24 เมษายน 2549 10:21 น.
ลอยไปในสายลม
ในชีวิตฉัน ฉันไม่เคยสนใจสินค้าเเหล่านั้น ที่มันอยู่ตรงหน้าฉัน
ไม่เคยให้ความสำคัญกับอะไรเลย
ซื้อ ก็ทิ้งมันไป เบื่อ ก็ซื้อใหม่
เพราะคิดว่าอย่างไรซะ มันก็ไม่มีคุณค่าให้ต้องเก็บรักษาอะไร
แต่มาวันนี้ ฉันพึ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่า ฉันก็ไม่ต่างอะไรกับสินค้าเหล่านั้น
.............................
"เราเลิกกันเถอะนะ" เขาเอ่ยกับฉัน
"ทำไมล่ะ ทำไม" ฉันถามออกไป ด้วยความตกใจ
"เราเข้ากันไม่ได้ อีกอย่างตอนนี้ฉันก็ไม่ได้รักเธอแล้วด้วย"
"ไม่จริงอ่ะ เรารักกันนี่นา"
"เธอพูดเข้าใจเหรอไง หนิง ฉันเบื่อเธอแล้ว เธอมันก็เดิม ไม่มีอะไรแปลกใหม่ อีกอย่างตอนนี้ ฉันก็กำลังคบอยู่กับน้องส้มด้วย เธออย่ามายุ่งแล้วกัน เราจบกันแล้วตั้งแต่นี้เป็นต้นใหม่" เขาพูดออกมาหน้าตาเฉย ไม่สะทกสะท้านอะไรเลย
"ไม่จริง" ฉันได้แต่ยืนร้องไห้ แล้วก็วิ่งเข้าไปกอดเขาไว้
"อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ เธอไปไหนก็ไปเลย เธอไม่มีความหมายกับฉันแล้ว ไป๊!!!!" เขาไล่ฉันยังไม่พอ ยังผลักฉันล้มลงไปกองกับพื้นอีกต่างหาก
เขาเดินจากไปแล้ว ฉันได้แต่นั่งร้องไห้เพียงลำพัง อยุ่ๆ กระป๋องโค้กที่ใครก็ไม่รู้โนมันลงก็มาตกตรงหน้าฉัน ในใจฉันคิดว่า
'มันก็คงเหมือนฉันตอนนี้ซินะ ฉันคงไม่ต่างอะไรกับสินค้าชิ้นหนึ่ง ที่ตอนแรกซื้อ มันมีคุณค่า น่าทะนุถนอม แต่พอมันหมดคุณค่า มันก็ไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น ไม่ต่างกันเลย'
ฉันรู้แล้วล่ะ ว่า คนเรา ไม่ได้มีอะไรเลิศเลอไปกว่าสินค้าที่เราใช้เลย ทุกคนมองคนอื่นเหมือนกับคนอื่นเป็นสินค้าไปหมด
จะมีใครสักคน ที่จะมองมนุษย์แตกต่างจกาสินค้า
หากมีฉันขอสักคนได้ไหม
ขอให้มาอยู่เป็นเพื่อนกัน
ต่อจากนี้ ฉันคงไม่ทิ้งกว้างสินค้าที่ฉันซื้อมาอีกแล้ว
ฉันจะต้องดูแลรักามันอย่างดี จนกว่ามันจะถึงเวลาของมันเอง
ไม่ให้มันต้องเหมือนฉันในตอนนี้
ที่ถูกทิ้งด้วยคนที่ฉันรักมากที่สุด
.........
23 เมษายน 2549 15:52 น.
ลอยไปในสายลม
"ไม่ว่าเธอจะเป็นอย่างไร เธอคือคนที่ฉันเลือก เลือกที่จะรัก และจะรักตลอดไป"
"แอน เราเลิกกันเถอะนะ"
นี่เป็นประโยคเดียวที่เขาพูดกับฉัน
ฉันไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเพราะเหตุผลอะไร เขาถึงบอกเลิกฉัน
ฉันทำผิดอะไรกับเขามากนักหรือ
ฉันทุ่มเท่ให้เขาทุกอย่าง
เขาต้องการอะไร ฉันหาให้เขาหมด
แต่มาวันนี้ เขากลับทำแบบนี้กับฉัน
นี่มันอะไรกัน
"เอ ทำไมล่ะ แอนทำอะไรผิด เอถึงบอกแบบนี้" ถ้อยคำที่พูดออกไป พร้อมทั้งน้ำเสียงที่สะอื้นของฉัน
"ไม่ แอน ไม่ผิดหรอก แต่เราคงไปด้วยกันไม่ได้อีกแล้ว หวังว่าแอนคงเข้าใจนะ"
แค่นี้จริงๆ เพราะเขาพูดจบ เขาก็เดินจากไป
ไม่แม้แต่จะหันมามองฉันสักครั้ง
ฉันต้องเสียเขาไปจริงๆเหรอ
2 ปีที่คบกันมา ไม่มีความหมายกับเลยใช่ไหม
ไม่มีความหมายกับเขาเลยใช่ไหม
ฉันไม่เข้าใจเขาเลยสักครั้ง ว่าเขาคิดอย่างไรกันแน่?????
