5 สิงหาคม 2552 11:02 น.

ลูกจ๋า...ลูกอยู่ไหน

ละไมฝน

..................
ลูกจ๋า...ลูกอยู่แห่งไหน
ทำไมไม่มาหาแม่
ห่างหายไร้คนดูแล
ทิ้งแม่เดียวดายนานมา

เคยกอดเจ้าอุ่นอกแท้
ดื่มนมแม่จนเติบกล้า
ป้อนข้าวป้อนน้ำทุกครา
อุ้มลูกนั่งบ่าชมจันทร์

เหนื่อยไหม...มาหนุนตักแม่
มาดูความแก่แม่นั้น
หงอยเหงาหง่อมลงทุกวัน
คอยรักคอยฝันจากเรา

ของฝากหมากพลูเงินทอง
ไม่เคยหมายปองจากเจ้า
ขอเพียงเห็นหน้าบรรเทา
คลายเหงาเศร้าแล้วแก้วตา

อยู่ไหน...ไยไม่กลับบ้าน
สงสารแม่คอยเห็นหน้า
เช้าเย็นวันเดือนเคลื่อนคลา
แม่นี้คอยท่ารับขวัญ

ท้อแท้...ชีวิตบ้างไหม
สายใย สายรัก รับขวัญ
"ฝ้ายขาว" คอยผูกแขนนั้น
ผูกสายสัมพันธ์แม่ลูก

น้ำใจจากใจให้แม่
เพียงแค่ความรักพันผูก
คิดถึงแม่บ้างนะลูก
ยามเมื่อลูกร้างห่างไกล...
..............
ละไมฝน				
4 สิงหาคม 2552 08:18 น.

เหลือเพียงดินแล้งแห้งน้ำ

ละไมฝน

ทางเทียวเขียวค่ำย่ำไป
ทางใดดุ่มเดินเหินหาว
ทางรุ้งมุ่งสรวงดวงดาว
ทางยาวย่นย่อ...รอรุ่ง

อรุณกรุ่นอายสายเหมย
ชดเชยชีพสรรค์วันพรุ่ง
หว่างทางร้างรักจักปรุง
จรุงมุ่งมั่น...ฝันไกล

สุดสายปลายทางแห่งฝัน
คือฝันหวนคืนนาไร่
ก้าวเดินก้าวเดินต่อไป
แม้นไกลเพียงไหน...ไปถึง

ทางเดินแดดกล้าฝ่าแดด
เปลวแผดเผาใจดวงหนึ่ง
รุ่มร้อนลึกล้ำรำพึง
คำนึงถึงฝัน...ฝันกล้า

แม้นโหยโรยแรงแกร่งกร่อน
ริดรอนแรงเปลี่ยวเรี่ยวล้า
วันแล้ววันเล่าล่วงลา
ถือพร้าแบกจอบ...จูบดิน

ทางเทียวเขียวค่ำย่ำเท้า
เหน็บหนาวเนื้อใจจ่อมสิ้น
ฝันหา  หาที่ทำกิน
เหลือเพียงดินแล้ง...แห้งน้ำ
...................
ละไมฝน				
3 สิงหาคม 2552 14:43 น.

ชาวนาจ๋า...อย่าร้องไห้

ละไมฝน

กี่ปีแล้วที่หลังเราหยัดสู้ฟ้า
กี่ปีแล้วที่ดวงหน้าจูบดินแล้ง
กี่ปีแล้วที่ข้าวยากและหมากแพง
กี่ปีแล้วที่ไส้แห้งกว่าแร้งโรย

ถามฟ้ากว้างก็อ้างว้างมิสร่างสิ้น
ถามผืนดินก็เงียบงำคำตอบโหย
ถามผู้นำถึงคำหวานที่หว่านโปรย
ย้ำถามโดยชาวนาตาดำดำ

ช่างเงียบเหงาเป็นเป่าสากกระดากนัก
รัฐมนตรีที่รักกระอักซ้ำ
นโยบายขายซื้อหรือจำนำ
ราคาข้าวยังตกต่ำระกำใจ


หวังพึ่งใครไหนเล่าเหล่ารากหญ้า
หวังพึ่งฟ้าก็แล้งลมพาห่มไห้
หวังพึ่งดินก็สิ้นหวังกำลังใจ
หวังพึ่งใครในวันนี้ไม่มีเลย

เราประท้วงท่านก็จับเราเข้าคุก
ส่วนคนบุกสนามบินใยทำเฉย
นิติธรรมเมืองไทยอยู่ไหนเอย
โปรดเฉลยคำหวานผ่านสภา

คอยหยาดฝนหล่นหายที่ปลายเมฆ
คอยพระเอกในดวงใจอยู่ไหนหนา
คอยผู้แทนของเราชาวประชา
เช็ดน้ำตาผู้ยากไร้ในแผ่นดิน

ชาวนาจ๋า...ชาวนาอย่าร้องไห้
อดทนไว้อย่าให้ใครเขาหมิ่น
เก็บน้ำตาแห่งหวังไว้หลั่งริน
บนผืนดินปลูกข้าวของชาวนา...
..............................
ละไมฝน				
30 กรกฎาคม 2552 19:55 น.

