6 พฤษภาคม 2552 08:14 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
ถ้าหากในใจของฉันไม่มีเขา
รักของเราจะมั่นแน่ไม่แปรผัน
แต่รักที่จริงใจไม่อาจจะแบ่งปัน
สันพันธ์ฉันท์ชู้สาวเคล้าเปปน
ต้องหยุดดวงใจเธอไว้ก่อนจะสาย
ไม่อาจทำลายทำร้ายให้สับสน
จึงได้แจ้งแถลงไขใช่เล่ห์กล
อย่าทุกข์ทนปวดร้าวเคล้าน้ำตา
เปลี่ยนความรู้สึกแบบนั้นจะได้ไหม
โปรดเปลี่ยนไปจากไฟที่ปรารถนา
เป็นเพื่อนและพี่ชายที่เมตตา
รักมีค่าเช่นกันสัมพันธ์เรา
ไม่อยากให้เธอช้ำไปมากว่านี้
ด้วยรักนี้อยู่ไปได้แต่เศร้า
เปลี่ยนความรักเสียวันนี้ให้บางเบา
เปลี่ยนความเศร้าเป็นผูกพันกันตลอดไป..
....แบบว่า
5 พฤษภาคม 2552 09:40 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
อำเภอเมืองสุรินทร์ถิ่นช้างสาร
ปราสาทฐานพระอินทร์เนาว์เป็นเสาหลัก
กาบเชิงทอดยาวชมพนมดงรัก
สุดจะหักใจหลงดงลำดวน
โนนนารายณ์หมายชมสนมน้อง
จอมพระมองเมียงหมายใจโหยหวน
จึงหวลคิดถึงสำโรงทาบทราบเนื้อนวล
ศรีณรงค์ชวนเจ้าไปไกลฤดี
ท่าตูมบานยามนี้ที่สังขะ
ไม่ลดละไปง้อเจ้าเร้าศักดิ์ศรี
แม้อยู่ไกลสุดพ้นชุมพลบุรี
ริมมูลนทีรัตนบุรีจะไปตาม
สุดบัวเชดเขตแดนแคว้นป่าเขา
เจ้าอาจเนาว์สักแห่งใดในสยาม
ศรีขรภูมิที่ซ่อนเงาเจ้านงราม
หรือเขตคามเขวาสินรินทร์ถิ่นแขมร์เลอ
จึงสีซอคลอเคล้า"เฮา"เจ้าอยู่
ให้รับรู้ว่าหนุ่มแขมร์ยังแคร์เสมอ
หากนิมิตมิผิดไปคงได้เจอ
จะพาเธอไปไหว้พระยาสุรินทร์ภักดี..
....แบบว่าเอาชื่ออำเภอมาแต่งครับ
2 พฤษภาคม 2552 09:50 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
จันทร์เจ้าเอยเคยอ้อนผ่อนจันทร์เจ้า
ในคืนเหงาจันทร์ยิ้ม...อิ่มใดหนอ
อิ่มความเศร้าที่คนเหงาเฝ้าพะนอ
หรือยิ้มล้อต่อความในของใครกัน...(ลมแปร ฯ)
เคยอ้อนต่อจันทราคราเหงาหนัก
ว่าสุดหักใจฝืนคืนคิมหันต์
ขอหวังไปไกลสุดหยุดรำพัน
เห็นหน้าจันทร์ยิ่งทวีเหงาเศร้าปลดปลง..(จอมปราชญ์ ฯ)
ยากจะเอ่ยเผยขอต่อจันทร์เจ้า
ด้วยสิ้นเงาสวาทใดให้ไหลหลง
ยาสิ้นสวาทไม่บรรเทาให้เบาลง
เหงายังคงพรมซาบ...อาบดวงแด...(จะไม่เด็ด)
จึงจำลาพระจันทร์วันข้างขึ้น
หวังสักตื่นฝืนไกลไร้ดวงแข
หวังให้ใจจัดกระบวนไม่ปรวนแปร
เห็นเนื้อแท้ของความเหงาที่เข้าคลุม..(จอมปราชญ์ ฯ)
ขอลาก่อนลาทีสุดที่รัก
ไม่นานนักความปวดร้าวที่เข้าสุม
ความอ่อนแอจะแพ้พ่ายไร้สุมทุม
เหงาปกคลุมจะสลาย..กลายเป็นลม.. (ลมแปร ฯ)
...BABWA
1 พฤษภาคม 2552 13:01 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
แลหนังลุงกล่อมเห่เขเรือเก่า
คืนนั้นเราอาบฝันแสงจันทร์สวย
ลมทะเลพัดอ่อนรอนระทวย
โนราห์สวยเจ้างามท่ามแสงจันทร์
คลื่นทะเลเห่มาคราละระลอก
พี่บ่าวหยอกนุ้ยจนหลง...ลงจอหนัง
โนราห์หายในค่ำคืนคลื่นประดัง
บ่าวแลหลังเหลียวหน้าหาไม่เจอ
หน้าจอหนังหรี่แสงเท่งเหงาหงอย
เจ้าทำหร่อยทิ้งแดนใต้หรือใจเผลอ
จึงลาจอปล่อยบ่าวเหงาเฝ้าแต่เธอ
บ่าวอยากเจอนุ้ยอย่าหยบให้หลบมา
หรือโสรยาหลงกรุงถึงยุ่งนัก
ปล่อยบ่าววักเรือเขเซถลา
ไร้หัวเรือบังคับทางกลางธารา
บ่าวเบือนหน้าหนีแผ่นดินสู่สินธุ์นที...
30 เมษายน 2552 22:09 น.
ลมแปรแขมร์เลอ
ใช้ฉันเลย..ให้ฉันทำงานหนัก
หากเพราะรักฉันจึงยอมพร้อมถวาย
เมื่อจำเป็นก็ยอมพลีที่ระบาย
ถ้าจะหมายทารุณกรรมก็ตามใจ
ก็เพราะฉันเป็นลูกไก่ในเอื้อมหัตถ์
ถูกบีบรัดจนย่ำแย่ยอมแบไต๋
เธอกล่าวหาว่าเบือนบิดคิดนอกใจ
ยกมือไหว้ต่อทรามวัย...ไม่เคยทำ
ใช้ให้ฉันนั่งซักผ้าจนหน้ามืด
ให้ถูพื้นจนหน้าจืดเพื่อนเห็น..ขำ
ยังจะสั่งล้างห้องน้ำเป็นประจำ
เธอมิหนำ...สั่งตัดหญ้า...ทำหน้าตาย..
เกิดเป็นชายใจต้องแกร่งแบ่งขับสู้
แต่ฤดูแปรปรวนชวนขวัญหาย
แรงงานรัก....จำเป็น...เห็นมากมาย
ขออย่าหมายขืนขัด..หัดถ่อมตน...(ถ้าไม่อยาก...)..อิอิ
...แบบว่า..ขำขำ..นะน..มาวววว