13 ตุลาคม 2553 21:25 น.
ละไมฝน
หอมจำปา การเวก การะเกด
ขี่ม้าเทศ ชมพรรณไม้ วิไลหอม
กรรณิการ์ เอื้องหลวง พวงพะยอม
ชวนเด็ดดอม แก้วกาหลง พะวงจันทร์
กลิ่นซ่อนชู้ ช้องนาง ปางซ่อนกลิ่น
อินทนิล ม่วงสม นมสวรรค์
กลีบนางแย้ม ยิ้มสยาย บัวสายนั้น
ช่อปาหนัน รำพันหา ปาริชาติแดง
เบญจมาศ บุนนาค ประดู่เหลือง
พุ่มดาวเรือง เฟื่องฟ้า บุหงาแฝง
บานเย็นขาว บานเย็นเหลือง บานเย็นแดง
ดอกสะแบง สะเลเต ดอกเร่รัก
ทานตะวัน กุหลาบมอญ ฉะอ้อนกลิ่น
ครวญถวิล ถึงบังอร นอนแนบตัก
ดอกกาหลา ชมพูนวล เย้ายวนนัก
ฉันหลงรัก ทองกวาว คัดเค้าดง
ดอกแคขาว พราวฝัน กัลปพฤกษ์
หอมยามดึก ชวนชิด พิศวง
เล็บมือนาง จันทน์กะพ้อ ช่อประยงค์
พู่ระหงษ์ เขี้ยวกระแต ชะแง้มอง
กล้วยไม้หอม เอื้องคำ หอมยามเช้า
กลีบรองเท้า นารี งามเหลืองผ่อง
พู่ดอกจิก ระริกชื่น รื่นลำพอง
ดอกกางของ หรือดอกปีบ พุดจีบใจ
ผกากรอง กระทิง เอื้องช้างน้าว
ดอกเข็มขาว เข็มแดง อยู่แห่งไหน
ชบาด่าง หางนกยูง ดอกไม้ไทย
ทรงบาดาล บานเมื่อไหร่ ได้ชื่นชม
ทับทิมดอก แดงสด สะกดเนตร
ทั่วแคว้นเขต นนทรี ฤดีสม
นมตำเลีย ขาวอะเคื้อ ชวนเบื่อนม
หอมนิยม ดอกนมแมว ดอกแต้วงาม
ดอกตำลึง ริมรั้ว บานยั่วฝัน
พวงชมพู พวงนั้น รำพันถาม
ภมรชะม้าย พระพายพัด สงัดยาม
ดำเนินตาม ราวไพร ธารไหลริน
ลำดวนดง โยทะกา ระย้าย้อย
งามแช่มช้อย ดอกดองดึง รำพึงกลิ่น
พุทธชาด สุพรรณิการ์ เพกาดิน
ขจรกลิ่น ขจายฝัน เฉิดฉันช้อน
ขาวมะลิ พิกุลแกม แก้มมารศรี
มะลุลี มะลิวัลย์ สุคันธ์สมร
ลั่นทม มณฑา ทิพย์ขจร
ตะวันรอน อ่อนแสง ค่ำแลงลง
ขี่ม้าเทศ ชมพรรณไม้ เมืองไทยนี้
ดวงฤดี แจ่มใส แลใหลหลง
คันธรส หอมละไม ลืมไม่ลง
กลิ่นอนงค์ นุชน้อง ยังต้องใจ...
(ยังเหลือดอกไม้ชนิดใด ช่วยต่อให้ด้วยจ้า)
[i]ละไมฝน*Cum [/i]
6 ตุลาคม 2553 20:48 น.
ละไมฝน
ฤดูหอมเห็ดหวาน
...................
