12 มิถุนายน 2556 23:20 น.
ลักษมณ์
ดื่มด่ำดึกดื่นดาวดั่งรู้สึก
ดำดิ่งลึกลงสู่ใจที่ไหวห่วง
อนันตจักรวาลอันกลางกลวง
ทะลุล่วงเอกอมฤตธรรมอำไพ
จับเอาห้วงจักรวาลอันเวิ้งว้าง
ออกมาวางเข้าหว่างดาวพราวสุกใส
เวิ้งว่างอยู่กึ่งกลางหาวที่ยาวไกล
มีเพียงใจที่ไปถึงซึ่งปลายทาง
ดาว
5 มิถุนายน 2556 19:26 น.
ลักษมณ์
เขียนกลอนกานท์ร่ายเรื้อ
โรยริน
ให้สุดคำจมจินต์
โลกไร้
ปรภพจบพังภิณท์
พินาศ
พากย์พจน์จดจารไว้
จวบสิ้นประลัยกัลป์
เขียนให้สุดคำ
ปรพากย์
9 พฤษภาคม 2556 19:12 น.
ลักษมณ์
ดับหมดมิกลับข้าม
คืนมา
สร่างซึ่งปฏิจจา
สมุปเบื้อง
สติปัฏฐานา
สมุจเฉท
คือมรรคอันปลดเปลื้อง
ดับสิ้นอาสวะ
นิพพาน
9พ.ค.56
9 พฤษภาคม 2556 14:36 น.
ลักษมณ์
สวรรค์ทุกฟากฟ้า
คือพยาน
นรกคือสุสาน
ป่าช้า
ดาวดึงส์ดั่งวิมาน
ความสุข
ความทุกข์ในใจข้า
ดุจห้วงอเวจี
ดาวดึงส์
9พ.ค.56
8 พฤษภาคม 2556 01:09 น.
ลักษมณ์
¤ สดับเสียงเสนาะก้อง
กังวาล
ราวกับครั้งพุทธกาล
อยู่ใกล้
ปลุกให้ตื่นเบิกบาน
ไปทั่ว
โสตประสาทได้
รับรู้หยั่งถึง
¤ จะเขียนใจให้สว่าง
สงบเย็น
เท่าที่ใจมองเห็น
หยั่งได้
ดับความมืดหม่นเหม็น
ร้อนรุ่ม
ที่จ่อมจมหมกไหม้
อยู่ห้วงอเวจี
¤ เอาอเวจีจุ่มห้วง
โลกันตร์
เอาสวรรค์มาปั่น
ขยี้
เอาอรูปพรหมัน
มาโขก
เอาโลกธาตุมาบี้
บดให้ถึงธรรม
สดับ/ใจ/ธรรม
5พ.ค.56