2 กันยายน 2547 09:35 น.
ละอองทราย
ตื่นแต่เช้า ดูเหมือนว่าอากาสจะสดใส อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จเลยเดินไปกินข้าวที่โรงอาหารตรงข้ามกับหอ ไปถึงก็ซื้อข้าวกิน ซักพักเริ่มได้ยินเสียงสวดมนต์ รู้สึกผิดขึ้นมาทันที เพราะลืมไปว่าทุกวันพฤหัสจะมีการตักบาตรกันที่ชั้นบนของโรงอาหารนี้ ไม่ค่อยกล้ากินข้าวเท่าไหร่ เพราะคนอื่นเค้ายังทำบุญสวดมนต์ไหว้พระกันอยู่ แต่ก็ต้องกินอยู่ดีเพราะซื้อมาแล้ว กินไปได้ซักพัก เห็นยายแก่ๆคนนึง เดินมาตรงที่วางจานและแก้วน้ำ ยายคนนั้นกำลังเก็บอาหารเก่าๆที่คนอื่นกินเหลือเอาไปกิน เริ่มกินข้าวไม่ลงอีก1รอบ ไม่ใช่เพราะรังเกียจอะไร แต่กลับรู้สึกหดหู่ที่ได้เห็นภาพแบบนี้ กลับไปนึกถึง ย่ากับยายที่อยู่ที่บ้าน ที่มีลูกหลานห้อมล้อมคอยดูแลเอาใจใส่ ทำไมยายคนนี้ถึงไม่มีโอกาสแบบนี้บ้าง บางคนกินทิ้งกินขว้าง แต่บางคนกลับไม่มีอะไรจะกิน กินไปได้ซักพักก็รู้สึกอิ่ม มองภาพของยายคนนั้นไปรื่อยๆ จากที่เก็บจานที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง จากนั้นจึง เดินเอาจานเข้าไปเก็บ สวนกับยายพอดี เลยหยิบเงินออกมาให้ยาย 20 บาท แล้วบอกยายว่า "ยายเอาไปซื้อข้าว กินนะ" ยายยกมือไหว้ใหญ่ เงิน 20 บาทแม้จะดูน้อยนิดสำหรับใครหลายๆคน แต่มันกลับดูยิ่งใหญ่สำหรับใครบางคน
เพียงแค่ช่วงเช้าของวันที่แสนธรรมดาวันหนึ่งกลับมีความหมายกับเรามากมาย อย่างน้อยวันนี้ฉันก็ได้ทำความดี แม้จะเป็นเพียงแค่สิ่งเล็กน้อย แต่ก็ทำให้รู้ว่า เรายังมีค่าสำหรับการคงอยู่ แม้เพียงสำหรับใครบางคนที่ไม่มีใครมองเห็น
31 ธันวาคม 2546 17:55 น.
ละอองทราย
ข้อความเหล่านี้ ฉันส่งไปให้เขา เพื่อเป็นคำบอกลาอย่างเป็นทางการ
ยากเย็นนักกว่าจะส่งไปได้ เพราะเกรงว่าเขาจะรู้สึกยังไงหากได้อ่าน
แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาได้ทำกับเราในวันที่ผ่านมา
การตัดสินใจที่จะส่งไปให้กลับง่ายขึ้นทันที
เป็นเช่นนั้นจริงๆกับความรู้สึก
ไม่ควรด้วยซ้ำกับคำบอกลา แต่ฉันก็อยากทำ
อย่างน้อยก็ให้เขาได้รู้ว่าต่อแต่นี้ไป เขาไม่ได้มีค่าอะไรกับผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว
แม้แต่ความทรงจำ....ก็ไม่มีให้นึกถึง
เรื่องราวเก่าๆได้ปล่อยทิ้งไปกับวันเวลาเก่าๆที่ผ่านเลย
หากโชคดี วันใหม่ที่เปลี่ยนผันเข้ามา คงทำให้ฉันได้เจอกับเรื่องดีๆซักเรื่อง
คนดีๆซักคน.....ก็เพียงพอ
นับแต่นี้ไป ...ฉันได้หัวใจที่กล้าแกร่งกลับคืนมาอีกหน
ลาก่อน..คือกัลปาวสาน
ลาก่อน..ไม่ผ่านมาอีก
ลาก่อน..แยกส่วนเป็นสองซีก
ลาก่อน..คือหลีกเร้นไกล
ลาก่อนนะคะ ขอให้เราอย่าได้เจอะเจอกันอีกเลย
8 ธันวาคม 2546 18:49 น.
ละอองทราย
ทุกสิ่งทุกอย่างเพิ่งกระจ่างในวันนี้
เมื่อฉันเก็บงำความคิดถึงไม่ไหวจนต้องโทรไปหาเค้า
"สวัสดีค่ะ ว่างรึเปล่าคะ"
"อืม ว่างอยู่"
"แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหนคะ"
"อ๋อ เราอยู่ห้องแฟนเรา"
ฉันเกือบจะพูดอะไรไม่ออก แต่ก็ต้องฝืนพูดออกไป เพื่อไม่ให้คุณสงสัย
เอาธุระมาบังหน้าจริงๆ และฉันก็วางสายไปอย่างไม่รู้ตัว
พร้อมด้วยหัวใจที่เบาหวิว
จบแล้วจริงๆ ความรักที่ผ่านมา กับการเฝ้าหลอกตัวเองว่าเค้าไม่มีใคร
กับการรอคอยที่ว่างเปล่า และการหวังลมๆแล้งๆ
ในวันนั้น ฉันคงเป็นอะไรใหม่ๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตคุณ
คุณจึงให้ความสนิทสนมเช่นนั้น
รู้แล้วว่าทำไม ทำไมคุณถึงปฏิเสธ
เพราะคุณมีใครที่ใจคุณต้องการอยู่แล้ว
ทุกอย่างคลี่คลาย
ว่าทำไมคุณจึงจากไปเมื่อรับรู้ถึงความรู้สึกของฉัน
ไม่มีอะไรค้างคาใจอีกแล้ว คงจะเหลือก็แต่
หัวใจช้ำๆ
19 ตุลาคม 2546 15:59 น.
ละอองทราย
เพื่อน....ไม่ควรเรียกร้องอะไรจากเพื่อนมากเกินไป
เพื่อน....ไม่ควรเข้าไปก้าวก่ายเรื่องของเพื่อนมากเกินไป
เพื่อน....ห่วงใยเพื่อนได้ แต่..อย่าให้เกินขอบเขตของคำว่า "เพื่อน"
เพื่อน....ไม่ควรทำให้เพื่อนรู้สึกรำคาญ
เพื่อน....ควรพยายามควบคุมความรู้สึกไม่ให้เกินคำว่า"เพื่อน"
เพื่อน....รักเพื่อนได้......อย่างเพื่อน
เพื่อน....ทำไมถึงต้องเป็น"เพื่อน"
เพื่อน....เพราะเป็นเพื่อนจึงไม่ควรคิดเป็นอื่น
เพื่อน....เมื่อเปลี่ยนเป็นอะไรที่มากกว่าเพื่อน และต้องเลิกรา
อาจต้องสูญเสียเพื่อน
เพื่อน....ช่วยอย่าทำให้ฉันคิดเกินเพื่อน
เพื่อน....ฉันคงเป็นได้แค่เพื่อน...ไม่พิเศษมากกว่านั้น
เพื่อน....ฉันจะพายามเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด
เพื่อน....คำๆนี้ ฉันจะท่องให้ขึ้นใจ
เพื่อน....ฉันกับเธอ เรา2คน
เป็นเพื่อนกัน
เพื่อน
คำนี้.คงดีที่สุดสำหรับเธอกับฉัน
ฉันจะจำให้ขึ้นใจและจะทำให้ได้อย่างนั้น
เพราะฉันรู้คำว่า"เพื่อน"นั้นสำคัญ
และฉันไม่อยากเป็นคนทำลาย
เพื่อน
คำๆนี้เธอก็รู้ว่ามีความหมาย
แต่บางครั้งฉันก็ไม่อยากได้
อาจเป็นคนบนฟ้าล่ะมั๊งที่กำหนดไว้
ฉันกับเธอจึงเป็นได้....แค่เพื่อนกัน
14 ตุลาคม 2546 23:56 น.
ละอองทราย
เคยมั๊ยที่ครั้งหนึ่งจะบอกกับตัวเองว่าไม่ไหวแล้วนะ
ฉันเหนื่อยเหลือเกิน ทำไมทุกสิ่งทุกอย่างจึงมาตกอยู่ที่ฉันเดียว
และเคยมั๊ย ที่อยาก..หลับตาพัก..ชั่วนิรันดร์
นี่แหละคือความรู้สึกเพียงชั่ววูบ
ที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคนในทุกครั้งที่รู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอ
รวมทั้ง...ตัวฉันเอง
แต่มีคำพูดหนึ่งที่ทำให้ฉันคิดได้
"เราไม่รู้ว่าเราเกิดมาเพื่อใคร แต่เรามีชีวิตอยู่เพื่อใครต่างหาก"
แน่นอนว่าคำตอบที่ได้คือ เพื่อคนที่เรารักและรักเราไง
ใช่ เพื่อคนที่เรารัก ...............
แต่...จะมีประโยชน์อะไร ..หากใครคนนั้นที่เรารัก...เขาไม่ได้รักเรา
ลองนึกทบทวนให้ดี ว่าอย่างน้อย
้คงมีซักคนนึง................ที่รักเราอย่างจริงใจ
ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ พี่ หรือเพื่อนสนิทซักคน
คือหนึ่งชีวิตที่มีความหมายสำหรับใครเพียงหนึ่งคน
สำหรับฉัน มันก็มีค่าเพียงพอแล้ว
และเคยมั๊ย ที่จะถามตัวเองว่า "หากวันนี้คือวันสุดท้ายของชีวิต เราจะทำยังไง"
เคยมั๊ยที่เมื่อหลับตาลง แล้วกลัวว่าจะไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้อีก
และฉันก็เคยรู้สึกเช่นนี้อีกเช่นกัน
เมื่อฉันรู้สึกเช่นนี้ ฉันมักจะบอกกับตัวเองว่า
"ฉันยังเป็นอะไรไปไม่ได้เด็ดขาด"
มีอะไรอีกตั้งมากมาย........ที่ฉันยังไม่ได้ทำ
ฉันยังไม่ได้บอกคนที่ฉันรักเลย ว่า"ฉันรักพวกเขา"มากแค่ไหน
ฉันยังมีความฝันอีกมากมายที่จะทำให้มันเป็นจริง
ฉันอยากใส่ชุดนักศึกษา
ฉันเป็นนักเขียนที่เขียนเรื่องราวต่างๆอย่างมีความสุข
ฉันอยากมีบ้านหลังเล็กๆที่อบอุ่น
ฉันอยากให้พ่อแม่เห็นความสำเร็จของฉัน
แต่.....หากไม่มีวันพรุ่งนี้สำหรับฉันหล่ะ......ฉันจะทำยังไง
และคำตอบที่ได้ก็คือ....ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
จะมัวอ้างถึงพรุ่งนี้อยู่ทำไมกัน เพราะพรุ่งนี้อาจจะไม่มีแล้วก็ได้
จงเดินไปหาคนที่คุณรัก แล้วบอกว่าคุณรักพวกเขามากแค่ไหน
จงทำทุกอย่างที่คุณอยากทำ.ถ้ามันไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
เพราะฉันคิดอย่างนี้ล่ะมั๊ง......ฉันถึงไม่กลัวที่เอ่ยคำว่ารักออกมาก่อน
เพราะฉันกลัวว่าพรุ่งนี้ฉันจะไม่มีโอกาสได้ทำสิ่งเหล่านี้
หากว่าวันนี้ เหลือเพียงวันสุดท้าย
รักแค่ไหนได้ทันบอกเธอหรือยัง
หากว่าพรุ่งนี้ สายเกินไปทุกอย่าง
เรารักเราดีต่อกันพอมั๊ย
เพิ่งได้ซึ้งถึงความผูกพัน
ว่าส่วนลึกรักกันแค่ไหน
เวลาผ่านไปอาจลืมว่าสำคัญ
ต่อจากนี้ไม่ว่าอย่างไร
จะทำให้มันดีกว่านั้น
ดีกว่าจากกกัน
ต้องเสียใจ...จนตาย