ปิดเทอมแล้ว ลูกเสือสาว ละไมฝน
ชวนทุกคน เข้าป่า หาเห็ดอร่อย
คนอยู่บ้าน ตั้งหม้อ ไว้รอคอย
จวนตะวัน ค่ำคล้อย จะกลับมา
อันโคกใหญ่ ท้ายบ้าน ยายท่านกล่าว
มีเห็ดอ่อน ขอนขาว พราวเต็มป่า
เห็ดละโงก งอกงาม ตามวนา
มีคุณค่า โปรตีน กินอิ่มท้อง
เห็ดข้าวไค ใครได้ชิม แล้วยิ้มหวาน
เห็ดหำฟาน* ลานราย มากมายต้อง
ค่อยค่อยเก็บ ค่อยค่อยกำ ตามทำนอง
เสียงนกร้อง ก้องพนา พารื่นรมย์
เห็ดหน้าดำ เห็ดหน้าแดง แกงอร่อย
กระจ้อยร้อย เห็ดมันปู ดูประถม
เห็ดรวงผึ้ง ผายผาด มาดมัธยม
เห็ดรสขม เฝื่อนสะเด็ด เห็ดยูคาฯ
เห็ดนมเสือ เหลือตะกร้า มหา,ลัย
รสละไม นุ่มลิ้น ถวิลหา
เห็ดกระสือ ลือว่า เรืองแสงรา
วาวงามตา กินตาย หงายท้องพลัน
เห็ดระงาก คู่แฝด เห็ดระโงก
กินแล้วโชค ไม่ดี ชีวีสั้น
เห็ดร่างแห เห็ดระย้า รสเย็นมัน
กินแล้วฝัน ถึงพระยม ใครจะยอม
เห็ดขี้ควาย รสเบื่อเมา แต่น่าสน
บุปผาชน ชอบสูดดม รมควันหอม
เอากัญชา มาแลก ก็ไม่ยอม
เมามายพร้อม เสพติด ชวนติดใจ
เห็ดเผาะน้อย ลานนา เรียกเห็ดถอบ
เคี้ยวกรุบกรอบ ชอบกิ๋น หื้อม่วนใจ๋
เห็ดถอบนี้ ปี๋นึ่ง ตึงจะได้
กิ๋นแซบให้ เตื้อเดียว เชียวสุดปี
เห็ดงูเห่า เมาเบื่อแท้ แก้พิษร้อน
วัยละอ่อน กินตาย กลายเป็นผี
เห็ดกระโดน เห็ดจิก เกิดมากมี
เลือกไม่ดี ชีวาตม์ อาจอาสัญ
ละไมฝน ลูกเสือสาว ผู้เชี่ยวชาญ
เรื่องเห็ดบ้าน เห็ดป่า พาเลือกสรร
เห็ดกินได้ ดูไม่ยาก ฝากบอกกัน
เห็ดมีหนอน กินก่อนนั้น กินไม่ตาย
เห็ดแปลกหน้า ในป่า ดารดาษ
สีผุดผาด ก้านสวมแหวน ว่าอย่าหมาย
เก็บมาแกง กินกัน อันตราย
ชีพมลาย ได้ลงข่าว หนังสือพิมพ์
ตะวันคล้อย เคลื่อนลง ตรงยอดไม้
จึงกลับไป เคหา หน้ากระหยิ่ม
เห็ดมากมาย พายตะกร้า หน้าเปื้อนยิ้ม
แกงให้อิ่ม ทั้งบ้าน สำราญจินต์
กลิ่นหม้อไหม้ โชยมา ถึงป่ากว้าง
แฟนอ้างว้าง รอนาน พาลหลับสิ้น
พอถึงบ้าน พานพบ ร่างกลบดิน
เพราะเผลอกิน เห็ดระงาก รากแตกแตน...
.........
ละไมฝน*Cum
หมายเหตุ : เห็ดหำฟาน เป็นเห็ดชนิดหนึ่ง รูปร่างคล้ายส่วนนั้นของฟานตัวผู้
ฟาน เป็นสัตว์ป่า รูปร่างหน้าตาคล้ายสุนัขบ้าน
6 ตุลาคม 2553 10:07 น.
ละไมฝน
แสงแดดหวานวันหนาวหอมข้าวใหม่
ทุ่งข้าวใหญ่เก็บเกี่ยวด้วยเคียวเปล่า
เหลืองรวงทองรองเรืองมีเรื่องราว
ปี่ฟางข้าวของข้าฯ เริ่มล้าราน
เคยขี่ควายเป่าปี่ฟางระหว่างพัก
เสนาะนักนกขุนทองร้องขับขาน
ประสานเสียงสำเนียงดังก้องกังวาน
เติมตำนานเพลงทุ่งจรุงใจ
ตอฟางแห้งดัดแปลงเป็นปี่เป่า
กล่อมควายเฒ่าตัวสุดท้ายใช้คราดไถ
ทุยทำงานผ่านร้อนหนาวนานเพียงใด
สมควรได้ผ่อนพักสักเพลา
แม้นเพียงเสี้ยวหนึ่งปีก็ดีถม
เพราะลุยตมมานานประมาณค่า
ควายเปลี่ยนแรงเป็นรวงเหลืองงามตา
ปี่ฟางข้าฯ คือแรงเข็ญเจ้าเช่นกัน
คนกับควายเคยพึ่งพามานานเนิ่น
หากแก่เกินแม่ควายก็วายขวัญ
ถูกแล่เนื้อเถือหนังบ้างเป็นรางวัล
ที่นึกฝันแก่ตายอย่าหมายคอย
ลมชายทุ่งถามข่าวว่าวปักเป้า
ทุยควายเฒ่าเหงาง่วงช่วงปลดปล่อย
จากงานนาเหนื่อยหนักเหมือนพักคอย
รอ"นายฮ้อย"มาซื้อไปจากไร่นา
ทุ่งข้าวหม่นผลผลิตจากควายเหล็ก
ควายไฮเทคกินน้ำมันมากนักหนา
เสียงปี่ฟางเดียวดายที่ปลายนา
แสนเหนื่อยล้าความเปลี่ยนแปลงช่างแรงเร็ว
.............
ละไมฝน*Cum
18 กันยายน 2552 16:26 น.
ละไมฝน
จดหมายจากนายฝันละไมถึงกวีสาวเพียงพลิ้ว
ฉบับที่ ๖
สวัสดีบ่ายวันศุกร์ไม่สนุกสนาน
วันทั้งวันฝันเฟื่องแค่เรื่องงาน
ไม่เบิกบานอารมณ์สมฤทัย
ในบางคราหน้าที่ก็น่าเบื่อ
ไม่หลงเหลือเวลาน่าพิสมัย
อยากท่องโลกฝันบันดาลใจ
ราวกับไร้แรงรักมาผลักดัน
พอว่างงานก็เย็นย่ำมืดค่ำแล้ว
เจ้าขวัญแก้วคอยหวังจะรังสรรค์
แวะชมผลงานพี่ทุกวี่วัน
ละไมฝันขอบคุณอบอุ่นรัก
ใคร่ขอโทษที่ตอบจดหมายช้า
มิใช่ว่าไร้สัจจารักษาศักดิ์
แจ้งความนัยตามวาจาสวามิภกิ์
จงประจักษ์ใจว่ายังน่าคบ
อยู่บ้านนอกคอกนามาแต่น้อย
และไม่ค่อยเจริญไม่เจนจบ
อินเตอร์เน็ตไปไม่ถึงจึงเซาซบ
ฝุ่นตลบทางลูกรังร้อนแล้งจริง
ถึงนาแล้งมิแล้งใจให้ใครหมิ่น
มิสูญสิ้นความหวังใดในทุกสิ่ง
จดหมายกลอนถึงใจจากใจจริง
แม้นเวลาหยุดนิ่งไม่ทิ้งฝัน
ผลงานน้องพี่แวะอ่านผ่านตาบ้าง
เวลาว่างกลับไม่เอื้อเกื้อคำขาน
ได้ชื่นชมสมอุรามาช้านาน
ช่างแสนหวานกลอนรักสลักใจ
นับแต่จดหมายฉบับที่ห้าอุราหนาว
เหินห่างสาวขวัญน้องผู้ผ่องใส
เพียงพลิ้วเพลินกมลอยู่หนใด
หนึ่งหทัยพี่หวนหาสุดาดวง
คิดถึงกันวันละนิดมิ่งมิตรแก้ว
ตระหนักแล้วแววฝันรำพันห่วง
ทิวากาลผ่านราตรีวลีลวง
ละเลยช่วงกลอนหวานสำราญคำ
หยุดหลายวันฝันถึงดาวสกาวฟ้า
เหนือภูผาดาดาวพริ้งพราวฉ่ำ
น้ำค้างย้อยหยาดฟ้ามาพรมพรำ
ได้ดื่มด่ำธรรมชาติอากาศดี
ชวนเพื่อนพ้องท่องภูสู่ผาสวย
อุดมด้วยพืชพันธุ์เฉดสันสี
นั่งตกปลาบนเรือพายร่ายกวี
ครั้นราตรีนอนกางเต็นท์เย็นน้ำค้าง
ภูผายล ดลใจให้เพ้อละเมอหา
ดุสิตา...ลดาวัลย์สวรรค์สร้าง
เสกดอกหญ้าราชินีสีม่วงจาง
แต้มลานกว้างกว่ากว้างระหว่างภู
ท่องภูเสือ ภูผายล จนภูก่อ
งามจริงหนอตัวเราอับเฉาคู่
นั่งดูนก นกกระเต็นเต้นบนภู
น่าอดสูอายสกุณาแสนอาดูร
หอบดวงดาวช่อผกามาฝากขวัญ
มอบกำนัลต่อไมตรีที่เสื่อมสูญ
เวลาว่างแทบไม่มีเลยแม่คุณ
ทั้งงานบุญงานสอนให้อ่อนแรง
เพราะฝันถึงจึงร่ายกลอนมาวอนว่า
เพียงพลิ้วจ๋าอย่าหน้าหงิกเป็นพริกแห้ง
ที่ห่างหายนานเนาทั้งเช้าแลง
เปล่าเสแสร้งเบี้ยวต่อกลอนฉะอ้อนใจ
ฝีมือกลอนพี่ด้อยถ้อยคำหวาน
มิเปรียบปานขวัญตาผู้หน้าใส
ขอชื่นชมคมคำเลิศล้ำใน
ค่าสมัยวรรณศิลป์วิญญาณกวี
.................นายฝันละไม
18 กันยายน 2552 14:38 น.
ละไมฝน
กระบม
"กระบม" ครวญระทมห่มไห้
คอยข้าวสุกใหม่
หอมหวนอวลไอ
ร่ำไห้ละเมอคราง
มาเถิดหนา...ข้าวมา อย่าร้าง
ข้าวขาวเหินห่าง
หลายคราครวญคราง
เช้าค่ำฤทัยเหงา
มาลาหอมจรุงรุ่งเช้า
เพียงข้าวเหนียวเก่า
เม็ดเดียวบรรเทา
เท่านั้น...นิทราฝัน
หมายเหตุ:
กระบม คือ ภาชนะชนิดหนึ่ง ทำด้วยไม้หนา รูปทรงกลม ส่วนกลางเป็นร่องลึกเล็กน้อยสำหรับรองส่วยข้าวเหนียว
.........
ละไมฝน