30 มีนาคม 2546 16:35 น.
ลำน้ำน่าน
@ เมื่อไอน้ำกลั่นตัว...มัวเวิ้งฟ้า
คืนสัญญาสายฝน...โปรยพรมพร่าง
รดแผ่นดินถิ่นแล้ง...แห้งเกรอะกรัง
แล้งมานานทุ่งหมอง...คลองคันนา ฯ
@ ลมฝนโปรยโชยล้าง...ดินดานแห้ง
ทั่วระแหงดินชุ่ม...ทุ้งข้าวกล้า
ระบัดใบใยชีวิต....ผลผลิตมา
สืบสัญญาบรรพชน...คนทำกินฯ
@ บนฟ้ากว้างคระครื้น...ชื่นฉ่ำฝัน
ปลุกเงียบงันเนิ่นนาน...ตำนานสินธุ์
มวลเทวาหลั่งเมตตา...มาโลมดิน
ทั้งทั่วสิ้นดินทอง...รองเรืองเงินฯ
@ มาลิ่วรักล้อลม...ห่มใบข้าว
กบหนุ่มสาวครึกครื้น...ระรื่นฝน
จับคู่เคียงบรรเลงทุ่ง...คุ้งระงม
กลบตัวตนบดบังเศร้า..ร้าวชาวนาฯ
@ ล่องเรือพายสาหร่ายแหน...แพโสน
ดอกกระโดนร้อยมาลัย...ไต่ถามหา
ลมข้าวเบาล่องหนัก...รักอวลมา
หอมคุณค่าทุ่งสวรรค์...วันฝนโปรยฯ
------------------------------------------------------------------------------------------
วันพระพิรุณพร่างโปรยมา พาให้ใจดวงนี้
ได้เรียนรู้และซาบซึ้งกับธรรมชาติกำนัลกับสายฝนและลมบน
กับท้องทุ่งที่เป็นคุ้งสวรรค์ของชาวนามาตั้งแต่เก่ากาล
26 มีนาคม 2546 23:48 น.
ลำน้ำน่าน
หวานพร่างมาจากไหน...พฤกษ์ไพรป่า
พุทธรักษาบุปผชาติ...หยาดสวรรค์
ลำน้ำน่านสะท้านจิต...พิศดวงจันทร์
คล้ายเจ้านั้นมาอาทร....ถึงม่อนดินฯ
เหลืองอรุณีสีอร่าม...ตำนานพุทธ
งามผ่องผุดสรณะ...พระสุรสีห์
งามช่อดอกออดอ้อนชม..บ่มอินทรีย์
หวั่นฤดีพี่พบเจ้า....ว้าวคำโคลงฯ
แม้นปล่อยไว้ให้เวลา...พารักร่วง
ทั้งดอกดวงคงจะเศร้า...ร้าวขื่นขม
หนาวน้ำค้างโปรยพร่างมา....จากป่าดง
หวังเชยชมพุทธรักษา...ครารุ่งราง
เลื่อมเหลืองลายสอดสาย...ลายรักแรก
เจ้าดูแปลกแยกจากวงศ์...พงศ์พฤกษา
กลีบหวานไหวให้หลงพร่ำ...จำนรรจา
พุทธรักษามาร่ายคำ.....หวั่นหลงชมฯ
ดอกไม้หวานกลางใจ....ห่มไอรัก
อยากสมัครรักดอกเจ้า....เคล้าดอกฝน
ด้วยหวั่นนักรักเจ้านั้น...หวั่นคำคน
ไม้มงคลพุทธรักษา....ข้าจนใจฯ
25 มีนาคม 2546 11:54 น.