..............................................
"แอน เราเลิกกันเถอะนะ"
ผมพูดคำนั้นออกไป ทั้งๆที่ผมก็เจ็บ เจ็บเหลือเกินที่ต้องพูดมันออกมา
ผมไม่ได้บอกเหตุผลเธอ
เธอไม่ผิดเลย
เธอทุ่มเทให้ผมทุกอย่าง
เธอตามใจผมทุกอย่าง
แต่วันนี้ ผมกลับใจร้ายกับเธอ
"เอ ทำไมล่ะ แอนทำอะไรผิด เอถึงบอกแอนแบบนี้" นั่นซินะ เธอทำอะไรผิด
เธอไม่ผิดเลยสักนิด ผมเอง ผมเองที่ผิด
ผิดที่ไปทำเล-ว ผิดที่ไม่ซื่อสัตย์กับเธอ
ผิดที่หลงระเริงไปกับใครอีกคนที่ไม่ใช่เธอ
"ไม่ แอน ไม่ผิดหรอก แต่เราคงไปด้วยกันไม่ได้อีกแล้ว หวังว่าแอนคงเข้าใจนะ"
บางทีมันก็คงจะดี หากเธอได้เจอกับคนที่เขาเหมาะสมคู่ควรกับเธอ
แต่ผมก้ยังรับไม่ได้ ยิ่งผมเห็นน้ำตาของเธอ ผมทำใจไม่ได้เลย
ดังนั้น ผมจึงเลือกที่จะเดินจากมา จากมาพร้อมกับน้ำตาลูกผู้ชาย
ผมจะไม่ยอมให้เธอต้องมาแปดเปื้อนกับผม
ผมต้องยอมรับในสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไป
.............................................
" แอน เธอรู้หรือเปล่า เอ เขาจะแต่งอาทิตย์หน้าแล้วนะ"
เหมือนฟ้าผ่าลงมาตรงหน้า 'เอกำลังจะแต่งงานหรือ' เธอไม่ได้พูดอะไรอีกเลย ยืนอึ้งจริง
ไหนที่เขาบอกว่าเขารักฉัน
ไหนที่เขาเคยบอกว่า เขาไม่มีใคร
ไหนที่เขาเคยบอกว่า จะอยู่กับฉันตลอดไปยังไงล่ะ
ทำไม?????
"ดีใจด้วยนะ เอ"
"แอน" ผมได้แต่ยืนอึ้ง ไม่คิดว่า เธอจะมาในงานวันนี้
"ไม่เห็นบอกแอนเลยล่ะ ว่าเอจะแต่งงาน ใจร้ายมากเลยนะ" ผู้หญิงตรงหน้าผมเขายิ้มให้ผม แต่ผมรู้ว่า ข้างในเขาเจ็บเพียงไหน
"เอ ขอโทษ" ผมได้แต่ก้มหน้ายอมรับความผิดครั้งนี้
"ขอโทษทำไม เอไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ แอนเสียอีกที่อาจทำผิดต่อเอ ทำให้เอ เลือกที่จะไป ทำให้เอบอกเลิก เพราะแอนทั้งนั้น" ยิ่งพูดเธอยิ่งร้องไห้ ผมทนไม่ได้ ผมจึงได้แต่ดึงเธอมากอด ปลอบโยนอย่างที่เคยทำทุกครั้ง แม้ครั้งนี้ มันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็ตาม
ผมจะไม่มีวันยอมให้เธอ ต้องเสียน้ำตาให้กับคนอย่างผมอีก
"แอน อย่าร้องไห้นะ เอขอร้อง เอไม่อยากเห็นแอนร้องไห้อีก นิ่งซะนะคนดีของเอ ฟังเอนะ แม้ว่าเอกับแอนจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่เออยากบอกแอนไว้ว่า ในนี้ ในใจของเอ มีเพียงแอนเท่านั้นที่เป็นที่หนึ่ง มีเพียงแอนเท่านั้นที่เอ รัก แม้เอจะแต่งงานแล้ว แต่เอก็จะรักแอนตลอดไป เพราะ แอนเป็นคนที่เอเลือกแล้วที่จะรัก เลือกที่จะรักอยู่อย่างนี้ ตลอดไป"ผมพูดในสิ่งที่เป้นความจริงที่สุดเท่าที่ผมเคยพูดมันออกมา
เธอสบตาผม สายตาเต็มไปด้วยความรักเปี่ยมล้น รวมถึงความสับสนที่เห็นในสายตาของเธอ
"อย่าถามว่าทำไม เอต้องแต่งงานกับเขา อย่าถามว่าทำไมเอถึงบอกเลิก ขอให้แอนรู้เอาไว้ว่า เอ จะไม่ยอมเป็นคนเล-ว รักกับแอน โดยทิ้งเขา แต่เออยากจะเป็นคนดีที่แอนเห็นเสมอ ว่าเอเป็นคนมีความรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ แม้มันไม่ใช่ความสุข แต่มันเป็นสิ่งเดียวที่เอจะทำได้ตอนนี้ เอเลือกที่จะรับผิดชอบเขา แต่เอเลือกที่จะรักแอนตลอดไป เข้าใจเอนะครับคนดี นิ่งซะนะ" แล้วมือผมก็ช่วยเกลี่ยน้ำตาบนแก้มเนียนนั้นอีกครั้งก่อนที่จะตัดใจปล่อยเธอไป เธอเงียบ ผมเงียบ ผมรู้สึกว่าบรรยากาศ มันช่างวังเวงเหลือเกิน
"เอ ขอบคุณนะ" ฉันพูดกับเขา ในใจฉันเริ่มเข้าใจอะไรหลาย ๆ อย่าง เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องทำเช่นนั้น แม้ฉันจะสับสนตกใจ แต่ฉันก็ดีใจที่เขาเลือกทำเช่นนี้ เขาทำถูกแล้วล่ะ เพราะหากเขายังคบกันฉันอยู่ ถ้าฉันมารู้ทีหลัง ฉันคงรับไม่ได้
"เอ ฟังแอนนะ แอนไม่เคยโกรธเอเลย เพราะถึงอย่างไร เอก็คือคนที่แอนเลือกที่จะรักเหมือนกัน แอนเข้าใจเอทุกอย่างนะ และก็ดีใจมากด้วยที่เอเป็นคนรับผิดชอบ แอนจะรักเอตลอดไป และเอก็จะอยู่ในใจแอนตลอดไป ไม่มีทางเปลี่ยน แม้วันนี้เอจะมีใคร หรือวันข้างหน้าแอนจะมีใคร แต่เราสองคนก็อยู่ในใจของกันและกันตลอดไป เพราะยังไง เราก็เลือกที่จะรักกัน ขอให้โชคดีกับความชีวิตนะ" แล้วฉันก็ยิ้มให้เขา อย่างที่ไม่เคยยิ้มให้เขามาก่อนเลย ตั้งแต่ที่บอกเลิกกับเขา
ฉันหันหลังกลับ เดินจากเขามา ฉันไม่รู้ว่าเขาหยุดยืนมองฉันหรือไม่
ฉันรู้เพียงว่าตอนนี้ หัวใจของฉันนั้นอิ่มเอมกับความรักของเขาแล้ว
แม้ฉันจะไม่ใช่คนที่เขาเลือกที่จะแต่งงานด้วย
แต่อย่างน้อย ฉันก็คือ คนที่เขาเลือกที่จะรัก... ตลอดไป
...............
22 เมษายน 2549 11:34 น.
ลอยไปในสายลม
"คุณคะ ทำไมคุณถึงชอบมาที่นี่จัง"
"ผมชอบที่นี่ เพราะคุณไง"
"เพราะฉัน หรือ?????" สีหน้าไม่เข้าใจของคนรัก ทำให้โอมต้องอธิบายเพิ่ม
"เพราะที่นี่ เป็นที่ที่ผมพบคุณเป็นครั้งแรก
ที่นี่เป็นที่ที่เรารักกัน ผมบอกรักคุณ คุณบอกรักผม
ที่นี่เป็นที่ที่สายลมนำพาผมมาพบคุณ
ที่นี่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตผม
คุณเข้าใจไหม" โอมมองหน้าคนรักที่บัดนี้ ทำได้เพียงแต่หลบตาเขาอย่างเอียงอาย
เขาเชยคางของเธอขึ้นมาเพื่อมองหน้าเขา
"และผมก็อยากบอกคุณว่า ผม รัก คุณ และผมก็จะรักคุณตลอดไป"
หญิงสาวทำได้เพียงยิ้มและพยักหน้ารับ ไม่มีคำกล่าวใดหลุดออกมาจากปากของหญิงสาว
มีเพียงดวงตาที่เปิดม่านแห่งความรักหมดหัวใจ
ไม่ต้องได้รับคำตอบ แต่เพียงสบตาโอมก็รู้แล้วว่า
คนตรงหน้ารักเขาไม่น้อยกว่าที่เขารักเธอ
เธอคือดวงใจของเขา
โอมดึงหญิงสาวเข้ากอดไว้แนบอก
"ผมจะไม่ยอมให้เราแยกจากกัน และผมก็จะไม่ยอมให้คุณได้รับอันตรายใดใดเด็ดขาด ผมสัญญา"
หญิงสาวยิ้มอย่างยินดีในคำสัญญานั้น คำสัญญาที่มีเพียงสายลมเท่านั้น ที่เป็นประจักษ์พยานในครานี้
....................