แด่...ดอกไม้ในมวยผม

ละไมฝน

โอ้ว่าดวงดอกไม้สาว
พิสุทธิ์ราวดาวพร่างฟ้า
ผุดผาดวาดหวังแห่งประชา-
ธิปไตยแดนป่าเถื่อนสิ้น

เด็ดเดี่ยวโดดเด่นกลางป่า
งามสง่าไปทั่วแคว้นถิ่น
มิสมยอมในมือแห่งอริน
มิสิ้น...กลิ่นหอมแห่งสุมาลย์

ดอกไม้ในมวยผมหญิงแกร่ง
มิแห้งเหี่ยวเฉาอ่อนหวาน
เบ่งบานทุกเช้าทุกกาล
ตราบนานเท่านานผ่านไป

ควรคู่ผู้หญิงคนนั้น
ควรค่าคนฝันยิ่งใหญ่
สงบงามแม้นยามมีภัย
มิหวาดหวั่นไหวในแววตา

แม้นไร้ซึ่งแสงตะวัน
ไฟฝันสว่างอย่างกล้า
ในแดนมืดมนอนธการ์
ดอกไม้มิล้าโรยร่วง

เบ่งบานอยู่ในมวยผม
แม้ถูกครอบข่มหนักหน่วง
สดใสในใจชนทั้งปวง
แม้กาลผันล่วงช่วงชิง

โอ้ว่าดวงดอกไม้สาว
พิสุทธิ์ราวดวงดาวสกาวยิ่ง
จงหยัดยืนแกร่งกล้าอย่าประวิง
เธอคือหญิงกล้าแห่งประชาธิปไตย...

เขียนให้นางอองซาน  ซูจี    ขอให้เธอจงได้รับอิสระในวันพรุ่งนี้
 
ด้วยศรัทธา...
ละไมฝน				
28 กรกฎาคม 2552 12:24 น.

ตำนานเมืองสาเกต

ละไมฝน

- ๑ -

เมืองร้อยเอ็ด                  สิบเอ็ดประตู
มีคลองมีคู                       รอบเมืองโบราณ
นครสาเกต                     ขอบเขตไพศาล
ครั้งพุทธกาล                   สืบสร้างรุ่งเรือง

สิบเอ็ดเมืองขึ้น                พลิกฟื้นเมืองเก่า
รายรอบทางเข้า               สิบเอ็ดประตูเมือง
ศิลปวัฒนธรรม                เลิศล้ำฟูเฟื่อง
ต่อตำนานเมือง                สาเกตกว้างไกล

มิ่งเมืองสาเกต                 สิบเอ็ดถิ่นแคว้น
ผู้ครองดินแดน                เลื่องชื่อลือไกล
ท้าว " กุลุนทะ"                กษัตริย์ยิ่งใหญ่
ร้อยรักร้อยใจ                   ประชาร่มเย็น


                     - ๒ -

สมัยกรุงศรี-                    อโยธยา
ข้าศึกบีฑา                       ประชารำเค็ญ
ทำร้ายไพร่ฟ้า                  รีดนาทาเร้น
ถึงยุคยากเข็ญ                 อาณาจักรล่มพลัน

เมืองร้างอาเพศ                ทั่วเขตทั่วแดน
วังเวงเหลือแสน               เมืองไร้ราชัน
ต้นกุ่มเกิดก่าย                  มากมายเหมือนฝัน
ต่างเรียกขานกัน              " บ้านกุ่ม" ร้างคน


                     - ๓ -

ตำนานเล่าขาน                เล่าผ่านแผ่นดิน
สมเด็จตากสิน                 แผ่นดินกรุงธน
โปรดเกล้าแปงปูม            บ้านกุ่มร้างคน
เพื่อสืบเชื้อชน                  นามเมืองร้อยเอ็ด

แต่งตั้งท้าวทนต์              สืบชนเชื้อเจ้า
เรืองบุญเมืองข้าว             หอมไกลข้ามเขต
"ขัตติยะวงศา"                 ท้าวกล้าใจเพชร
เป็นเจ้าร้อยเอ็ด               สร้างบ้านแปงเมือง


                       - ๔ -

อีสานกว้างแสน               สองแดนมลฑล
ร้อยเอ็ดงามยล                มลฑลร่มเมือง
ขึ้นต่อลาวกาว                  ท้าวลาวหนุนเนื่อง
คู่มิ่งคู่เมือง                     "ฮุ่งเฮือง" เรืองรอง

สองสี่เจ็ดห้า                     ประชาหน้าใส
ปีประเทศไทย                 เปลี่ยนการปกครอง
มณฑลอิสาน                     ทุกย่านทั้งผอง
เปลี่ยนตามครรลอง         เป็นจังหวัดไทย...


                                              ละไมฝน / รจนา				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟละไมฝน
Lovings  ละไมฝน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟละไมฝน
Lovings  ละไมฝน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟละไมฝน
Lovings  ละไมฝน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงละไมฝน