19 มีนาคม 2548 22:41 น.
ลมรำเพย
จันทร์เจ้าเอ๋ย...ค่ำคืนนี้...ยังยาวนาน
เหมือนวันวาน...ผ่านไป...เหงานักหนา
น้ำตาอุ่น...ปกคลุม...ทั้งดวงตา
จันทร์เจ้าจ๋า...ซับน้ำตา...ปลอบหัวใจ
แสงอ่อนอ่อน...ของจันทร์...นั้นสว่าง
แต่ท่ามกลาง...ใจยังมิด...มืดรู้ไหม
ใครสักคน...ใครคนนั้น...เขาเป็นใคร
ที่จะทำ...ใจสว่าง...ท่ามกลางจันทร์
จันทร์เจ้าเอ๋ย...เคยนับ...เวลาไหม
วันที่ใจ...ฉันโศกเศร้า...เหงาโศศัลย์
จันทร์เจ้าจ๋า...จันทร์นับ...ได้กี่วัน
รู้แต่เพียง...ใจฉันบอก...ว่ายาวนาน
รักล่องลอย...คล้อยตามลม...นั้นจริงหรือ
รักเลื่องลือ...ล่องลอย...สุดสรรหา
จริงหรือรัก...จักลอยลม...จันทร์ตอบมา
จันทร์เจ้าขา...ไม่ได้รับ...รักสักที
19 มีนาคม 2548 22:34 น.
ลมรำเพย
หากมิตรภาพเปรียบเป็นอักษรเขียน
สัญญาว่าจะเพียรเขียนมิตรภาพของเราต่อไปเสมอ
แม้ความรักของเพื่อนคนนี้อาจดูแล้วไม่เลิศเลอ
หวังว่าเธอจะรับรู้ว่ารักรับรู้ด้วยใจ
หากสักวันท้องฟ้าของเธอมืดหม่น
เดินตามทางมองไม่เห็นสักคนคอยเคียงข้าง
ขอมีเพียงภาพความทรงจำของเพื่อนคนนี้...เราจะร่วมเดินทาง
อุปสรรคขวากหนามต่างๆมันต้องผ่านพ้นไป
หวังสักวันเมื่อเราเดินมาพบเจอ
จะมองเห็นเธอมีท้องฟ้าที่สวยสดใส
เพื่อนคนนี้จะมอบความรักมอบความห่วงใย
คอยเดินเคียงข้างตลอดไป......
แม้เธอมองไม่เห็นก็ตาม
19 มีนาคม 2548 22:33 น.
ลมรำเพย
จันทร์เจ้าเอ๋ย...อยู่เดียวดาย...กลางท้องฟ้า
หยาดน้ำตา...รินมา...เหมือนฉันไหม
เวลาเหงา...รอบกาย...ไม่มีใคร
ดั่งจันทร์ไกล...เคว้งคว้าง...กลางนภา
เวลาเหงา...เหงาจับจิต...มิดมืดหม่น
อยากมีเพียง...สักคน...อยู่แห่งไหน
ทีจันทร์เจ้า...ยังมีดาว...พราวเรียงราย
ล้อมรอบกาย...แต่ใจฉัน...มันไม่มี
จันทร์เจ้าเอ๋ย...เคยเห็น...คนนั้นไหม
คนที่ใจ...ฉันคอยเฝ้า...รักสุขขี
เคยเห็นไหม...จันทร์เจ้า...จันทร์คนดี
ช่วยบอกที...คนดี...อยู่ที่ใด
ใกล้ฟ้าสาง...จันทร์เจ้า...ไกลลับตา
จันทร์เจ้าหนา...ลาฉันแล้ว...เหงารู้ไหม
คนที่เคย...บอกว่ารัก...ว่าห่วงใย
อยู่ที่ไหน...ทิ้งฉันไว้...ไม่คืนมา...
19 มีนาคม 2548 22:22 น.
ลมรำเพย
แว่วยินเสียงบรรเลงเพลงคำหวาน
เพราะพริ้งปานคำรักแผ่วแผ่วไหว
เอื้อนเอื่อยเอื่อยเรื่อยเรื่อยกล่อมฤทัย
เสียงใสใสขับขานหวานลออ
ยามได้ยินยังระลึกนึกถึงรัก
ครั้งประจักษ์รักแรกแปลกจริงหนอ
ดั่งได้ยินคำหวานแว่วถักทอ
ใจร่ำขอแว่วคำรักเธอลอยมา
ดอกไม้ร่วงโรยลงบนผิวน้ำ
ใจระส่ำยามแรกรักระลึกหา
เพลงคำหวานยังบรรเลงล่องลอยมา
เธอลับตาแต่เธอรัดมัดดวงใจ
ท่วงทำนองครองใจมิเสื่อมสลาย
ยังประปรายทั่วดวงจิตดุจน้ำใส
สบายหูสบายจิตเย็นชื่นใจ
รักเหลือใน คำหวาน เพลงโหมโรง