.............
......
...
.
แม้กาลเวลาจะผ่านเนิ่นนานไปสักเท่าไหร่
แต่สถานที่แห่งรักของคนทั้งคู่
ก็ยังคงอบอวลไปด้วยสายลม สายลมที่คอยเป็นพยานแห่งรัก
ให้กับคนคู่แล้วคู่เล่า
รักในสายลม ที่ใครๆคิดแต่เพียงว่า จะได้รับความสุขจากมันเท่านั้น
ไม่มีใครเคบล่วงเลยว่า แท้จริงแล้ว สายลมนั้นยินดีหรือไม่
ที่จะต้องเป็นพยานรักให้ใครต่อใคร
ไม่มีใครเข้าใจสายลมเลย รักที่มีในสายลมนั้น
ใช่จะสุขก็หาไม่
แท้จริงแล้ว มันเป็นความสุขที่แสนจะโศกเศร้าของเจ้าสายลมนั้น
เพราะสายลมต้องทำหน้าที่นี้ ทำให้สายลมมิอาจทำตามที่ใจเรียกร้องได้
มิอาจพัดพาไปยังที่อื่นได้
นอกจากเป็นพยานอยู่ ณ ที่นี้
ใครเล่าจะเข้าใจ
จะมีใครเล่า
....................................
"ต้นไม้เอ๋ย เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ได้มาเสียนานเลย สบายดีไหม สายลมเพื่อนรัก เจ้าล่ะ หลับสบายดีไหม ขอโทษนะ ที่ไม่เคยมาเยี่ยมเลย เราไม่ได้ตั้งใจ ตอนนี้เราไม่เหลือใครอีกแล้ว โอม เขา... เขา... .... ... ช่างมันเถอะนะ สัญญาที่เขาเคยให้ไว้ ฉันเคยรู้สึกว่ามันดี มันวิเศษ มัน... แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ มันไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันต้องการเลย สายลมเอ๋ย ครั้งหนึ่ง เจ้าเคยเป็นพยานแห่งรักใช่ไหม .... งั้นครั้งนี้ ขอให้สายลมช่วยเป็นพยานทีว่า ณ ที่แห่งนี้ จะเหลือเพียงความทรงจำสำหรับเราเท่านั้น เท่านั้นเอง ลาก่อนนะ สถานที่แห่งความทรงจำ"
..........................................
แล้ววันเวลาที่ผ่านไป ความรักที่เคยมี กลับแปรเปลี่ยนไป
แล้วสายลมจะทำอย่างไรเล่า นอกจากจะรับฟัง
อยากที่จะหลีกหนี ไม่อยากที่จะรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น
พยานแห่งรักหรือ
มันไม่มีจริงหรอก มันก็แค่เพียงสิ่งที่มนุษย์ใช้บังหน้าเพื่อแสวงหาความสบายใจเท่านั้น
สายลม อย่างไรก็คือ สายลม ที่ไม่มีจิตใจ ไม่มีชีวิต สำหรับมนุษย์อยู่แล้ว
สายลมเพิ่งตระหนัก เดี๋ยวนี้เองว่า
"เขานั้นก็แค่อะไรสักอย่างหนึ่ง ซึ่งเวลาคนสุขก็ดึงเขาเข้าไปเกี่ยวด้วย เวลาทุกข์ก็ดึงเขาเข้าไปเกี่ยวด้วย เวลาที่รักกันแล้วก็ห่างหายไป ไม่สนใจไยดี นี่ล่ะหนา ความไม่แน่นอนของมัน โธ่ สายลมเอ๋ย เจ้าก็แค่เศษธุลีของเขาเท่านั้น"
และแล้ว เมื่อสายลม รู้ตัวเองดี เขาจึงไม่อยากฝืนตัวเองว่าจะต้องเป็นพยานรัก หรืออะไรอีกต่อไป แต่เลือกที่จะทำตามที่ตัวเขาต้องการ นั่นคือ ล่องลอยโบกโบยไปตามแต่จะต้องการ อารมณ์ดีก็สร้างความเย็น อารมณ์ร้อนก็กลายเป็นพายุ อย่างนี้เรื่อยมา จนในที่สุด ก็ไม่มีใครสามารถยื้อยุดสายลมให้เป็นพยานรัก หรือยึดไว้เป็นหลักพักพิงได้อีกตลอดกาล