ลำน้ำน่าน
ให้โดดเดี่ยวแล้วเชี่ยวกราก...หลากน้ำน่าน
จากวันวานผ่านมา....ดั่งฟ้าหมอง
ไหลลำพังหนาวนัก....รักราญรอน
อยากคืนคอนมองดาวเลื่อน....เตือนศรัทธา
เป็นคนเก่าร้าวอยู่ใน...เมืองใหญ่หลวง
อยู่ในบ่วงสังคมทราม...ย่ามปัญหา
อาศัยจิตประคองฝัน....ระดาษดา
เช็ดน้ำตาแล้วท้าสู้.....อยู่เดียวดาย
หวานนวลจันทร์ดอกนั้น...จันดาหลา
ประโปรยมาให้ชื่นจิต...มิตรสหาย
กลีบดอกเจ้าเว้าวอน....มิคลอนคลาย
ฝากใจกายไปกับเจ้า.....คราวดอกบาน
บทกวีหวานฝากมา......ว่าซาบซึ้ง
มิตรตราตรึงรำพัน......วันอุษา
จะงามไหนหมื่นเท่า.....เงาจันทรา
งามดาราจันดาหลัน.....จำนรรกลอนฯ
ขออภัยผองเพื่อนและลานกวีแห่งนี้... ขอฝากไปยังคุณจันดาหลัน ด้วยมิตรและไมตรี ..กับวันนี้ที่ได้เรียนรู้และซาบซึ้งว่า มิตรภาพนั้นงดงามยิ่งกว่าสิ่งใดใดในโลกหล้า....
23 มีนาคม 2546 01:32 น.
ลำน้ำน่าน
ณ..คิมหันต์วันระวี...ที่ผันผ่าน
ดอกหญ้างามบานรับ...กับวันใหม่
ดอกต่ำต้อยร้อยไออุ่น...กรุ่นพงไพร
อวลอุ่นไอไล่ลมหนาว...ร้าวดงดอน
เป็นดอกหญ้าน้อยนิด...จิตคิดหวัง
ฝันถึงวันพันธนา.....ท้าผยอง
จะโรยกลีบหว่านไหว...ไรละออง
ไปเกลือกกลอนรอยไถ.....ในดงดิน
จะยืนหยัดท้าสู้.....อยู่บนฝัน
บ่มเพาะพันธุ์เมล็ดงาม....สืบสานกิ่ง
ระบัดใบระยับย้า..... หญ้าแผ่นดิน
ชุบชีวินผองคนจน....ระทมกาล
มิใช่หรือคือดอกหญ้า.....ที่กล้าแกร่ง
สู้ลมแรงแผ่วแผ่วว่า.....ล้าความหวัง
คืนเหน็บหนาวพราวน้ำค้าง...นานเนิ่นวัน
ดอกหญ้านั้นฝันไปว่า......ฟ้าคือดิน
18 มีนาคม 2546 00:26 น.
ลำน้ำน่าน
ริ้วลมว่าวล่องมาหน้าสิ้นหนาว
ดอกทองกวาวผลิหวานบานไสว
มองรวงทองผ่องผุดสุดอำไพ
หอมอุ่นไอฟางข้าวที่พราวลาน
เสียงเพลงแคนหวานแว่วแผ่วแผ่วว่า
วอนสาวนาคืนทุ่งมุ่งถิ่นฐาน
จะโน้มเกี่ยวเกี้ยวเจ้าคราวรักบาน
สุดสำราญรักล่องกล่อมแดนดิน
โสนบานดอกจานไหวไล้โลมทุ่ง
ดอกผักบุ้งลมนอกดอกกระถิน
กระยางขาวร่อนถลาลงหากิน
กระดี่ดิ้นแดดจ้าถึงคราตาย
ให้มาร้าวหนาวหนักรักเดือนห้า
เมื่อน้องนางลืมนาผ้าซิ่นสาย
ทิ้งรวงทองคอยเคียวอยู่เดียวดาย
ฝนเริ่มปรายคล้ายว่าแก้วตาเลือน
อยู่แห่งไหนรวงข้าวสาวชาวทุ่ง
อยู่เมืองกรุงถิ่นไหนที่ใดเหมือน
พี่ครวญขลุ่ยร้าวไปในแสงเดือน
หวังดลเตือนรวงทองคืนท้องนา