25 สิงหาคม 2552 08:25 น.
ละไมฝน
พระคุณแม่ ยิ่งฟ้า มหาสมุทร
แสนพิสุทธิ์ ประจักษ์ผ่าน กาลสมัย
รักของแม่ แท้จริง กว่าสิ่งใด
แม่ของเรา ยิ่งใหญ่ กว่าจักรวาล
ตั้งแต่เรา ลืมตา มาดูโลก
นับเป็นโชค วาสนา มหาศาล
ใต้ร่มบุญ อุ่นละไม เปรียบใดปาน
ทั้งดวงมาน มีแต่ให้ ห่วงใยรัก
แม้เหน็ดเหนื่อย เพียงใด แม่ไม่หวั่น
แม่ต่อสู้ เพื่อฝัน จนประจักษ์
แม่บันดาล การศึกษา แก่ลูกรัก
ด้วยตระหนัก ในคุณค่า ของชีวิต
เพราะมีแม่ เราจึงมี ที่ยืนอยู่
เพราะมีแม่ จึงมีครู สอนลูกศิษย์
เพราะมีแม่ จึงอบอุ่น อยู่เป็นนิจ
เพราะมีแม่ ให้ชีวิต และจิตใจ
ในวันนี้ เราไม่มี แม่อีกแล้ว
ดั่งดวงแก้ว แตกดับ ลับสมัย
สิ้นแสงทอง ส่องฝัน อันอำไพ
จะหาใคร เหมือนแม่ไม่มีแล้ว
ขอกุศล ผลบุญ แม่เพียรสร้าง
จงนำทาง สู่สวรรค์ อันเพริศแพร้ว
สุขสงบ พบทาง สว่างแนว
บนเมืองแก้ว ทิพย์วิมาน กาลนิรันดร์
10 สิงหาคม 2552 09:49 น.
ละไมฝน
-๑-
ระยับรักระบัดฤดีสิเนหา...
ราวมนตราตรึงใจในคืนกระจ่าง
ระยิบวาวสกาวจรัสคัตนางค์
สรวงสุรางค์คณาดาวพราวนิรันดร์
น้ำฟ้าพร้อยพริ้งพิไลใสพิสุทธิ์
เปรียบประดุจหยาดทิพย์กระซิบฝัน
อาบราตรีประดับดาววิบวาววรรณ
เชิญเสกสรรนิยายรักสักนิทรา
ระดาดาริการะเริงระริกระรี้
กระซิกกระซี้วจีสาวปวงดาวฟ้า
ระงมเย้าเจ้าชายแห่งทิวา
ส่องแสงมาชุบดวงตาดาวสดใส
หากกาลสมัยไร้แสงสุรีย์ศรี
ณ ราตรีมืดมัวหมองหม่นไหม้
จักรวาลกว่ากว้างไร้ดวงไฟ
ฤดีดาวร้าวห่มไห้ในคืนราน
๒
ฉันเป็นเพียงก้อนหินถวิลว้าง
ล่องลอยคว้างกลางหาวเหน็บหนาวซ่าน
ดุจอณูพลิ้วไหวในจักรวาล
เมื่อถึงกาลแตกดับลับสิ้นสูญ
เพียงแสงหนึ่งส่องฝันถึงฉันบ้าง
หินเหว่ว้างสว่างไสวอวลไออุ่น
พร่างพรายแสงแจ่มฟ้ามาขอบคุณ
เมื่อแสงสูรย์....จูบยอดชู้พธูดาว
...................................
ละไมฝน
7 สิงหาคม 2552 07:26 น.
