงกาย
*** สุริยา ลาลับ อัสดง
ลูกทุกคน รอพ่อ มีความหมาย
ค่ำลงแล้ว พ่อลับไม่เห็นกาย
ลูกใจหาย ชะเง้อ เพ้อคร่ำครวญ
*** แสงไฟฟ้า มาแทน แสงตะวัน
ใยพ่อฉัน ยังไม่ กลับคืนหวน
ลูกรอกิน ข้าวอยู่ น้องร้องกวน
เสียงฟ้าครวญ โปรยฝน ทนต่อไป
*** จากยามเย็น มาเป็น เช่นยามดึก
ใจระทึก ทนคอย ต่อไม่ไหว
พี่อุ้มน้อง ที่ร้อง สะเทือนใจ
หวังเพื่อได้ พบพ่อ ไม่ท้อใจ
*** สายตรวจผ่าน มาพบ จอดรถถาม
พี่บอกตาม หาพ่อ น้าเห็นใหม
หนูหิวข้าว น้องหิวนม ทนไม่ไหว
ต้องจำใจ ตามหา มาตามทาง
*** สายตรวจรับ เด็กไป ที่โรงพัก
ผู้หมวดจัด การกิน เรื่องอาหาร
อีกทั้งนม ให้น้อง ร้องหิวคราง
ด้วยสงสาร พลางปลอบ กอดเด็กไว้
*** เช็ดข่าวสาร ตามโรง พยาบาล
ให้สะท้าน สะท้อน เหงือนองใหล
ข่าวที่ได้ ผู้หมวด ให้ปวดใจ
ช่างกระไร โลกนี้ ไม่ปราณี
*** พ่อเด็กน้อย ประสบ อุบัติเหตุ
ด้วยสาเหตุ รถชน คนขับหนี
แล้วจะบอก เด็กน้อย อย่างไรดี
ผู้หมวดมี น้ำใส ใหลจากตา
*** ฯลฯ ***
10 สิงหาคม 2552 01:53 น.
ลุงเอง
ของจริงย่อมหลีกเร้น อยู่ใน
จักทราบด้วยหลักไตร ลักขณ์นี้
ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ภัย กายจิต นี้แล
เป็นอนัตตาลับลี้ ยากแท้แลเห็น
0 เห็นกายแจ่มใสด้วย อนิจจัง
เห็นเป็นกองทุกขัง หยั่งรู้
เห็นเป้นอนัตตาฝัง แฝงอยู่ ในแล
เห็นชอบกอบกับรู้ เยี่ยงนี้ทรงญาณ
0 รวมกายใจเรียกร้อง ว่าตน
สมมติเรียกว่าคน ยึดไว้
ค้นหาว่าตนคน ไป่พบ ได้ฤๅ
เหตุว่าตนคนไซร้ มนุษย์ร้องเรียกเอง
0 อนัตตากับอัตต์คู่นี้ ปิดบัง กันนา
อัตต์ย่อมคอยคุมขัง สั่งให้
อนัตต์ย่อมอยู่ยัง อำนาจ ตนแฮ
ถอนอัตต์นี้ออกได้ ย่อมพ้นโลกีย์
0 อันกายกับใจนี้ ทุกเพศวัย ไร้สาระ
ตามคำพระ บอกแจ้ง แถลงผล
มีวิชา เท่านั้น มั่นคงทน
ยืดยาวจน ชีพม้วย ช่วยพ้นภัย ฯ/
10 สิงหาคม 2552 01:40 น.
ลุงเอง
กายกับใจมนุษย์นี้ พิกล
วันหนึ่งละล่องหน กี่ครั้ง
ไปทั่วปฐพีดล อาจนับ ได้ฤๅ
กายหยุดใจไม่ยั้ง หลับแล้วใฝ่ฝัน
0 ส่วนกายนั้นเล่าเฝ้า กฎเกณฑ์
ไม่หลบหลีกเอียงเอน แน่แท้
ถือหลักเรื่องตายเป็น แก่เจ็บ ไว้แล
ใจจะจัดการแก้ กฎนี้หมดหวัง
0 กายแก่เจ็บแน่แท้ ของจริง
ไม่เลือกว่าชายหญิง ทราบไว้
ใจมักจะประวิง ขอผ่อน ผันนา
กายไม่ยอมผ่อนให้ กฎนี้ของขลัง
0 ดูกายใจถ่องแท้ ขบขัน
วิวาททุ่มเถียงกัน ทุกมื้อ
นับแต่เกิดถึงวัน แดกดับ ชีพแฮ
ต่างฝ่ายต่างดุดื้อ แข็งข้อพอดู
0 กายกับใจไม่ให้ อภัยกัน
กายเร่งรีบผายผัน มิดม้วย
แก่เจ็บตายทุกวัน ใจไม่ แก่แฮ
ทั้งไม่เจ็บตายด้วย ร่วมรู้กับกาย
0 กายกับใจลักษณ์คล้าย ผัวเมีย
ร่วมสมัครรักคลอเคลีย ดับด้วย
แล้วค่อยจืดจางเพลีย เหินห่าง กันแล
เจ็บแก่แลชีพม้วย บ่ายหน้าเบือนหนี
9 สิงหาคม 2552 10:06 น.
ลุงเอง
* แม่เป็นดิน ที่ให้ไม้หยั่งราก
ให้ฝังฝากต้นอ่นอ้อนไฉน
คอยระแวดระวังทุกกิ่งใบ
แม้เติบใหญ่ลิมดินก็ยินดี
* แม่เป็นน้ำ ฉ่ำชื่นระรื่นใส
คือน้ำใจอุทิศมิหน่ายหนี
กษีรในกายแม่ยอมพลี
ลุกราคีแม่ร่ำแต่น้ำตา
* แม่เป็นลม พรมไล้ให้คลายร้อน
ทุกคำสอนลมปากฝากคุณค่า
คำของแม่พัดผ่านกาลเวลา
แม้เหนื่อยล้าแม่ทนจนสิ้นลม
* แม่คือไฟ ให้แสงแรงชีวิต
ช่วยส่องทิศส่องทางสว่างสม
แม้ลูกเป็นคนดีแม่ภิรมณ์
เฝ้าชื่นชมจนกว่าจะมอดไฟ
* แม่คือดิน น้ำ ลม ไฟ ในวันนี้
ธาตุทั้งสีสร้างชัวิตลูกสดใส
จงทำดีมีศีลธรรมประจำใจ
แม่สุขใจเห็นลูกเป็นดี
* ทุกทุกวันนั้นหรือคือวันแม่
ใช่เพียงแต่ สิบสอง หมองราศี
วันเราเกิดแม่ยอมเสี่ยงชีวี
เราต้องมี "วันแม่" ที่ในใจ