25 กรกฎาคม 2552 13:17 น.

จู่จู่

ลมแปรแขมร์เลอ

จู่จู่..ความหวังก็พังสลาย
ขาดเพื่อนกายที่หมายชิดเสน่หา
มิอาจชื่น..คืนกลับซึ้ง...ตรึงกานดา
เจ้าน้ำตาก็กระไรมาไหลนอง

ดูดู๊เถิด..หัวใจที่ไร้รัก
ไม่น่ารักให้อยากเห็นเป็นเจ้าของ
ไม่อาจยื้อให้ใครใครมาใฝ่ปอง
จำทนหมองอยู่เดียวดายในสายลม

ลมหนอลมก็มาซัดสะบัดทิ้ง
ให้ใจยิ่งเหินลอยพลอยขื่นขม
กลั้วความช้ำความระกำซ้ำระทม
หลุดสายลมจมนทีที่เชี่ยวไหล

นทีเอย...เจ้าไม่เคยจะซ้ำซาก
ไหลพัดลากจนซากคว้างสุดหว่างใหน
ซากไหลเลี้ยวเกี่ยวกระชากกับรากไพร
จึงหยุดไว้ให้ซากแห้งแล้งแดดเลีย

แดดหนอแดด..มาแผดร้อนจนกร่อนทั่ว
ยิ่งหวาดกลัวอยู่เดียวดายให้ใจเสีย
ยามนี้แล้งจนแห้งกรอบแถมตอบเพลีย
ฟ้าสั่งเสียด้วยน้ำฝนหล่นท่วมใจ

ฝนเจ้าเอย...หล่นมาเลยไม่ปราศรัย
บ่าท่วมใจท่วมอุราพาหมองไฉน
หล่นปานว่าจะหมดฟ้าสุราลัย
ท่วมทะเลไกลจนไม่เหลือเจือความเค็ม

ทะเลเอย..โปรดอย่าเย้ยและถากถาง
ระหว่างทางถูกผลักไสไร้ความเกษม
หวังทะเลช่วยดองใจใว้ให้เค็ม
ช่วยเติมเต็มเกลือในใจ.ใคร่อ้อนวอน..อิอิ

....แบบว่าเอาใจไปดองไว้ก่อนเพื่อ..ถนอมอาหาร..เอ๊ย..หัวใจ..ให้คงคุณค่าได้นาน..อิอิ				
16 กรกฎาคม 2552 22:32 น.

เปริดโถดดวงใจ...(กลอนสี่แปร)

ลมแปรแขมร์เลอ

0000044901_20080605113013109332405627742

โปรดเถิดดวงใจ   
      อย่าได้ลาจร     	
           ใจร้อนหุนหัน
ใจนี้อ้อนวอน       
       มิหย่อนสักนิด        
             ให้คิดจาบัลย์
สิ้นสุดคิมหันต์  
       อกร้าวหรือนั่น    
              ประหวั่นว่าจริง


อย่าจรลาจาก
       ใจหากครวญคร่ำ    
               ยังร่ำเรียกหญิง
หวั่นในน้ำคำ
        ที่พร่ำเอื้อนเอ่ย        
               ว่าเผยใจจริง
ใยกลับเฉยนิ่ง
         ปล่อยพี่ประวิง
                หรือหญิงเปลี่ยนไป


...แบบว่า.....ใครก็ได้ช่วยบอกทีครับว่านี่...เขาเรียกว่ากลอนอะไรครับ..คือ..อารมณ์มันพาไปอะ				
13 กรกฎาคม 2552 17:05 น.

สรวงสเน่หา..

ลมแปรแขมร์เลอ

70346.jpg

เก็บอารมณ์ระทมใจไว้เสียบ้าง
หรืออาจวางปล่อยไว้เพียงในฝัน
เพราะสเน่หามิอาจคลายในเร็ววัน
คงก่อนนั้นอาจตกบ่วง..สรวงสเน่หา

สรวงสวรรค์ใดในหล้าจะมาเหมือน
สเน่ห์ลอยเลื่อนแห่งเล่ห์บ่วงสรวงเสน่หา
เข้าเขตซึ้งครึ่งค่อนคืนได้ตื่นตา
กลับพรรณนารักมากมายหลายราตรี

นี่แหละหนาว่าแดนสรวงลวงเสียสิ้น
แทบลาดินลาเดือนเลือนเหลือที่
ปลงมิตกตระหนกซ้ำย้ำฤดี
มิอาจมีแม้ทางเดียวจะเยียวยา

จึงเขตสรวง...ลวงดูดดื่มลืมกำพืด
ลืมเคยจืดสำลักหวานจนซ่านซ่า
กลั้วกล้ำจิตจนจริตจม...สมอุรา
จึงสเน่หามิรู้คลาย...มิหมายลืม

....แบบว่า				
6 พฤษภาคม 2552 21:21 น.

ฉันสมควรจะเป็นคนไป..(กลบทยัติภังค์)

ลมแปรแขมร์เลอ

จึงรอนรอน   จรหายหยุดฉายแสง-
-สว่างกลางคืน   คืนพาจันทราแรง-       
-รักสีแสง   แสงนวลยวลให้ยล-

-ยินเสียงใจ   ใจรับกับจันทร์ส่อง-         
-สว่างเรืองรอง    รองผ่านพาลไปสน-
-ใจหลงจันทร์   จันทร์เหงาเศร้าระคน-    
-เราก็รน   รนหาทิวาลวง-

-หลอกคนเหงา   เหงางมโถมกลับซ้ำ-     
-เติมความช้ำ      ช้ำให้ตกในห้วง-
-หาวแห่งรัก     รักรอนจรกับดวง-   
-ดาวหล่นร่วง   ร่วงใจไร้คำลา-

-ก่อนใจร้าว    ร้าวลึกถึงผนึกหนัก-     
-หน่วงด้วยรัก   รักรุมสุมหนักหนา-
-แน่นสุมอก   อกซ้นจนหมองมา-       
-เลยจำลา   ลาฟ้าจำลาไกล...

...แบบว่า				
6 พฤษภาคม 2552 18:16 น.

วันคอย..

ลมแปรแขมร์เลอ

ยอดรักจงมองที่โค้งขอบฟ้า
โอบลงมา..พรมลาจูบ..ลูบไล้
คือจูบฉันเมื่อคราจำลาไกล
เคยเคลียไคล้ไม่หายสวาทขาดลา

ยามลมหนาวพัดผ่านซ่านละมุล
สายลมอุ่นแห่งรักฝากมาหา
ลมซื่อตรงคงมั่นจนวันลา
รู้ไว้ว่ารักใคร...ไม่เท่าฉัน

คืนวันที่หมุนเปลี่ยนเวียนไป
แต่ว่าใจไม่อาจเปลี่ยนเวียนผัน
ซื่อตรง จงรักจนนิรันดร์
หากลืมฉัน ฉันคงต้องกลั้นใจตาย

จรจำจากทั้งที่ใจยังพันผูก
ความรักถูกปิดกั้นพลันใจหาย
เร่งคืนวันโอบรับ..กลับเคียงกาย
รักไม่รู้หน่าย....วันตายนั่นแหละวันลืม

...แบบว่า				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลมแปรแขมร์เลอ
Lovings  ลมแปรแขมร์เลอ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลมแปรแขมร์เลอ
Lovings  ลมแปรแขมร์เลอ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลมแปรแขมร์เลอ
Lovings  ลมแปรแขมร์เลอ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงลมแปรแขมร์เลอ