ละไมฝน
อยู่กับฉันนานนานนะเยาว์วัย
ความฝันคือ...ความหวานที่แสนเหงา
คลุมห่มหอมชีวิตเราในเงาหม่น
เปลือกตาแห่งรัตติกาลหรุบมืดมน
ยอมจำนนต่อนิทราอันล้าโรย
หยาดน้ำค้างจูบดอกไม้ไหวสะท้าน
เร่งฝันผ่านวิถีคืนตื่นระโหย
ลมหายใจดาวรุ่งจรุงโปรย
หนึ่งฝันโดยฝันใดใยสั่นคลอน
ความฝันดุจวงแขนแห่งปรารถนา
อาจเอื้อมคว้าดาริกามาออดอ้อน
อบอวลหอมในอ้อมฝันหวานอาทร
กลืนโมงยามหนาวร้อนให้ผ่อนเพลา
ฉันเฝ้าฝันเก็บฝันไว้เนานาน
จวบจนรัตติกาลผ่านความเหงา
อยู่กับฉันนานนานนะวัยเยาว์
อย่าทิ้งฉันแก่เฒ่าเศร้าเดียวดาย
.......................
ละไมฝน
6 สิงหาคม 2552 16:41 น.
ละไมฝน
แจ่มจันทร์...จันทร์แจ่มฟ้านภาลัย
จันทร์กระจ่างกลางใจใครคนหนึ่ง
แจ่มลาวัลย์ขวัญสะคราญหวานคำนึง
จันทร์แจ่มซึ้งตรึงใจของใครจันทร์
เจ้าของจันทร์คือตะวันหรือจันทร์สาว
หรือปวงดาวพราวพร่างกระจ่างฝัน
หรือขุนเขายามกอดซบหลบตะวัน
หรือห้วงมหรรณพ์ยามจันทร์ช้ำดื่มน้ำตา
อิจฉาลมโลมลูบลอบจูบเจ้า
เคืองเมฆขาวบังเงาจันทร์เจ้าขา
ชังน้ำค้างอยู่มิวายพรางสายตา
เกลียดฟากฟ้ากอดจันทร์ฉ่ำทุกค่ำคืน
จันทร์รู้ไหมใครแหนหวงดังดวงจิต
จันทร์รู้ไหมใครชมพิศฝันชิดชื่น
จันทร์รู้ไหมใครครวญคร่ำทุกค่ำคืน
จันทร์รู้ไหมใครหยัดยืนใต้เงาจันทร์
กวีฝัน..ใต้เงาจันทร์ก็หวานแล้ว
ยิ่งเพริศแพร้วหากจันทร์สาวเจ้าร่วมฝัน
ประกาศรักเย้ยดารา...วิวาห์จันทร์
ด้วยหมายขวัญจันทร์หวานมานปี
.
ละไมฝน
5 สิงหาคม 2552 15:28 น.
ละไมฝน
หมอกมิวายรักภูผาหินตราบสิ้นลม
...................................................................
สายหมอกพลิ้วละอองหวานเหนือธารใส
เอ่ยความนัยลึกซึ้งถึงภูผา
ฉันรักเธอเสมอผ่านกาลเวลา
โอ้อกผาเมินหมางหรืออย่างไร
ชะโงกเงื้อมเอื้อมคว้าดาวระยับ
อยู่สูงลับนับคณานึกล้าไหม
เพ้อรำพึงถึงจันทร์อันอำไพ
มิเจียมใจว่าจะช้ำครวญรำพัน
ละมุนหมอกละไมถามยามเช้าชื่น
มีใครอื่นชื่นชมภิรมย์ขวัญ
หลังม่านทิพย์กระซิบรักลดาวัลย์
หรืออ้อนฝันตะวันจ้ามาแนบชิด
นวลหมอกนุ่มห่มหอมถนอมผา
ในยามล้าช่วยชุบฝันบรรเจิดจิต
คราแห้งผากชวนภิรมย์พรมจุมพิต
แสนสนิทสนมรักประจักษ์กาล
เอื้อโอบกอดพรอดรักผามานานเนิ่น
เย้าหยอกเอินทุกอรุณกรุ่นไอหวาน
ใจจงรักภูผา...มาช้านาน
ตราบสิ้นกาลอวสานโลกวิโยคสลาย
สายหมอกพลิ้วละอองหวานบันดาลรัก
ตรึงตระหนักรักผากผากว่ามาดหมาย
ผาเงียบงันฝันอาดูรดูเดียวดาย
หมอกมิวายรักผาหินตราบสิ้นลม...
...............................
ละไมฝน